ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์คปิดทำการในวันจันทร์ที่ 19 ก.พ.เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ ส่วนราคาทองสปอตปรับขึ้น 4.53 ดอลลาร์ สู่ 2,017.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 2,022.79 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ. หรือจุดสูงสุดในรอบเกือบ 1 สัปดาห์ โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากการทรงตัวของดอลลาร์สหรัฐ และจากความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ แหล่งข่าวกล่าวว่า อิสราเอลวางแผนที่จะยังคงดำเนินปฏิบัติการทางทหารอย่างเต็มรูปแบบในเขตกาซาต่อไปอีก 6-8 สัปดาห์ และอิสราเอลเตรียมที่จะดำเนินการบุกทางพื้นดินเข้าสู่เมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของเขตกาซา ทางด้านเรือขนส่งสินค้าลำหนึ่งที่จดทะเบียนในอังกฤษได้ถูกโจมตีที่ช่องแคบบาบุลมันดับนอกชายฝั่งเยเมนในวันอาทิตย์ที่ 18 ก.พ.
- ตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดทำการในวันจันทร์ที่ 19 ก.พ.เนื่องในวันประธานาธิบดีของสหรัฐ ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับขึ้นเล็กน้อยในวันจันทร์ โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลด้านอุปทานท่ามกลางความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันปรับขึ้นได้ไม่มากนัก เนื่องจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าอุปสงค์น้ำมันอ่อนแอลง หลังจากองค์การพลังงานระหว่างประเทศ คาดการณ์ในสัปดาห์ที่แล้วว่าอุปสงค์น้ำมันจะชะลอตัวลง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ในช่วงนี้ด้วย ทั้งนี้ อิสราเอลยังคงโจมตีเขตฉนวนกาซาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้โรงพยาบาลที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเขตกาซาไม่สามารถให้บริการได้ ทางด้านกลุ่มฮูตีในเยเมน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ประกาศในวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ทางกลุ่มอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันที่มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่อินเดีย ส่วนสหรัฐได้เสนอร่างมติต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อให้คัดค้านอิสราเอลในเรื่องการโจมตีเมืองราฟาห์ และเพื่อให้สนับสนุนการหยุดยิงชั่วคราวในเขตกาซา
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนปรับขึ้น 9 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 83.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันจันทร์ หลังจากพุ่งขึ้นราว 1.5% ในสัปดาห์ที่แล้ว - ตลาดเงินนิวยอร์คปิดทำการในวันจันทร์ที่ 19 ก.พ.เนื่องในวันประธานาธิบดีของสหรัฐ ส่วนดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินทรงตัวในช่วงการซื้อขายที่ตลาดยุโรป หลังจากเพิ่งปิดตลาดสัปดาห์ที่แล้วด้วยการแข็งค่าขึ้น 0.18% จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ซึ่งถือเป็นการปิดตลาดรายสัปดาห์ในแดนบวกเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน โดยดอลลาร์ได้รับแรงหนุนในสัปดาห์ที่แล้วจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่แข็งแกร่งในสหรัฐ ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแรงงาน ในกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันอังคารที่ 13 ก.พ.ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค ของสหรัฐปรับขึ้น 0.3% ในเดือนม.ค.เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 4 เดือน และรายงานตัวเลขดังกล่าวก็ส่งผลให้นักลงทุนปรับลดการคาดการณ์เรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ โดยในตอนนี้นักลงทุนคาดว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวมกันราว 0.90% ในปีนี้ หลังจากที่เคยคาดไว้ในช่วงต้นเดือนก.พ.ว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงรวมกันราว 1.45% ในปีนี้
ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 104.30 ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ ซึ่งใกล้เคียงกับระดับ 104.28 ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ หลังจากเพิ่งพุ่งขึ้นแตะ 104.97 ในวันพุธที่ 14 ก.พ. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนพ.ย. หรือจุดสูงสุดรอบ 3 เดือนดอลลาร์/เยนอยู่ที่ 150.11 เยนในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ โดยอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดวันศุกร์ที่ 150.21 เยนยูโร/ดอลลาร์อยู่ที่ 1.0777 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันจันทร์ ซึ่งใกล้เคียงกับระดับ 1.0774 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันศุกร์ หลังจากเพิ่งดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 3 เดือนที่ 1.0693 ดอลลาร์ในวันพุธที่ 14 ก.พ. - ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการในวันจันทร์ที่ 19 ก.พ.เนื่องในวันประธานาธิบดีของสหรัฐ
- https://www.reuters.com/
Leave a Reply