Day โครงสร้างยังคงเป็นเทรดนขาลง วานนี้ราคาพยายามดีดขึ้นไปทดสอบจุด Choch Day ที่ 64.772 แต่ยังคงไม่สามารถทะลุผ่านแนว Supply H4 (QM Zone)ที่กรอบ 62.517-63.524 ขี้นไปได้ ปิดแท่ง Bullish with shadow น้ำมันได้รับแรงหนุนตลอดทั้งวันจากการอ่อนค่าของ USD(DXY) จากความกังวลในเรื่องสงครามการค้ารอบใหม่ แต่ปรับร่วงลงมา จากข้อมูล PMI – ภาคการผลิต ที่ออกมาน้อยกว่า เดือนที่แล้ว ซึ่งสะท้อนเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังชะลอตัวอยู่ และแม้มีปัจจัยกดดันจากการ OPEC+ มีมติเพิ่มปริมาณการผลิต แต่ยังคงปัญหาเรื่องไฟป่าในแคนาดา ทำให้มีปัจจัยเชิงบวกต่อราคาน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ WTI งวดส่งมอบเดือน ก.ค. ปิดที่ 62.52 ดอลลาร์สหรัฐต่อาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.85%
ประกาศตัวเลข PMI – Manufacturing สะท้อนเศรษฐกิจชะลอตัว … กดดันความต้องการน้ำมัน และราคาน้ำมัน
- 2 มิ.ย. ประกาศตัวเลข PMI-ภาคการผลิต ฝั่งสหรัฐ ออกมาที่ 48.5 (ในขณะที่คาดการณ์ ที 49.3 และเดือนก่อนหน้าที่ 48.7) สะท้อน ภาคเศรษฐกิจโดยเฉพาะการผลิตสินค้าปรับชะลอตัว
- 3 มิ.ย ประกาศ ตัวเลข PMI -ภาคการผลิต ฝั่งจีน ออกมาที่ 48.3 (ในขณะที่คาดการณ์ 50.7 และเดือนก่อนหน้าที่ 50.4) สะท้อนภาคาเศรษฐกิจโดยเฉพาะการผลิตสินค้าปรับชะลอตัว – หดตัว ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า มาตรการภาษีของทรัมป์ ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตของจีนอย่างชัดเจนแล้ว
ไฟป่าในรัฐ แอลเบอร์ต้า แคนาดา ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน … ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน
- ไฟป่าดังกล่าว ส่งผลให้การผลิตน้ำมันดิบของแคนาดาลดลงประมาณ 344,000 บาร์เรลต่อวัน (7% ของการผลิตน้ำมันดิบทั้งหมดของแคนาดา) บริษัทผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ เช่น Canadian Natural Resources, Cenovus Energy และ MEG Energy ได้ทำการอพยพพนักงานและปิดหรือชะลอการผลิตในพื้นที่สำคัญของแหล่งน้ำมันทรายน้ำมันรอบเมืองฟอร์ตแมคเมอร์เรย์และทะเลสาบคริสตินา
- แคนาดาเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดไปยังสหรัฐฯ โดยคิดเป็นประมาณ 25% ของการนำเข้าน้ำมันดิบทั้งหมดของสหรัฐฯ การลดอุปทานแคนาดาจะส่งผลต่อโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐ ทั้งเบนซินและดีเซล
ทรัมปประกาศขึ้นภาษี เหล็ก-อะลูมิเนียม เป็น 50 %... กดดัน USD(DXY) ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมันระยะสั้น
- 2 มิ.ย. จดหมายจากสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เร่งรัดให้ประเทศคู่ค้ายื่นข้อเสนอการค้าที่ดีที่สุดภายในวันพรุ่งนี้ 4 มิ.ย. ซึ่งสหรัฐจะใช้เวลาในการประเมินข้อเสนอ เพื่อเร่งนัดการเจรจา ก่อนจะถึงกำหนดเส้นตายวันที่ 8 ก.ค. ทั้งนี้ยังไม่มีระบุประเทศที่จดหมายฉบับนี้ส่งไปถึง
- 31 พ.ค. การเจรจาการค้ารอบที่ 4 ระหว่างสหรัฐ – ญีปุ่น เสร็จสิ้นแล้วแต่หลังจากการประชุมไม่นาน ทรัมป์ประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าเหล็ก-อะลูมิเนียม ซึงส่งผลให้ เรียวเซ อาคาซาวะ รมต.กระทรวงฟื้นฟูเศรษฐกิจญีปุ่นต้องรีบนัดเจรจาการค้ารอบใหม่ในสัปดาห์นี้ เพื่อขอให้สหรัฐผ่อนปรนนโยบายภาษีดังกล่าว ซึ่งแม้ว่านายกญี่ปุ่นและทรัมป์จะมีนัดการประชุมสุดยอดผู้นำโลก G7 (15-17 มิ.ย.)ที่แคนาดา ซึ่งมีหัวข้อการประชุมเรื่อง นโยบายภาษีสหรัฐ รวมอยู่ด้วย แต่มีโอกาศทีทรัมป์จะกลับลำกร้าวแข็งกับนโยบายภาษีอื่นๆ
- 31 พ.ค. ทรัมป์ประกาศเพิ่มภาษี เหล็ก- อะลูมิเนียม จาก 25% เป็น 50%โดยเริ่ม 4 มิ.ย. 2025 เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมภายในประเทศ (ส่งผลต่ออาหารกระป่อง)
- สหภาพยุโรป EU กล่าว การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็น “บ่อนทำลาย”ความพยายามในการเจรจากสงครามการค้า และพร้อมตอบโต้มาตราการค้าต่อการขึ้นภาษีดังกล่าว
- Wallstreet เตือน มาตรการภาษีสำหรับนักลงทุนต่างชาติในร่างกฎหมายงบประมาณสหรัฐฯ ที่กำลังพิจารณาในสภาคองเกรส (OBBB) อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้อนุมัติร่างกฎหมายภาษีและการใช้งบประมาณ และจะจัดเก็บภาษีแบบก้าวหน้า สูงสุดถึง 20% สำหรับรายได้ passive income ของนักลงทุนต่างชาติ เช่น เงินปันผลและดอกเบี้ย ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนไม่ลงทุนในพันธบัตรสหรัฐเลยแต่ย้ายไปยังประเทศที่ต้นทุนกต่ำกว่า
- ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า นโยบายภาษีทรัมป์ สร้างความเสียหายให้กับบริษัทต่างๆ มากกว่า 34,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งจากยอดขายที่หายไป และต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก ทั้ง Apple, Ford, Porsche และ Sony ต่างต้องปรับลดหรือระงับคาดการณ์กำไร และไม่สามารถประมาณการต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้
ทรัมป์นัดคุยสิจิ้นผิง ในสัปดาห์นี้ … ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำม้น
- 2 มิ.ย. ทรัมป์เนียบขาวยังคงยืนยัน จะมีการเจรจาระหว่าง ทรัมป์และสีจิ้นผิง ในสัปดาห์นี้จริง แม้ว่า ล่าสุด จีน จะออกมาปฎิเสธข้อกล่าวหาสหรัฐ ว่าเป็นผู้ละเมิดพักรบข้อตกลงการค้าใน 90 วัน แต่เป็นทางสหรัฐที่ยังไม่ยกเลิกการควบคุมการส่งออกชิปและเทคโนโลยีให้กับจีนอีกทั้งยังยกเลิกวีซ่านักเรียนจีนในสหรัฐ ทั้งสิ้น 277,000 คน (ใกล้เคียงกับจำนวนนักเรียนจีนทั้งหมดในสหรัฐ” แต่จีนยังคงไม่เร่งรัดอนุมัติ “ใบอนุญาติ”ส่งแร่หายาก Rare Earth ไปยังทั่วโลกเช่นกัน
- 1 มิ.ย. ภายหลัง Kevin Hassett ที่ปรีกษาธรรมเนียบขาว (นักเศรษฐศาสตร์) ออกมากขี้แจง ทั้ง ทรัมป์ และ สีจิ้นผิง จะมีการพบปะพูดคุยกันในสัปดาห์นี้ และคาดว่า จะมีการเจรจาเรื่อง ข้อกำหนดใน 90 วัน + การควบคุมการส่งออกชิปไปจีนและ การ จำกัดส่งออกแร่ Rare Earth อีกด้วย
- 30 พ.ค. ทรัมป์ กล่าวว่าจีน “ละเมิดข้อตกลงการค้าเบื้องต้นกับสหรัฐฯ อย่างสิ้นเชิง” และระบุว่าจะดำเนินการตอบโต้ โดยทรัมป์โพสต์ในโซเชียลมีเดียพร้อมระบุว่า “แล้วอย่างนี้จะเรียกว่าคนดีได้ยังไง! โดยจีนผิดสัญญาที่จะระงับการขึ้นภาษีตอบโต้ระหว่าง 2 ประเทศ ทั้งนี้จีนให้ความเห็นว่า สหรัฐ ยังคงควบคุมการส่งออกชิป และเทคโนโลยีไปจีน ซึ่งถือเป็นการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม
- 29 พ.ค. สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน “หยุดชะงักเล็กน้อย” และระบุว่าการมีส่วนร่วมโดยตรงระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง อาจจำเป็นเพื่อขับเคลื่อนการเจรจาให้ก้าวหน้า ทั้งนี้ยังคงไม่มีการเจรจาใดๆเพิ่มเติมหลังจากที่ได้ข้อสรุป ในวันที่ 14 พ.ค. สหรัฐลดภาษีสินค้าจากจีนเหลือ 30% ,จีนลดภาษีสินค้าสหรัฐ เหลือ 10% ซึง่จะเริ่มต้นหลังวันที่ 14 พ.ค. อีก 90 วัน
OPEC+ ตัดสินใจเพิ่มการผลิต วันละ 411,000 ต่อเนื่องในเดือน ก.ค. … กดดันราคาน้ำมัน
- กลุ่ม OPEC+ ตัดสินใน เพิ่มกำลังการผลิต 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนก.ค.นี้ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มการผลิตติตต่อกันเป็นเดือนที่ 3 หลังจากเริ่มทยอยยกเลิกมาตรการลดการผลิตโดยสมัครใจที่มีผลมาตั้งแต่ปี 2022 โดยการเพิ่มกำลังการผลิตนี้เป็นส่วนหนึ่งของการยกเลิกการลดการผลิตโดยสมัครใจรวม 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเริ่มต้นในเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลของการเพิ่มกำลังการผลิต 1.ฟื้นฟูส่วนแบ่งตลาด (โดยเฉพาะสหรัฐ) / ลงโทษสมาชิกที่ผลิตเกินโควต้า /ตอบสนองความต้องการทีคาดว่าจะเพิ่มในฤดูร้อนนี้
- Goldman Sachs คาดว่า OPEC+ อาจเพิ่มการผลิตอีก 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนสิงหาคม และหลังจากนั้นอาจคงระดับการผลิตไว้ เนื่องจากคาดการณ์ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว และมีการเพิ่มการผลิตจากประเทศนอกกลุ่ม OPEC
อิหร่านไม่พอใจผลการตรวจ IAEA ขู่จะตอบโต้หากรายงานนี้เอาไปใช้ในวันที 9 มิ.ย. … ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน
- จากข้อสรุปการเจรจานิวเคลียร์ในอิหร่าน (สหรัฐ-อิหร่าน โดยมี โอมานเป็นประเทศคนกลาง) รอบที่ 5 วันที่ 23 พ.ค. ข้อสรุปคืออิหร่านต้องยอมให้ IAEA(ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ)เข้าตรวจสอบเพื่อแสดงความโปร่งใส่ตามวัตถุประสงค์”นิวเคลียร์เพื่อสันติของอิหร่าน” จริง ก่อนการนัดเจรจาในรอบถัดไป
- ผลการตรวจ IAEA ซึ่งรวมถึงตรวจสอบวัสดุนิวเคลียร์ที่พบในสถานที่ 3 แห่งซึ่งอิหร่านไม่ได้แจ้งไว้ก่อนหน้านี้ ออกมาว่า “น่าพอใจน้อยกว่าที่ควร พบข้อกังวลหลายประการ” ซึ่งอิหร่านออกมาปฎิเสธรายงานฉบับนี้ และยืนยันว่า อิหร่านให้ความร่วมมือภายใต้สนธิสัญญา NPT และข้อตกลง JCPOA และขู่ว่า จะมีมาตราการตอบโต้จากอีหร่าน หากรายงานนี้ถูกนำไปใช้ในการดำเนินการต่อในที่ประชุม IAEA วันที่ 9 มิ.ย.
อิสลาเอล – ฮามาส การเจรจาที่ส่อเค้าล่ม … ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน
- ฮามาสล้างไพ่ กลับลำยืนข้อเสนอ ขอปล่อยตัวประกันอิสลาเอล 3 ระยะ โดยให้ต่างชาติเข้าดูแล และอิสลาเอลต้องถอนกำลังออกจากฮามาสและพักรบ 5 ปี พร้อมทั้งให้คณะกรรมการเทคโนแครตฝายพลเรือนเข้ามาดูแลกาซ่า ในขณะทีอิสลาเอลปฎิเสธยอมรับเงื่อนไขใดทั้งสิ้นจากฮามาส นอกจากการปลดอาวุธของฮามาสและถอนกำลังออกจากกาซ่า ข้อเสนอฮามาสเป็นข้อเสนอใหม่ในสัปดาห์นี้หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐออกมาชื่นชมฮามาสว่ายอมรับข้อเสนอหยุดยิง60 วัน เพื่อเปิดโอกาสสู่การเจรจาทางอ้อมในสัปดาห์หน้า ในขณะที่การสู้รบในฉนวนกาซ่ายังดำเนินต่อไป ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต31 ราย จากการกลาดยิงศุนย์แจกจ่ายความช่วยเหลือเมือง ราฟาห์ ซึ่งอิสลาเอลออกมาปฎิเสธปฎิบัติการดังกล่าว
H4 /H1 : ราคาน้ำมันยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ Sideway (แนวรับ Demand H4 59.451 และแนวต้าน Supply H4 63.230 แต่ถือว่าเป็นการเคลื่อนที่ออกจากกรอบ Channel Downtrend H4 แล้ว
แนะนำ
- เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซื้อ)ที่กรอบ 61.919-61.424 / SL 60.500 เพื่อทำกำไรที่ 62.154/62.306/62.561/62.740/62.993/63.140
- เปิดสถานะซื้อ (รอสํญญาณซื้อ)ที่กรอบ 59.586-60.495/ SL 60.000 เพื่อทำกำไรที่ 60.607/60.753/61.247/61.397
แนวรับ 61.426/60.495/59.999
แนวต้าน 63.244/63.985/64.772

ปฎิทินเศรษฐกิจ 3 มิ.ย.2568

บทวิเคราะห์ข่าว
- วานนี้ประกาศ PMI ประกาศตัวเลข PMI-ภาคการผลิต ฝั่งสหรัฐ ออกมาที่ 48.5 (ในขณะที่คาดการณ์ ที 49.3 และเดือนก่อนหน้าที่ 48.7) สะท้อน ภาคเศรษฐกิจโดยเฉพาะการผลิตสินค้าปรับชะลอตัว ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน / ในขณะที่ตัวเลข ดัชนีต้นทุนการผลิต ออกมาเพียง 69.4% น้อยกว่าเดือนที่แล้วและน้อยกว่าคาด ซึ่งคาดว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวร่วงลงในการประกาศสัปดาห์หน้า
- 3 มิ.ย.ถ้อยแถลงของ เจอโรม พาวเวลล์ไม่ได้กล่าวถึงทิศทางนโยบายการเงินหรือการปรับอัตราดอกเบี้ยแต่อย่างใด ซึ่งก่อนหน้านี้ 29 พ.ค. ทรัมป์ ได้เชิญพาวเวลล์เข้าพบที่ทำเนียบขาว และได้แสดงความเห็นว่าการไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็น “ความผิดพลาด” ขณะที่พาวเวลล์ยืนยันว่า Fed จะดำเนินนโยบายการเงินโดยอิงตามข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับ และจะตัดสินใจอย่างเป็นกลางและไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งคาดว่าตรงกับ J.Waller ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ แถลงในวันที่ 2 มิ.ย.
Leave a Reply