กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 4 ส.ค. 2568

Day ศุกรที่ผ่านมา ราคาน้ำมันปรับตัวร่วงลงทันทีที่ประกาศตัวเลข Nonfarm น้อยเกือบครึ่งของเดือนที่ผ่านมาในขณะที่อัตราการว่างงานยังคงสูงกว่าเดือนที่แล้ว สะท้อนเศรษฐกิจ ชะลอตัว ในขณะทีกลุ่ม OPEC+ สรุปผลการประชุมเร่งกำลังการผลิตในเดือน ก.ย. สร้างความกังวลอุปสงค์น้ำมันในตลาดมีแนวโน้มลดลง ราคาน้ำมันใน TF Day คงเป็นการเคลื่อนที่ออกข้าง ในแนว Sideway Up น้ำมันย่อตัวลงระดับ 67.655 (สัปดาห์สุดท้ายของเดือน มิ.ย) ซึ่งถึงว่าอยู่ในระดับ 50% ของการเคลื่อนที่ขึ้นของการเคลื่อนที่ก่อนหน้า ราคาน้ำมันเก็บกำลังในกรอบไซด์เวย 4 สัปดาห์ บริเวณ กรอบ 65.226-70.026 ก่อนที่จะดีดทะลุกรอบดังกล่าว ในวันพุธที่แล้ว หลังประกาศค่า GDP ออกมาดีเกินคาด ทั้งนี้ราคาน้ำมันยังคงไม่สามารถ ดีดทะลุขึ้นไปบริเวณแนวต้านที่ระดับ 78.088 ได้ ซึ่งจะเป็นจุด BOS ยืนยันการเป็นเทรนด์ขาขึ้นของ TF Day ปิดแท่งรายวัน Bearish Marubozo

น้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) ปิดที่ $ 67.33 ต่อบาร์เรล ลดลง 2.79%

ผลการประชุม OPEC+ ปรับเพิ่มกำลังการผลิต ในเดือน ก.ย. … ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน

• กลุ่ม OPEC+ บรรลุข้อตกลงในการกำลังการผลิตน้ำมันอีกครั้งในปริมาณมากสำหรับเดือนก.ย. ซึ่งถือเป็นการฟื้นฟูกำลังการผลิตส่วนที่เคยระงับไปให้กลับคืนมาอย่างสมบูรณ์ เพื่อต้องการจะทวงคืนส่วนแบ่งจากตลาดโลก (นอกเหนือจากตลาด WTI และ Brent)
• ซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรน้ำมันตกลงเพิ่มกำลังการผลิต 548,000 บาร์เรล/วันในเดือนกันยายน
• ยกเลิกแผนการลดกำลังการผลิตเดิม 2.2 ล้านบาร์เรล ที่เคยทำมาในปี 2023
• ให้โควต้าพิเศษเพิ่ม(อนุญาติให้ผลิตเพิ่ม) สำรหับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วย

ประกาศตัวเลข Nonfarm จำนวนรับสมัครงาน เหลือแค่ 73,000 คน … กดดัน ราคา USD และราคาน้ำมัน

• 1 ส.ค. ประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร Nonfarm ออกมาเพียงแค่ 73,000 ตำแหน่ง (เดือน ก.ค. 147,000 ตำแหน่ง) ลดลงเกินครึ่ง คาดเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว … ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน ในขณะเดียวกัน USD ให้เกิดแรงเทขายออกมาอย่างหนัก หลังนักลงทุนคาด Fed น่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้ FED Watch Tool มุมมองนักลงทุนคาด ว่าจะปรับลดดอกเบี้ย 4.25% ในวันที่ 17 ก.ย. (การประชุมครั้งหน้า) 77.7% (เพิ่มจาก 38.4%)
• 2 ส.ค. ทรัมป์ โพสต์วิจารณ์ Dr.Erika McEntarfer ผู้บริหาร Bureau of Labor Statistics (สนง สถิติแรงงาน กระทรวงแรงงาน สหรัฐ) ระบุ ข้อมูลดังกล่าว เป็นการบิดเบียนภาพลักษณ์ของทรัมป์และพรรครีพับลิกัน Nonfarm ที่เกิดขึ้นเป็นการปั่นตัวเลขโยไม่มีหลักฐาน  “เขาได้สั่งปลดเธอทันที พร้อมหาคนใหม่มาแทนเร็วๆนี้” 
• 3 ส.ค. ทรัมป์โพส วิจารณ์ การทำงาน เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ตำหนิ ในความล่าช้า และไม่เหมาะสมกับตำแหน่งในการ ไม่รีบ “ปรับลดอัตราดอกเบี้ย”
• Fed ออกแถลงการณ์ ระบุ “อเดรียน่า คูเกลอร์”กรรมการผู้ว่าการ Fed ประกาศลาออกจากตำแนห่งมีผล 8 ส.ค. (ลาออกก่อนวาระสิ้นสุดในวันที่31 ม.ค. 2026)ส่งผลกระทบต่อกระบวนการ สรรหาผู้บริหารเฟดชุดใหม่

ทรัมป์ ลงนาม Executive Order สำหรับ 69 ประเทศสำหรับภาษีเฉพาะประเทศ … ปัจจัยบวกต่อ USD และน้ำมัน

• 31 ก.ค. ทรัมป์ ลงนาม Executive Order สำหรับ 69 ประเทศ บังคับใช้ 7 ส.ค. 2025
  แต่สำหรับ แคนาดา เริ่มบังคับใช้ก่อนวันที่ 1 ส.ค. โดยคิดภาษีนำเข้าสหรัฐตั้งแต่ 10 – 41%
• ภาษีพื้นฐาน 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากประเทสที่ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงพิเศษ (หรือได้รับการยกเว้น) บังคับใช้ 5 เม.ย.
• ภาษีเฉพาะสินค้า Section 232 Tariffs
  – เหล็กและอะลูมิเนียม เพิ่มอัตราภาษี 50% (ยกเว้น อังกฤษ คิดอัตรา 25%)
  – ทองแดง ประกาศเรียกเก็บเฉพาะ Semi Finished Copper และ Derivative Copper คือ อุปกรณ์ที่มีส่วนผสมของทองแดง คิดภาษีนำเข้า 50% ในขณะที่ ทองแดงบริสุทธิ (Non-Copper Content) ไม่ถูกเก็บภาษีนำเข้า

H4/H1 โครงสร้า เป็นเทรนด์ขาขึ้นระยะสั้น ราคาน้ำมันปรับตัวย่อลงมาหลังจากไม่ผ่านแนวต้าน FVG H1 บริเวณกรอบ 69.382-69.947 เกิดสัญญาณ Bearish Divergence ณ ปัจจุบันราคาปรับย่อตัวลง 65.925 ซึ่งอยู่บริเวณ 78.6% ของการเคลื่อนที่ขึ้น TF H4 มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงทดสอบกรอบ Channel Downtrend หรือหลุดเข้ามาในกรอบเพื่อสะสมกำลังใหม่

คำแนะนำ

• เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย) บริเวณกรอบ 66.720-65.985 /SL 67.500 เพื่อทำกำไร ระยะสั้น 65.550/65.037/64.762/64.412/64.230
• เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย) บริเวณกรอบ66.682-67.381 /SL 67.500 เพื่อทำกำไร ระยะสั้น 66.531/66.339/65.550/65.037/64.762/64.412/64.230

แนวรับ 67.745/66.767/65.488

แนวต้าน 67.407/68.483/69.901