Mindblown: a blog about philosophy.
-
กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 20 พ.ย.2567
Day ปิดจบเป็นแท่งเขียว Doji ราคาน้ำมันยังคงทรงตัว พยายามทรงตัวเหนือกรอบ sideway เดิม แต่ขึ้นไปติดต้าน Supply H4 ยังคงรอปัจจัยเสริมช่วยหนุนราคาในเรื่องความรุนแรงของความขัดแย้ง รัสเซีย – ยูเครน ในขณะที่มีปัจจัยกดราคาในเรื่อง ปริมาณน้ำมันสต็อกคงคลังที่คาดว่าน่าจะมีมากในช่วงต้นปีหน้า H4 / H1 โครงสร้างเป็นเทรนด์ขาลง มีการเคลื่อนที่ในกรอบ Sideway 68.775 -69.520 ราคาสะสมกำลัง รอเลือกฝั่ง หลังจากพยายามขึ้นไปทดสอบ Supply H4 (70.778 -70.024) แต่ยังไม่สามารถผ่านยืนได้มีการสร้างสัญญาณกลับตัวทันทีที่ราคายกสูง (ฺBearish Divergence) รอให้สัญญาณเคลียรก่อนจึงจะสามารถ พิจารณาการเปิดออร์เดอร์ คาดว่าหากไม่มีข่าวความรุนแรงเพิ่มเติม ราคายังคงวิ่งขึ้นลงในกรอบ Sideway ไปเรื่อยๆ แนะนำ แนวรับ 68.624 / 68.128 /67.642 แนวต้าน 69.898/70.250 /70.800 ปฎิทินข่าว 20 พ.ย.2567 บทวิเคราะห์ข่าว
-
กลยุทธ์การลงทุน XAUUSD ประจำวันที่ 19 พ.ย. 2567
Day ปิดจบด้วยแท่งเขียว Engulfing ราคาดีดตัวขึ้น ทั้งปัจจัยความกังวลเรื่อง รัสเซีย-ยูเครน ประกอบกับการอ่อนค่าของ USD (DXY) จบปิด Price pattern Morning Star มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวสูงขึ้น # 18 Nov กองทุน SPDR เริ่มมีการซื้อทองคำ 1.72 ตัน รวมทองคำสุทธิ 871.65 ตัน H4/H1 ราคายืนแท่งเหนือ ราคา 2621.33 ซึ่งถือว่าเทรนด์ขาลงสิ้นสุดลงแล้ว รอการพักตัวเพื่อสร้างเทรนด์ต่อไป เริ่มปรากฎสัญญาณกลับตัว Bearish Divergence (MACD) คำแนะนำ แนวรับ 2570.82 /2563.78 /2553.92 แนวต้าน 2619.07 / 2611.67 /2598.29
-
กลยุทธ์การลงทุน GBPUSD ประจำวันที่ 19 พ.ย. 2567
D1 ราคายังคงเป็นเทรนด์ขาลง ปิดจบแท่งรายวัน Bullish Engulfing ราคาดีดตัวขึ้นมาหลังจากลงไปเทส กับ Demand Week ที่กรอบราคา 1.25977 – 1.24413 ประกอบกับ สัญญาณกลับตัวเฉพาะ Macd + และการอ่อนค่าของ USD H4 / H1 ราคาเคลื่อนที่ในเทรนด์ขาลง ยังคงวิ่งในกรอบ Sideway 1.27168 – 1.26326 ณ ปัจจุบัน ราคาอยู่ในกรอบ Supply H1 ปรากฎสัญญาณ Bearish Divergence (MACD +RSI) คำแนะนำ แนวรับ 1.26438 /1.26162 /1.25953 แนวต้าน 1.26935 /1.27258/1.27711
-
กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 19 พ.ย.2567
Day ปิดจบเป็นแท่งเขียว Engulfing ประกอบกับสัญญาณการกลับตัว Bullish Divergence (MACD) + ปัจจัยเสริมจากความความกังวลเรื่องสงคราม ยูเครน – รัสเซีย ส่งผลทำให้ราคาน้ำมันมีจังหวะทีปรับตัวสูงขึ้น โครงสร้างยังคงเป็นเทรนด์ขาลง ระดับราคา 72.970 เป็นระดับ Choch จุดสิ้นสุดเทรนด์ขาลง H4 โครงสร้างเป็นเทรนด์ขาลง มีการเคลื่อนที่ในกรอบ Sideway Down ที่กรอบราคา 69.268 -66.873 ปรากฎสัญญาณการกลับตัว Bullish Divergence (RSI + MACD) ส่งผลทำให้ราคาดีดตัวกลับขึ้นมา กรอบไซด์เวย์บน 69.268 เปิดตลาดเช้านี้ ราคาพยายามทรงตัวเหนือกรอบ H1 เทรนด์ขาลงสิ้นสุดลง แท่งชั่วโมงปิดจบที่เหนือกว่าระดับ 69.436 M15 ราคามีการลงมา Re-test กรอบไซด์เวย์บนแล้ว มีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นไป แนะนำ แนวรับ 68.350/67.850/67.250 แนวต้าน 69.700 /70.250 /70.800 บทวิเคราะห์ข่าว…
-
กลยุทธ์การลงทุน XAUUSD ประจำวันที่ 18 พ.ย. 2567
Week ราคายังคงเป็นเทรนด์ขาขึ้น ปิดจบแท่งสีแดง Marubozo Bearish Open ราคาลงมาทดสอบ แนวรับ Demand Day และดีดขึ้นกลับ Day ปิดจบด้วยแท่ง Doji ราคายังคงรอเลือกข้าง ราคามีแรงซื้อและขายสลับทั้งวันที่กรอบราคา 2577.26 -2553.90 เช้านี้ ราคาเปิด Gap และหลุดขึ้นมา เหนือโซนกรอบ Sideway ยก high ที่ราคา 2597.31 หากวันนี้ สามารถปิดเขียวได้จะเป็นโอกาสสำหรับฝั่งซื้อ ในวันพรุ่งนี้: 16 Nov กองทุน SPDR เริ่มมีการซื้อทองคำ 2.56 ตัน รวมทองคำสุทธิ 869.93 ตัน H4 เริ่มปรากฎสัญญาณ Hidden Bearish (MACD+RSI) ราคาอาจมีการปรับตัวลงในระยะสั้น H1 เปิดตลาดราคาดีดขึ้นจากกรอบ Sideway กรอบวันศุกร์ที่กรอบ 2576.69 – 2558.42 ราคายังคงเป็นเทรนด์ขาลง…
-
กลยุทธ์การลงทุน GBPUSD ประจำวันที่ 18 พ.ย. 2567
Week เทรนด์ขาขึ้นถูกทำลาย ปิดเป็นแท่งแดง Marubozo Bearish ยังคงไม่ปรากฎสัญญาณการกลับตัวใดๆ ปิดจบแท่งที่ 1.25990 ซึ่งสามารถทะลุแนวรับ Week (Demand H4) ลงมาได้ D1 ราคายังคงเป็นเทรนด์ขาลง ปิดจบด้วยแท่งแดงมีไส้บนล่าง Bearish with Shadow ราคาลงมาทดสอบ แนวรับ Demand Week ที่กรอบราคา 1.25977 – 1.24413 และดีดขึ้นทันที ปรากฎสัญญาณกลับตัวเฉพาะ Macd เช้านี้มีการดีดของราคาในช่วงเช้า H4 ราคาเคลื่อนที่ในเทรนด์ขาลง หลุดกรอบ Sideway ที่กรอบราคา 1.27168 -1.26326 เริ่มปรากฎสัญญาณการกลับตัว Bullish Divergence (MACD + RSI) มีโอกาสที่จะวิ่งกลับเข้าไปในกรอบ H1 พยายามทรงตัวเพื่อเข้าในกรอบ Sideway 1.27168 -1.26326 ประกอบกับแรงซื้อทางเทคนิค (Bullish Divergence RSI) ราคาเริ่มใกล้จุดเคลียรสัญญาณ…
-
กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 18 พ.ย.2567
Week / Day ราคาปิดอาทิตย์ทีแล้ว ด้วยแท่งแดงเต็มแท่ง (Marubozu Close Bearish) แรงขายยังคงมีอย่างต่อเนื่องตลอดอาทิตย์ ราคงลงมาทดสอบที่แนวรับ day ที่กรอบราคา 67.184 -66.618 เริ่มปรากฎสัญญาณกลับตัว Bearish Divergence (MACD) แต่ไม่แนะนำให้เข้าซื้อ เพราะสัญญาณอาจถูกทำลายได้หากวันนี้ปิดจบด้วยแท่ง Bearish H4 โครงสร้างเป็นเทรนด์ขาลง มีการเคลื่อนที่ในกรอบ Sideway Down ที่กรอบราคา 69.268 -66.873 ปรากฎสัญญาณการกลับตัว Bullish Divergence (RSI + MACD)ราคามีปรับตัวสูงขึ้นทันทีที่ลงมาแตะระดับ H1 ราคาเคลื่อนที่ในกรอบ Sideway Down ราคามีการหลุดกรอบไซด์เวย์เดิม 69.244 -67.475 เช้านี้ปรากฎสัญญาณ Bullish Divergence (Macd + RSI) ราคาเคลื่อนที่ใกล้จุดเคลียรสัญญาณ ซึงหากราคาไม่สามารถกลับเข้ากรอบไซด์เวย์ 69.244 -67.475 ได้ มีโอกาสที่จะร่วงกลับไปจุดเดิม แนะนำ…
-
CHFJPY: การวิเคราะห์เชิงเทคนิคหลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจาก BOJ ในปี 2024
ในปี 2024 ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มสภาพคล่องในตลาดการเงิน การเคลื่อนไหวนี้ได้สร้างผลกระทบสำคัญต่อตลาดเงินตราระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคู่เงิน CHFJPY ที่มีความผันผวนสูง บทความนี้จะนำเสนอการวิเคราะห์เชิงเทคนิคของคู่เงินดังกล่าว รวมถึงแนวโน้มและกลยุทธ์การลงทุนที่ควรพิจารณา ความสำคัญของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจาก BOJ ต่อคู่เงิน CHFJPY ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นนโยบายที่ BOJ ใช้เพื่อตอบสนองต่อภาวะเงินฝืดและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การลดอัตราดอกเบี้ยทำให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อคู่เงิน CHFJPY โดยเพิ่มความน่าสนใจในฝั่งของฟรังก์สวิสที่มีบทบาทเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย การวิเคราะห์เชิงเทคนิคของคู่เงิน CHFJPY แนวรับและแนวต้านสำคัญ ในการวิเคราะห์เชิงเทคนิค แนวรับและแนวต้านเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการพิจารณาทิศทางราคา ปัจจุบัน แนวรับที่สำคัญของ CHFJPY อยู่ที่ระดับ 150.50 และแนวต้านอยู่ที่ประมาณ 153.30 หากราคาสามารถทะลุแนวต้านนี้ไปได้ มีโอกาสที่จะเห็นการเคลื่อนไหวขึ้นต่อเนื่อง ดัชนี RSI และ MACD ในการพยากรณ์ราคา การใช้ดัชนีความแข็งแรงสัมพัทธ์ (RSI) เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยบ่งบอกถึงภาวะการซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป ปัจจุบัน RSI ของ CHFJPY อยู่ที่ระดับประมาณ 65 แสดงถึงแนวโน้มการซื้อที่เริ่มมีแรงผลักดัน นอกจากนี้ MACD…
-
Fed คืออะไร? บทบาทและหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐในปี 2025
ธนาคารกลางสหรัฐ หรือที่รู้จักในชื่อ “Fed” มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐและเป็นส่วนสำคัญในเศรษฐกิจโลก บทบาทที่สำคัญของ Fed ในปี 2025 จะยังคงเน้นไปที่การจัดการนโยบายการเงินเพื่อส่งเสริมการจ้างงานและรักษาราคาที่เสถียร นอกจากนี้ยังต้องรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจในยุคที่มีความผันผวนและความเสี่ยงทางการเงินสูงขึ้น มาเรียนรู้เพิ่มเติมถึงบทบาทหน้าที่ของ Fed ที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจในอนาคตกัน Fed คืออะไร? ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เป็นสถาบันที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยมีเป้าหมายหลักในการส่งเสริมการจ้างงานสูงสุด รักษาระดับราคาให้มั่นคง และควบคุมอัตราดอกเบี้ยให้มีความเหมาะสม ความสำคัญของ Fed ยังรวมไปถึงการดูแลระบบการเงิน การควบคุมสถาบันการเงิน การให้บริการทางการเงินแก่รัฐบาลกลาง และการเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาและรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินสหรัฐ หน้าที่และบทบาทของ Fed ในปี 2025 นโยบายการเงินเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ หนึ่งในหน้าที่สำคัญของ Fed คือการกำหนดนโยบายการเงินซึ่งรวมถึงการควบคุมอัตราดอกเบี้ยและการกำหนดอัตราส่วนสำรองเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ การตัดสินใจปรับขึ้นหรือลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed มีผลโดยตรงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ การลงทุน และการใช้จ่ายของประชาชน ในปี 2025 Fed ยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการจ้างงานสูงสุดโดยการสร้างสภาวะที่เอื้อต่อการจ้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจ การเพิ่มโอกาสในการทำงานช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตและเพิ่มความมั่นคงของครัวเรือน ทำให้การบริโภคในระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง การควบคุมอัตราเงินเฟ้อเป็นหนึ่งในบทบาทหลักที่สำคัญ Fed จะกำหนดนโยบายเพื่อควบคุมไม่ให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มสูงเกินไป อัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถลดกำลังซื้อของประชาชนและส่งผลต่อการวางแผนทางการเงินในระยะยาว ดังนั้น การรักษาเสถียรภาพราคาจะเป็นการป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย Fed มีบทบาทในการควบคุมดูแลสถาบันการเงิน เช่น…
-
หลักการ Dow Theory เครื่องมือวิเคราะห์ที่ทรงพลังสำหรับเทรดเดอร์ปี 2025
Dow Theory เป็นทฤษฎีการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายและเป็นรากฐานของการศึกษาตลาดหุ้นและการเคลื่อนไหวของราคา โดยทฤษฎีนี้เกิดขึ้นจาก Charles Henry Dow ซึ่งแนะนำว่าตลาดสะท้อนข้อมูลทั้งหมดที่มีผลต่อราคาอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ Dow Theory ยังชี้ว่าแนวโน้มหลักมักประกอบด้วย 3 ระยะสำคัญ คือ ระยะการสะสม (Accumulation) ระยะเกิดแนวโน้ม (Participation) และระยะการกระจาย (Distribution) ในปี 2025 Dow Theory ยังคงเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับการวิเคราะห์กราฟและเหมาะกับนักลงทุนที่สนใจทั้งตลาดหุ้นและตลาดคริปโต Dow Theory: เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่นักลงทุนต้องรู้จัก Dow Theory เป็นทฤษฎีการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ถือว่าเป็นพื้นฐานสำคัญในโลกการเงินและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย โดย Charles Henry Dow ผู้ก่อตั้ง ได้วางรากฐานความเข้าใจเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาที่สะท้อนข้อมูลทุกอย่างในตลาด รวมถึงแนวโน้มราคาที่เกิดขึ้นเป็นระยะในตลาดหุ้นและคริปโต ในปี 2025 นี้ นักลงทุนยังคงสามารถใช้ Dow Theory เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์แนวโน้มราคาและการเคลื่อนไหวของตลาด ความสำคัญของ Dow Theory ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค การทำความเข้าใจ Dow Theory จะช่วยให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มในตลาดได้ดียิ่งขึ้น โดย…
Got any book recommendations?