กลยุทธ์การลงทุน XAUUSD ประจำวันที่ 26 ส.ค. 2568

Day วานนี้ราคาซึมตัวก่อนจะดีดขึ้นไปบริเวณแนวรับที่ให้ไว้วานนี้ (ตามคาด) วานนี้ยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบ มีการเทขายออกมา หลัง เซลเลนสกี้ผู้นำยูเครน กล่าวเจ้าหน้าที่ยูเครน และสหรัฐ จะพบกันในสัปดาห์นี้เืพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการเจรจาสันติภาพเพิ่มเติม ประกอบกับ USD ได้รับแรงหนุนกดดันทองคำวานนี้ เล็กน้อย จาก ขายบ้านใหม่ ออกมาดีขึ้นเกินคาด (น้อยกว่าเดือน มิ.ย.เพียงเล็กน้อย) ก่อนที่เช้านี้ ราคาทองคำดีดกลับขึ้น ทันทีทีทรัมป์ ประกาศบน Truth Social ได้ถอดถอน ลิซ่า คุก จากตำแหน่ง โดยทันที ให้อำนาจตามรัฐธรรมนูญสหรัฐ ยิ่งสร้างความไม่น่าไว้ใจในเรื่องความเป็นอิสระและบั่นทอนความสามารถในการรักษานโยบาการเงินของ Fed ซึ่งเป็นปัจจัย หนุนทองคำ และ กดดัน USD

ทรัมป์ โพสประกาศจะปลด ลิซ่า คุก ผู้ว่าการ Fed … ปัจจัยกดดัน USD จากความกังวลเรื่องการแทรกแซงภายใน FED อาจทำให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น ปัจจัยบวกต่อ GBP

• ทรัมป์ ประกาศปลดลิซ่า คุก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ผ่านโพสต์บน Truth Social ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเป็นการยกระดับการเผชิญหน้ากับเฟดครั้งสำคัญ โดยการตัดสินใจครั้งนี้ คาดว่าจะนำไปสู่การต่อสู้ทางกฎหมายซึ่งอาจยืดเยื้อไปจนถึงศาลฎีกาสหรัฐฯ ซึ่งตามกฎหมาย Federal Reserve Act ปี 1913 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่มีอำนาจปลดผู้ว่าการเฟดได้โดยตรง เว้นแต่จะมี “เหตุอันควร” ซึ่งตามการตีความในอดีต หมายถึงกรณีที่มีข้อกังวลร้ายแรงเกี่ยวกับความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

สมาชิก FED ท่านหนึ่งแถลงเช้านี้ … ปัจจัยลบต่อ USDในระยะยาว

• จอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์ก กล่าวว่า
  – แม้ตอนนี้เฟดกำลังใช้นโยบายดอกเบี้ยสูงเพื่อกดเงินเฟ้อ แต่ ยุคที่ R-Star อยู่ต่ำๆ (ประมาณ 0.5%) ยังไม่หายไป (อกเบี้ยระยะยาว “ธรรมชาติ” ของเศรษฐกิจโลกยังต่ำ ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก)
  – ดอกเบี้ยระยะสั้นอาจขึ้น-ลงตามวัฏจักรเศรษฐกิจ แต่ในระยะยาว “เพดานดอกเบี้ยที่เหมาะสม” จะยังต่ำใกล้ๆ 0.5% (จริงๆ คืออัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง ไม่รวมเงินเฟ้อ) ดังนั้น หลังจากวิกฤติเงินเฟ้อจบไป โลกอาจกลับไปสู่ภาวะดอกเบี้ยต่ำเหมือนก่อนโควิดอีกครั้ง

ประธานาธิปดีเกาหลีใต้เยือนสหรัฐ วานนี้ …ข้อตกลงหลายอย่างคืบหน้า ปัจจัยบวกต่อ USD กดดันทองคำ

• ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ลี แจ มย็อง (Lee Jae Myung) ได้เดินทางเยือนสหรัฐฯ และเข้าพบกับ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
• มีความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ซึ่งรวมถึง คำสั่งซื้อนี้จะรวมเครื่องบินรุ่น 787, 777 และ 737 ของโบอิ้ง นอกจากนี้ Korean Air ยังลงนามข้อตกลงมูลค่า 13,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐกับ GE Aerospace สำหรับการซื้อและบำรุงรักษาเครื่องยนต์ โดยบางส่วนของคำสั่งซื้อจะใช้สำหรับ Asiana ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Korean Air และ บริษัทเกาหลีใต้ เตรียมลงทุนในสหรัฐฯ รวมราว 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยหนึ่งในดีลสำคัญคือ Korean Air ประกาศสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง จำนวน 103 ลำ ซึ่งถือเป็นคำสั่งซื้อครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสายการบิน

รัฐบาลสหรัฐเตรียมลงทนเพิ่มใน Intel ปัจจัยบวกต่อ หุ้น ดึงความน่าสนใจทองคำลง

• ทรัมป์ ระบุว่า ต้องการลงทุนเพิ่มเติมในบริษัทสหรัฐฯ ที่มีศักยภาพ หลังจากที่รัฐบาล แปลงเงินอุดหนุนให้กับ Intel เป็นการถือหุ้น เกือบ 10% และคาดว่าจะขยายการลงทุนเช่นนี้กับบริษัทอื่นๆในสหรัฐ
• Intel Corp เตือนว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯ เข้าถือหุ้น 9.9% ในบริษัท อาจสร้างความเสี่ยงต่อธุรกิจ ทั้งในด้านการขายในต่างประเทศที่อาจได้รับผลกระทบ รวมถึงการเข้าถึงเงินสนับสนุนจากภาครัฐในอนาคตที่อาจถูกจำกัด โดยคำเตือนดังกล่าว ปรากฏในเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐฯ หลังรัฐบาลตัดสินใจเปลี่ยนเงินสนับสนุนมูลค่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับ Intel เป็นการถือหุ้นในบริษัท นับเป็นการแทรกแซงภาคเอกชนครั้งล่าสุดโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

สหรัฐ – จีน การเจรจาการค้าระหว่างสองประเทศยังคงดำเนินไป ในขณะที่ต่างฝ่ายต่างผ่อนปรนการส่งออกให้กันและกัน แต่ไม่สดใสตามคาด … ปัจจัยบวกต่อต่อ USD และทองคำ (สินทรัพย์ปลอดภัย)

• Nvidia “สั้งระงับการผลิต ชิป AI H20 สำหรับจีน” CEO Nvidia เดินหน้าหารือกับรัฐบาลสหรัฐ เกี่ยวกับ “ชิปรุ่นถัดไปสำหรับตลาดจีน” หลังจากที่จีน ตรวจพบ Backdoor บนชิปดังกล่าว ซึ่งมีความเสี่ยงหากนำชิปรุ่น H20 มาใช้ ทำให้จีน ต้องประกาศ ให้ใช้ ชิป Ascend จากใต้หวันแทน
• 25 ส.ค. ทรัมป์ ทรัมป์ออกมาขู่จีน จำเป็นต้องส่งออกแม่เหล็กให้สหรัฐฯ มิฉะนั้นสหรัฐฯ จะต้องเผชิญกับการเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 200% หรือมาตรการอื่นที่คล้ายกัน ท่ามกลางข้อพิพาททางการค้าระหว่าง 2 ประเทศ
• จีนให้ความสำคัญกับสินแร่หายากมากขึ้น โดยได้เพิ่มรายการสินค้าหายากและแม่เหล็กเข้าสู่บัญชีควบคุมการส่งออกตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้การที่สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน

H4/H1 ราคาดีดขึ้นไปในช่วงเช้า บริเวณ $3387 เริ่มปรากฎสัญญาณ Bearish Divergence ทั้ง H4 และ H1 แต่หากไม่มีปัจจัยใหม่ๆ คาดราคายังวิ่งในกรอบ 3351 -3392

คำแนะนำ

• เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซื้อ+ปิดแท่งเขียว H1 เหนือ 3392 ได้) ที่กรอบ 3386-3392/ SL 3380 ทำกำไร 3395/3398/3402/3408
• เปิดสถาะนขาย(รอสัญญาขาย + ปิดแท่งแดง H1 ตำกว่า 3351 ได้) ที่กรอบ 3362-3351 / SL 3367 ทำกำไร 3345/3340/3335

แนวรับ 3351/3334/3320

แนวต้าน 3392/3408/3421

ปฎิทินข่าวเศรษฐกิจ 26 ส.ค. 2568

บทวิเคราะห์ข่าว

• ปัจจัยข่าวในวันนี้จะมีผลกับราคา USD (และสินทรัพย์ที่จับคู่ USD) ก็ต่อเมื่อ ตัวเลขออกมา เกินจากที่คาดไว้ ชนิด Surprise ตลาดเท่านั้นจึงจะมีปัจจัยต่อ USD (และสินทรัพย์ที่จับคู่ USD)