(right)ตลาดหุ้นสหรัฐ
ปิดบวกเล็กน้อยและดัชนีทั้ง 3 ตัวปรับตัวขึ้นอีกในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาขณะที่นักลงทุนประเมินความเห็นจากเจ้าหน้าที่ FED และจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญในสัปดาห์นี้ หุ้น 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 นั้น กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นมากที่สุด ขณะที่กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวย่ำแย่ที่สุด หุ้นอินวิเดีย ปรับตัวขึ้น 1.3% หลังไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง โค (TSMC) บริษัทผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลกและซัพพลายเออร์รายใหญ่ของอินวิเดีย รายงานยอดขายเดือนเม.ย.พุ่งขึ้นเกือบ 60% การเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกใกล้สิ้นสุดลง โดยข้อมูลจาก LSEG บ่งชี้ว่า บริษัท 459 แห่งในดัชนี S&P500 รายงานผลประกอบการออกมาแล้ว โดย 77% รายงานผลประกอบการที่สูงเกินคาด บรรดานักลงทุนจะจับตาตัวเลขเงินเฟ้อในสัปดาห์หน้า โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันที่ 14 พ.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 15 พ.ค.
(right)ตลาดหุ้นยุโรป
ปิดบวกที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนม.ค. เนื่องจากความต้องการเสี่ยงได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในยุโรป และการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ปลายปี 2566 โดยได้แรงหนุนจากความสนใจในด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ECB บ่งชี้ว่า ผู้กำหนดนโยบายสนับสนุนการเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินในเดือนมิ.ย. ขณะที่ยังคงเชื่อมั่นว่า เงินเฟ้อจะลดลงสู่ระดับ 2% ในปีหน้า
(right)ตลาดหุ้นจีน
ปิดบวกเพียงเล็กน้อย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ หลังจากมีรายงานว่าคณะบริหารของ Jo Biden ประกาศขึ้นบัญชีดำดำหน่วยงานหลายแห่งของจีน และมีแนวโน้มที่จะใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าครั้งใหม่ ดัชนีผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อหลัก เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนเม.ย. สมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งประเทศจีนเปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตและจัดจำหน่ายยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ของจีน ช่วงเดือนเม.ย. อยู่ที่ 870,000 คัน และ 850,000 คันตามลำดับ ซึ่งเพิ่มขึ้น 35.9% และ 33.5% เมื่อเทียบรายปี ส่งผลให้ยานยนต์พลังงานใหม่ครองส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 36% ในเดือนเม.ย.
(right)ตลาดหุ้นญี่ปุ่น
ปิดบวกท่ามกลางความคาดหวังว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ แต่นิกเกอิปรับตัวขึ้นอย่างจำกัด ท่ามกลางความระมัดระวังเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทญี่ปุ่น นายชินโก อิเดะ หัวหน้านักกลยุทธ์ด้านตราสารทุนของสถาบันวิจัย NLI กล่าวว่า “นักลงทุนตอบสนองมากกว่าปกติต่อแนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอกว่าที่คาด เพราะก่อนหน้านี้นักลงทุนคาดหวังว่าจะได้เห็นผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งตามทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐและเงินเยนที่อ่อนค่า”
น้ำมันดิบ NYMEX ปิดที่ US$78.26/barrel ลดลง US$1.00/barrel หรือ -1.26%
ก๊าซธรรมชาติ NYMEX ปิดที่ US$2.252/MMBtu ลดลง US$0.049/MMBtu หรือ -2.13%
ทองคำ COMEX ปิดที่ US$2,375.00/ounce เพิ่มขึ้น US$34.70 หรือ +1.48%
Strategy
(right)สำหรับระยะสั้นเรามองว่าแนวตลาดน่าจะยังมีโมเมนตัมเชิงบวกจากการปรับมุมมองในด้านอัตราดอกเบี้ย แต่ระมัดระวังความผันผวนในช่วงประกาศผลประกอบการ และความไม่สงบในตะวันออกกลาง โดยเราแนะนำหาจังหวะทยอยเข้าลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ
(right)สำหรับผู้ลงทุนระยะยาว เราแนะนำทยอยสะสมหุ้นสหรัฐฯ จากมุมมองบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2024 โดยแนะนำกลุ่มที่ฟื้นตัวไปกับเศรษฐกิจ และได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเทคโนโลยีอย่างกลุ่ม Semiconductors และ Technology
Leave a Reply