กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 7 ก.พ.2568

Day โครงสร้างเป็นเทรนดขาลง ราคาปรับตัวร่วงลงสู่ 70.135 ซึ่งอยู่ในระดับที่ต่่ำจากเดิม บริเวณกรอบแนวรับ Demand Week (71.340-68.677) ก่อนจะมีการ rebound ขึ้นเบาเช้านี้ ทั้งนี้เนื่องจาก

• ความตึงเครียสทางการค้า ระหว่าง จีน-สหรัฐ… อุปสงค์น้อยลง
• มาตราการตอบโต้ทางภาษีของจีน มีกำหนดการณ์บังคับใช้ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า.. อยู่ในช่วงระวัง
• การเพิ่มขึ้นอย่างมากของปริมาณน้ำมันดิบคงคลังจากรายงานของ EIA (สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานวานนี้) และเป็นปริมาณน้ำมันคงคลังที่มากที่สุดในช่วง 2-3 เดือน ที่ผ่านมา ทั้งนี้ จากการ นโยบายในการสั่งเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน ของโดนัล ทรัมป์ ….. อุปทานล้นตลาด
• ทรัมป์ เรียกร้องให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน OPEC+ เพิ่มการผลิต เพื่อลดความเสี่ยงจากการหยุดชะงักของอุปทานที่เกิดจากการคว่ำบาตรรัสเซียและอิหร่านที่คาดว่าจะมีในอนาคต..

H4 /H1 โครงสร้างเทรนด์ขาลง ไม่ผ่านกรอบเทรนด์ไลน์ขาลง (ตามคาด) มีการทำ Low ใหม่ที่ตำกว่าเดิม ทรงตัวบริเวณ Demand Week แต่หากตัวเลขเศรษฐกิจ อเมริกาออกมาดี จะส่งผลทำให้ราคาน้ำมันอ่อนค่าลงต่อเนื่อง

แนะนำ

• เปิดสถานขาย (รอสัญญาณขาย) ที่กรอบราคา 71.980-71.309 SL 72.500 เพื่อทำกำไร 70.800/70.500/70.100

แนวรับ 70.135/69.472/68.560

แนวต้าน 71.340/71.986/72.823

ปฏิทินเศรษฐกิจ 7 กุมภาพันธ์ 2568

บทวิเคราะห์ข่าว

• ติดตามประกาศตัวเลขอัตราการว่างงาน (จำนวนคนว่างงาน / ปริมาณแรงงานทั้งหมด) ซึ่งคาดการณ์ว่า เท่ากับเดือนที่แล้ว หากตัวเลขออกมา เท่ากับเดือนที่แล้วจะต้องติดตามตัวเลข NON-Farm ในลำดับถัดไป แต่หากมากกว่าเดือนที่แล้ว จะส่งผลให้ราคา USD ปรับตัวร่วงลง และน้ำมันมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นบริเวณแนวต้านสำคัญ
• ติดตามประกาศตัวเลข Nonfarm การจ้างงานนอกภาคการเกษตร ซึ่งคาดการไว้ต่ำกว่าเดือนที่แล้ว ทั้งนี้หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด จะมีผลทำให้ราคา USD ปรับร่วงลง ราคาน้ำมันมีโอกาส Rebound ขึ้น แต่หากตัวเลขออกมากกว่าเดือนที่แล้ว เหนือความคาดหมาย จะส่งผลให้ USD ดีดตัวขึ้นในขณะที่น้ำมันจะปรับตัวลง
• ติดตามการเจรจา ระหว่าง โดนัลทรัมป์ – สีเจิ้นผิง หากมีการเจรจากันในลักษณะประนีประนอม จะส่งผลทำให้ USD ดีดตัวขึ้น ราคาน้ำมันจะต้องดูเงื่อนไขรายละเอียดของการสนทนา เช่น จะเลื่อนการปรับขึ้นภาษีออกไป หรือ การลดการเปอร์เซ็นต์การเรียกเก็บภาษี หรือมีการยืนยันการนำเข้าในปริมาณที่มากขึ้นจากจีน จึงจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นได้