กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 11 ธ.ค.2567

Day ภาพรวมยังคงเป็นเทรนด์ขาลง ปิดตลาดเมื่อวานนี้ ด้วยแท่ง Bullish with long Shadow ราคาเปิดเปิด Gap เหมือนในทุกเช้าที่ผ่านมา พยายามขึ้นไปทดสอบแนวต้านรายวัน ที่กรอบราคา 68.867 -68.646 ก่อนจะมีการเทขายในช่วงดึกของวัน เช้านี้ราคายังคงเปิด Gap และดีดขึ้นไป ทดสอบบริเวณแนวต้านรายวัน

H4 โครงสร้างยังคงเป็นเทรนด์ขาลง ราคายืนเหนือแนวรับ H4 ที่กรอบราคา 67.545 -67.800 เพื่อเข้าสู่กรอบแนวต้านรายวัน ซื่งมีการที่ราคาจะย่อตัวลงเล็กน้อยเพื่อขึ้นต่อ ตาม ภาพ Inverse Head and Shoulder

H1 โครงสร้างเทรนด์ขาลงระยะสั้นสิ้นสุดลง ทำราคาปิดเหนือ 68.665 ซึ่งเป็น จุด Choch สำหรับ เทรนด์ขาลง แม้ว่าราคาปิดแล้วจะย่อลง ซึ่งมีโอกาสทั้งเป็นช่วงปรับสะสมแรง Sideway หรือ เปลี่ยนเป็น เทรนด์ขาขึ้นทันทีที่มีปัจจัยเสริม

แนะนำ

พิจารณาแนวรับ H4 กรอบราคา 67.545-67.800

• เปิดสถานขาย (รอสัญญาณขาย) ที่กรอบราคา 68.910 – 68.646 / SL 69.00 เพื่อทำกำไรระยะสั้น 68.440 /68.300
• เปิดสถานซื้อ (รอสัญญาณซื้อ) ที่กรอบราคา 68.190 -67.972 / SL 67.000 เพื่อทำกำไรที่ราคา 68.464 /68.700/68.910
• ติดตามสถานนะการความตึงเครียสในตะวันออกกลาง อิสราเอล – ซีเรีย ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อราคาน้ำมัน

แนวรับ 67.993 /67.511 /66.911

แนวต้าน 70.272/69.497/68.874

ปฎิทินข่าว 11 ธ.ค. 2567

บทวิเคราะห์ข่าว

• ราคาน้ำมันมีการเปิด Gap (ราคากระโดด) ในทุกๆเช้า แสดงให้เห็นว่า ตลาดจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของ WTI ยังคงมีความต้องการในการใช้น้ำมันอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สอดคล้องกับกับการที่จีนมีนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง (ส่งผล + ต่อราคาน้ำมัน)
• เปิดตลาดเช้านี้ได้รับอานิสง ทั้งเรื่องจีน และ การความขัดแย้งระหว่าง อิสราเอล – ซีเรีย ,ซึ่งอิสราเอลมีการเข้าโจมตี และยึดเมืองทางตอนใต้ของซีเรีย เนื่องจากภาวะการไร้ผู้นำ ที่หลบหนีออกไปรัสเซีย เนื่องจากเกิดกบฎขึั้นภายในประเทศ แม้ว่าอิสราเอล จะทำข้อตกลงยุติการหยุดยิงกับเลบาลนอล(กลุ่ม ฮิซบอลเลาะห์)แล้ว ซึ่งความขัดแย้งในครั้งใหม่นี้ ถือว่าปัญหาทางยุทธศาสตร์ในซีเรียประเทศที่ติดกับเลบานอล ติดตามความขัดแย้ง ว่าจะรุกรามและบานปลายออกไปหรือไม่ (ส่งผล + ต่อราคาน้ำมัน)
• ติดตามรายงานผลการประชุม OPEC วันนี้ ซึ่งจะเป็นรายงานฉบับสุดท้ายของปี จะประกาศถึงตัวเลขน้ำมันในสต็อก ตลอดจนนโยบายการเพิ่ม-ลด กำลังการผลิตในปีหน้า ซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางราคาน้ำมันในปีหน้า
• ราคาน้ำมันยังคงดีดตัวขึ้นได้ไม่ไกล เนื่องจากมีแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้น ของ USD (DXY) ซึ่งนักลงทุนจับตาผลการประกาศตัวเลข CPI คืนนี้
• CPI Y/Y ซึ่งจะเป็นตัวเลขที่บอกอัตราเงินเฟ้อปัจจุบันโดยตรง
• หากค่าประกาศ > 2.7 % (มากกว่าคาดการณ์) ส่งผลทำให้นักลงทุนคาดว่า FED มีโอกาสที่จะขยายการปรับดอกเบี้ยลงไปออกไปอีกในปีหน้า ดังนั้นจะเริ่มมีการเทขาย USD สินทรัพย์(คู่เงิน) ที่จับคู่ตรงข้ามกับ USD จะดีดตัวขึ้น
• หากค่าประกาศ = 2.7 % ราคาจะแกว่งตัวผันผวน และเนื่องจากตลาดมีการซึมซับไว้ในช่วงเช้า ที่มีประกาศค่าคาดการณ์ไว้แล้ว แนะนำให้เข้าเทรดอีกที ในเวลา 9.00 PM เพื่อดู Price Action H1 เพื่อหาจังหวะการทำกำไร
• หากค่าประกาศ < 2.6% (น้อยกว่าเดือนที่แล้ว) ส่งผลทำให้นักลงทุนคาดกว่า Fed น่าจะยกเลิกการปรับดอกเบี้ยลง นักลงทุนจะหันมาถือ USD ที่เป็นสินทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ย มากกว่าการถือสินทรัพย์อื่น ราคา USD จะดีดขึ้น ขณะที่ สินทรัพย์(คู่เงิน) ที่จับคู่ตรงข้ามกับ USD จะร่วงลง + Panic ตลาด
• ทั้งนี้ ข่าวความขัดแย้ง (สงคราม) โดยเฉพาะในตะวันออกกลางจะส่งผลโดยตรงต่อราคาน้ำมัน มากกว่าข่าวประกาศ CPI ซึ่งจะให้ผลในช่วงสั้นๆ