Day โครงสร้างรายวัน เป็นเทรนด์ขาขึ้น ปิดตลาดด้วยแท่ง Bullish Hammer วานนี้ราคาดีดตัวขึ้นมาในช่วงเช้า บริเวณ Supply H4 (1.29497 -1.31716) ปรากกฎการเทขายทำกำไร (ตามคาด) เนื่องจากอยู่ในโซน QM Week ขณะเดียวกันตลาดรอความคืบหน้าการหารือ ระหว่าง ทรัมป์ – ปูติน ที่ว่าด้วยข้อตกลงหยุดยิง รัสเซีย – ยูเครน ก่อนจะมาปิดบวกขึ้น จากปัจจัยข่าว
รัสเซีย-ยูเครน
- ผลการหารือ ระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ และ ปูติน ได้ข้อสรุปเพียงแค่บางส่วน คือ รัสเซียยินยอมเพียงแค่ การหยุดโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของกันและกัน 30 วัน (หลังจากรัสเซียถูกยูเครนโจมตีโครงสร้างพลังงานอย่างหนักในช่วงเดือนที่ผ่านมา) ในขณะที่การโจรตีภาคพื้นดินยังคงดำเนินต่อไป ในขณะที่ยูเครนรายงาน มีการบุกโจมตีจากรัสเซียอย่างหนักหลังการหารือคืนที่ผ่านมา
- ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ การหารือกับรัสเซีย เป็นเพียงแค่เสี้ยวหนึ่งของหัวข้อสนทนา โดยหลักๆ จะมีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องความขัดแย้งในตะวันออกกลาง (คาดเป็นการเช็ครัสเซียจะเข้าร่วมสงครามช่วยพันธะมิตรอย่างอิหร่านหรือไม่ หากสหรัฐจะโจมตีอิหร่าน)ตลอดจนไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องการที่สหรัฐจะยุติการส่งอาวุธเข้าช่วยเหลือยูเครนแต่อย่างใด
- ปัจจัยข่าวดังกล่าวสร้างความกังวลให้กลับสหภาพยุโรป ตลอดวานนี้
– เยอรมนีแก้กฎหมายงบประมาณ (Debt Brake:ห้ามใช้เงินมากกว่างบประมาณที่หาได้ โดยไม่มีการดึงเงินสำรอง ตลอดจนห้ามกู้เงินมาใช้) ในการเพิ่มงบประมาณทหาร ส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นรับข่าว (FTSE + 0.29% / CAC40 +0.5%/ Dax +0.98%)
– กลุ่มประเทศยุโรป ทยอยเพิ่มงบประมาณ ทางทหาร เอสโตเนียเพิ่มงบ 5%ของ GDP,โปรแลนด์ 4.75% ของงบกลาโหม เช่นเดียวกับ อังกฤษ ที่ประกาศ จะเพิ่มงบกลาโหม 5% ของ GDP หลายอาทิตย์ก่อนหน้าแล้ว แม้ว่า Nato จะกำหนดให้แต่ละประเทศต้องร่วมงบประมาณ 2% GDP แต่ละประเทศ แต่การประชุมล่าสุด สหรัฐเรียกร้องให้แต่ละชาติควรเพิ่มงบประมาณมากขึ้นเป็น 5%GDP เพื่อจะได้ไม่ต้องอาศัยอำนาจของอเมริกาผู้ซึงทุ่มเทให้กับ Nato มากเกินไป
– โปรแลนด์ และ บอร์ติก (บอร์ติก : เอสโตเนีย+ลัตเวีย+ ลิทัวเนีย ซึ่งอยู่ติดกับรัสเซียโดยตรง) ออกจากอนุสัญญาออตโตวา (ห้ามการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล)
– ฝรั่งเศส วางแผนแจก – ใช้คู่มือการเอาตัวรอด ให้กับพลเมืองฝรั่งเศส ในกรณีภัยคุกคามที่ก่อตัว เช่นวิกฤต ด้านสุขภาพ ภัยธรรมชาติ ความขัดแย้งด้านอาวุธ
สงครามทางการค้า
- ทำเนียบขาว สหรัฐ ยืนยัน เตรียมประกาศใช้มาตรการภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) อีกระลอกในกลุ่มประเทศที่ สหรัฐเสียดุล ในวันที่ 2 เม.ย. … ส่งผลกดดัน USD ปัจจัยบวกต่อ GBP
- นโยบายการขึ้นภาษีของทรัมป์ และการตอบโต้กับประเทศคู่ค้า เริ่มมีการหันไปพึงพิงการส่งออกประเทศอื่นๆ เพื่อทดแทนการส่งออกไปยังสหรัฐ (สร้างพันธมิตรทางการค้า ลดการพึ่งพาสหรัฐ)
- UCLA Anderson ประกาศ “การเฝ้าระวังภาวะเศรษฐกิจถดถอย” เป็นครั้งแรก จากนโยบายภาษี การตรวจคนเข้ามือ รวมถึงการลดจำนวนพนักงานของรัฐบาลกลาง ซึ่งอาจก่อให้เกิต เศรษฐกิจหดตัว ก่อการเข้าสูภาะวเศรษฐกิจถดถอย (เกิดเศรษฐกิจถดถอยโดยไร้ซึ่งสัญญาณ) … ส่งผลกดดัน USD ปัจจัยบวกต่อ GBP
- คะแนนนิยมด้านเศรษฐกิจของทรัมป์ จากพลเมืองอเมริกา ประชาชนคาด ราคาสินค้าจะเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อฟังนโยบายเฟดคืนนี้ (วานนี้ Dow Jones -0.62% / S&P -1.07% / Nasdaq – 1.71%)
H4/H1 โครงสร้างราคาเป็นเทรนด์ขาขึ้น ราคาเคลือ่นที่ลงมาทดสอบบริเวณแนวรับ H4 และดีดขึ้นไปทดสอบบริเวณต้าน Supply H4 ก่อนปรับย่อตัวลง (ตามคาด)
ทั้งนี้ราคายังคงเคลื่อนที่ในเทรนด์ไลน์ขาขึ้น ซึ่งยังคงปรากฎ Hamonic Shark หรือ Cypher Pattern ซึ่งมีโอกาสที่จะปรับตัวร่วงลง และดีดขึ้นมาภายหลัง ทั้งนี้ติดตาม FOMC Projection ในคืนนี้
คำแนะนำ
- เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย) ที่กรอบ 1.30094-1.30272 / SL 1.31000 เพื่อทำกำไร 1.29578/1.29435/1.29245/1.29056/1.28822/1.28427
- เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซื้อ) ที่กรอบ 1.28044-1.8442 / SL 1.28060 เพื่อทำกำไรที่ 1.28998/1.29275/1.29470
แนวรับ 1.28427/1.28054/1.27692
แนวต้าน 1.30212/1.30556/1.31014

ปฎิทินเศรษบกิจ 20 มี.ค. 2568

บทวิเคราะห์ข่าว
- ตลาดคาดการณ์ว่า Fed คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ ในการประชุมครั้งนี้ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากระดับ 4.25%-4.5% / ตลอดจนน่าจะเน้นแนวทาง”ไม่รีบร้อน” ในการปรับนโยบาย
- ติดตาม FOMC Projection & FOMC Press Conference โดยเฉพาะผลกระทบจาก นโยบายการค้าของโดนัลด์ ทรัมป์อาจมีการปรับคาดการณ์ทางเศรษฐกิจ เช่น เงินเฟ้ออาจเพิ่มขึ้นจาก 2.5% และ GDP อาจถูกปรับลดลงจาก 2.1% ตลอดจน Dot Plot ปรับลดดอกเบี้ยกี่ครั้งใน 1 ปี ตลาดคาดการณ์น่าจะมีการปรับดอกเบี้ย 3 ครั้งใน 1 ปี (จากเดิม) 2 ครั้ง
– หากส่งสัญญาณ ลด 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งการประกาศลดดอกเบี้ยจะส่งผลกดดัน USD ส่งผลให้ GBP เป็นบวก
– หากยืนยันลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ USD จะปรับร่วงลงก่อนกลับมาทรงตัว และราคา GBP จะดีดขึ้นก่อนกลับมาทรงตัว
– หากไม่ส่งสัญญาณใดๆ ขอรอดูตัวเลขเศรษฐกิจในเดือนถัดไปเพื่อประกอบการตัดสินใจ ตลาดจะมีความผันผวนในช่วงเวลาสั้นและ และกลับมาเข้าสู่ Mode Technical ตามโครงสร้างราคาเช่นเดิม
Leave a Reply