กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 7 ส.ค. 2568

Day วานนี้ราคาน้ำมันปรับตัวร่วงลงต่อเนื่อง ติดต่อกันเป็นวันที่ 5 วานนี้ เปิดตลาด เช้า – ค่ำ ราคาปรับตัวขี้นจากบริเวณแนวรรับที่ให้ไว้ กรอบ 64.723-63.816 (ตามคาด) กอนที่จะปรับตัวร่วงลงทันทีที่ชนกับแนวต้าน Supply H4 65.846-66.372 (ตามคาด) ปิดแท่งรายวัน Bearish Hammer แม้ว่าจะมีปัจจัยหนุนจากปริมาณน้ำมันคงคลังที่ลดลง แต่ปัจจัยสำคัญสำคัญยังคงมาจากอุปทานที่เพิ่มขึ้น จากการที่OPEC+ เร่งกำลังการผลิต นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังแสดงความเห็นในการเจรจากับรัสเซีย และมาตราการปรับภาษีนำเข้าสหรัฐ จากอินเดียเป็น 50% ซึ่งสร้างปัจจัยความตึงเครียดให้กับตลาดพลังงาน

น้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) ปิดที่ $ 64.35 ต่อบาร์เรล ลดลง1.2 %

รายงานน้ำมันคงคลังประจำสัปดาห์… สะท้อนอุปสงค์ที่แข็งแกรง ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน

• 7 ส.ค. EIA รายงานผลน้ำมันดิบคงคลังสอดคล้องกับ API
  – น้ำมันดิบ ลดลง 4.20 ล้าน บาร์เรล …สัญญาณ ความต้องการใช้น้ำมันที่ยังคงแข็งแกร่ง ในขณะที่อุปทานยังคงตึงตัว
  – Gasoline (เบนซิน) ลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล
  – Distillate (ดีเซล) ลดลง 565,000 บาร์เรล สะท้อนความต้องการที่แข็งแกรง

ทรัมป์เตรียมขึ้นภาษี Semiconductor 100%.… ปัจจัยบวก USD กดดันน้ำมัน

• ทรัมป์ เตรียม เก็บภาษีนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ ในอัตรา 100% แต่จะยกเว้นให้กับบริษัทที่ย้ายฐานการผลิตกลับเข้ามาในสหรัฐจะไม่มีการเรียกเก็บภาษีแต่อย่างใด
• บริษัท Apple ประกาศเพิ่มการลงทุนเพิ่ม 100,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อจะผลิตในสหรัฐ ภายใต้แผน American Manufacturing Program (AMP) Apple (ยอดการลงทุนเพิ่มเป็น 600,000 ใน4 ปีข้างหน้า) ให้คำมั่นว่าจะย้ายซัพพลายเชนและกระบวนการผลิตขั้นสูงบางส่วนเข้ามายังสหรัฐฯ มากขึ้น โดยบริษัทได้ระบุว่า มีพันธมิตรที่จะเข้าร่วมในโครงการ AMP ได้แก่ Corning Inc. ผู้ผลิตกระจก, Applied Materials Inc., Texas Instruments Inc. และบริษัทอื่นๆ
• Apple กล่าวว่า บริษัท Samsung Electronics จะเป็นผู้ผลิตและจัดหาชิปจากโรงงานผลิตในรัฐเท็กซัส เพื่อนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ของ Apple รวมถึง iPhone

ทรัมปประกาสเก็บภาษีนำเข้าจากอินเดียเป็น 50%… ปัจจัยบวก USD กดดันน้ำมัน

• เนื่องจากการที่อินเดียยังคงซื้อพลังงานจากรัสเซียอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการยกระดับความขัดแย้งกับประเทศพันธมิตรที่สำคัญในเอเชีย อินเดียภาษีนำเข้าสหรํฐ 50% (25%+25%) 0มีผลภายใน 21 วัน
• นายกรัฐมนตรีอินเดีย ประนาม ” ภาษี 50% ของทรัมป์เป็นการขู่กรรโชกทางเศรษฐกิจ และเป็นความพยายามที่จะข่มขู่อินเดียให้ทำข้อตกลงทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม”
• ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ อินเดียเคยออกมาชี้แจง ไม่สามารถดำเนินการหยุดซื้อน้ำมันจากรัสเซียโดยทันที เนื่องจากเป็นสัญญาระยะยาวที่ทำไว้กับรัสเซีย ในขณะที่รัสเซียย้ำ อินเดียควรมีอิสระในการเลือกคู่ค้าของตนเอง
• ทรัมป์ กร้าว สามารถดำเนินการเช่นเดียวกันนี้โดยการขึ้นภาษี 25% กับจีน หากจีนยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซีย

การเจรจาการค้า สหรัฐ – สวิสเซอรแลนด์ ไม่เป็นผล … ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน

• ประธานาธิบดีสวิตเซอร์แลนด์ เดินทางออกจากสหรัฐ โดยไร้ข้อสรุปผลการเจรจา ทั้งนี้ สวิตเซอร์แลนด์ เสียภาษีนำเข้า 39% ตามที่ประกาศในวันที่ 31 ก.ค. ทรัมปไม่เปิดโอกาสให้เข้าพบ
• หัวหน้าการเจรจาการค้าของญี่ปุ่น เรียกร้องให้สหรัฐ ดำเนินการตามที่ตกลงไว้โดยเร็วและทันที เนื่องจาก ณ ปัจจุบัน ยังไมมีการประกาศกรอบเวลาในการบังคับใช้ภาษีญีุ่ปุ่น เป็น 15% (จากเดิม 27.5%)

ทรัมป์ เตรียมแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมกรรมการ FOMC แทน อเดรียน่า คูเกลอร์ ที่ลาออกเอง

• ทรัมป์ แถลง มีแนวโน้มที่จะแต่งตั้งผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการในคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แทนตำแหน่งที่จะว่างลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยจะคัดเลือกจากรายชื่อผู้สมัครที่เหลืออยู่เพียง 3 คนภายใน 2-3 วันนี้ “โดยให้ สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลัง, ฮาวเวิร์ด ลัทนิก รัฐมนตรีพาณิชย์ และเจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดี ได้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการเลือกในครั้งนี้ด้วย
• ทั้งนี้ FOMC มีสมาชิก ทั้งหมด 12 คน (7 คนจาก คณะกรรมการธนาคารกลาสหรัฐ ลงมติ + 5 คนมากจากธนาคารกลางเขต ที่หมุนเวียนกัน) ซึ่งประธานาธิปดีมีสิทธที่จะเสนอชื่อ ผู้ว่าการ แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาสหรัฐเท่านั้น จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างผิดต่หลักการณ์

ปูตินกำหนดพบทรัมป์ ในสปับดาห์หน้า … ปัจจัยบวก USD กดดันน้ำมัน

• ปูตินยืนยันพบทรัมป์ในสัปดาห์หน้า หลังจากที่ คืนที่ผ่านมา ทรัมป์ เปิดเผยว่า มี “โอกาสสูงมาก” ที่เขาจะได้พบปะกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อพยายามเป็นตัวกลางในการเจรจาสันติภาพระหว่าง 2 ประเทศอีกครั้ง “หนทางนี้ยาวนาน และยังคงต้องใช้เวลาอีกมาก แต่มีโอกาสที่ดีที่เราจะได้มีการประชุมกันในเร็ว ๆ นี้”

H4/H1 ราคาน้ำมันยังคงไหลลงอย่างต่อเนื่อง เข้าสูกรอบ Channel H4 ที่เคยทะลุขึ้นได้เมื่อ 28 ก.ค.ใน TF H4 เริ่มปรากฎสัญญาณการกลับตัว Bullish Divergence ในขณะที่ H1 ยังคงไม่มีสัญญาณดังกล่าว ราคาปรับตัวลงในเทรนด์ขาลง

คำแนะนำ

• เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย) บริเวณกรอบ 64.185-64.513/ SL 65.000 เพื่อทำกำไรระยะสั้นที่ 63.800/63.500/63.330/ 63.155
• เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย) บริเวณกรอบ 65.208-66.064 /SL 67.000 เพื่อทำกำไรระยะสั้นที่ 65.000/64.500/64.000/ 63.800

แนวรับ 63.155/62.522/61.692

แนวต้าน 68.353/67.759/66.375

ปฎิทินข่าว 7 ส.ค. 2568