กลยุทธ์การลงทุน GBPUSD ประจำวันที่ 13 ก.พ. 2568

Day โครงสร้างยังคงเป็นเป็นเทรนด์ขาลง วานนี้ราคามีความผันผวนอย่างหนัก ปิดตลาดด้วยแท่ง Doji with Long Shadow เปิดตลาดวานนี้ราคา GBP ปรับตัวร่วงลงก่อน(จากการแข็งค่าของ USD + การปรับพอร์ตการลงทุน) ก่อนที่จะมีการพลิกกลับดีดขึ้น อันเนื่องจากการ

• ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ 3.0% ซึ่งตอกย้ำด้วย ถ้อยแถลงของ ประธานธนาคารกลาง FED (Fed Chair Powell Testifies) ในเวลาต่อมา ว่ายังคงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม เพื่อรอดูสถานะการเงินเฟ้อในปีนี้ …. USA เงินเฟ้อ ส่งผลให้ อ่อนค่าลง ปัจจัยบวกต่อราคา GBP

H4 ยังคงเป็นการเคลื่อนที่ออกข้าง Sideway ราคาลงมาทดสอบ 1.3668 ซึ่งอยู่ในระดับ Head and Sholder Pattern H4 มีการดีดตัวขึ้นไป (ตามคาด)

H1 ยังคงเคลื่อนที่ออกข้าง (ไม่มีการสร้าง High – Low ใหม่)ปรากฎ Hamonic Shark Pattern ใน TF H1 (ตามคาด) ซึ่งมีโอกาสที่ราคาขึ้นมาทดสอบบริเวณกรอบ Supply H4 1.25047 -1.25546 และปรับตัวย่อลงก่อน เริ่มปรากฎสัญญาณการกลับตัว Bearish Divergence

คำแนะนำ

• เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย) ที่กรอบ 1.25047 -1.25546 /SL 1.26400 เพื่อทำกำไร 1.24511 /1.24279/1.24047
• เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย) ที่กรอบ 1.26068 -1325707 /SL 1.26400 เพื่อทำกำไรที่ 1.24910/1.24609/1.24307

แนวรับ 1.24047/1.23668/1.23271

แนวต้าน 1.25166/1.25509/1.25918

ปฏิทินข่าว 13 ก.พ.2568

บทวิเคราะห์ข่าว

• Fed Chair Powell Testifies การเข้าให้การกับสภาคองเกรตเป็นวันที่ 2 โดย พาวเวล์ มีการแถลง อัตราเงินเฟ้อยังคงสูง ==> คงอัตราดอกเบี้ย(4.5%) เป็นเวลานานขึ้น เพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับ 2% …. ส่งผลต่อ USD (อ่อน=> ทรงตัว) ส่งผลทำให้ GBP (แข็ง => ทรงตัว)
• เจอโรม กล่าวต่อ นโยบายของรัฐบาล มีการเปลี่ยนแปลงภาษีและกฎต่างๆ จะกระทบต่อเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งการตัดสินใจของ FED จะมาจากตัวเลขเศรษฐกิจ … ส่งสัญญาณการจับตาเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจ และการจ้างงาน
• 13 ก.พ. ประกาศตัวเลข GDP เดือน ธ.ค. 2567 ออกมาที่ 0.4 % ซึ่งทำให้ GDP รวมปีทีแล้วออกมา 1.4% ซึ่งมากกว่าปีที 2566 1.0 % ส่งผลบวกต่อ GBP
• 13 ก.พ. ติดตามประกาศ PPI ด้ชนีราคาสินค้าและบริการ ในภาคผู้ผลิต ซึ่งจะบอกได้ว่า ต้นทุนการผลิต สูงขึ้น หรือต่ำลงอย่างไร ซึ่งหาตัวเลข PPI ออกมากกว่าเดือนที่แล้ว แสดงให้เห็นว่าต้นทุนการผลิตแพงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ CPI วานนี้ปรับตัวสูงขึ้น => Fed นโยบายคงดอกเบี้ยสูงขึ้น (จากปี 2023 Fed ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเงินเฟ้อ อยู่ในระดับ 6.4%) ==> คงดอกเบี้ยอีกระยะนึง เพื่อรอเงินเฟ้อดีขึนหรือไม่ (ไม่ส่งผลต่อตลาด) / แต่หากตัวเลขออกมาต่ำ กว่าเดือนที่แล้ว ตลาดจะมีความสงสัย เงินเฟ้อสูงขึ้นจากปัจจัยใด หากไม่ใช่ต้นทุนที่สูงขึ้น ==> เกิดการผันผวนระยะสั้น