กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 5 พ.ย. 2568

Day วานนี้ราคาน้ำมันยังคงเคลื่อนไหวแ่กว่างตัว บริเวณกรอบ 60.337-61.280 ปิดแท่งรายวัน ในรูปแบบ Bearish Hammer ราคายังคงแกว่งตัวเลขภาคการผลิตอ่อนแอและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น กดดันความต้องการใช้พลังงาน ขณะที่การตัดสินใจของกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร OPEC+ ที่จะชะลอการเพิ่มกำลังการผลิตในไตรมาสแรกปีหน้า สะท้อนความกังวลของกลุ่มต่อภาวะอุปทานส่วนเกินในตลาด

WTI วันศุกร์ ปิดที่ $ 60.56 ต่อบาร์เรล ลดลง 0.8 %

PMI ภาคาการผลิต- สหรัฐ อยูระดับ 49.0 (ต่ำกว่าคาดกปละเดือนก่อนหน้า)สะท้อนการผลิตสหรัฐ ชะลอตัว … ปัจจัยกดดัน USD และ ราคาน้ำมัน

  • ISM ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตลดลงสู่ระดับ 48.7 ในเดือนต.ค. จาก 49.1 ในเดือนก.ย. โดยระดับต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงการหดตัวของภาคการผลิต ซึ่งคิดเป็นประมาณ 10.1% ของเศรษฐกิจสหรัฐ
  • ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะหดตัวเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันในเดือนต.ค. ท่ามกลางคำสั่งซื้อใหม่ที่ซบเซาและการส่งมอบวัตถุดิบให้โรงงานที่ล่าช้า ผลมาจากผลกระทบภาษีจำเข้าสหรัฐ

ปริมาณการผลิตน้ำมัน กลุ่ม OPEC เพิ่มขึ้นจากข้อตกลง ในเดือน ต.ค … กดดันราคานำมัน.

  • ปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ปรับเพิ่มขึ้นอีกในเดือนต.ค. หลังจากที่กลุ่ม OPEC+ มีข้อตกลงให้เพิ่มกำลังการผลิต แต่ความเร็วของการเพิ่มกำลังการผลิตลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับเดือนก.ย. และช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา โดยผลสำรวจระบุว่า OPEC ผลิตน้ำมันเฉลี่ย 28.43 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) ในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้นราว 30,000 บาร์เรลต่อวันจากเดือนก่อนหน้า โดยซาอุดีอาระเบียและอิรักเป็นประเทศที่เพิ่มกำลังการผลิตมากที่สุด
  • ผลสำรวจพบว่าการเพิ่มการผลิตจริงของทั้ง 5 ประเทศอยู่ที่ 114,000 บาร์เรลต่อวัน แต่การลดลงของการผลิตในไนจีเรีย ลิเบีย และเวเนซุเอลา ได้หักล้างส่วนเพิ่มดังกล่าว ทำให้ปริมาณการผลิตรวมของ OPEC ปรับขึ้นเพียงเล็กน้อยในภาพรวม
  • ซาอุดี อารามโค (Saudi Aramco) บริษัทผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 พบว่ากำไรสุทธิลดลง 2.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากราคาน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ที่ปรับตัวลดลง แม้ผลการดำเนินงานจะดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าตามการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน
  • ซาอุดี อารามโค ระบุว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 26,940 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นราว 19% จากไตรมาส 2 เนื่องจากรายได้เพิ่มขึ้นจากปริมาณการผลิตและราคาขายของน้ำมันดิบ รวมถึงผลิตภัณฑ์กลั่นและเคมีภัณฑ์ที่สูงขึ้น

USD แข็งค่าขึ้น หลังมีการเทขายตลาดหุ้นตามคำเตือน … กดดันราคาน้ำมันฐานะสินทรัพย์จับคู่

  • บรรดาผู้บริหารระดับสูงในวอลล์สตรีทออกมาเตือนว่า นักลงทุนควรเตรียมพร้อมรับความเป็นไปได้ที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเผชิญการปรับฐานมากกว่า 10% ภายในช่วง 12-24 เดือนข้างหน้า พร้อมระบุว่า การปรับฐานดังกล่าวอาจเป็นพัฒนาการที่ดีต่อสุขภาพของตลาด โดยไมค์ กิตลิน (Mike Gitlin) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Capital Group ซึ่งบริหารสินทรัพย์มูลค่าราว 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ กล่าวว่า “ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังคงแข็งแกร่ง แต่สิ่งที่ท้าทายคือระดับมูลค่าหุ้น (valuation) ที่สูงมาก”
  • ไมเคิล เบอร์รี (Michael Burry) ผู้จัดการกองทุนชื่อดังแห่ง Scion Asset Management และผู้โด่งดังจากการทำนายวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2008 เปิดเผยว่าได้เปิดสถานะ Put Options ต่อหุ้น Nvidia และ Palantir ซึ่งเป็นตราสารที่ให้ผลกำไรเมื่อราคาหุ้นปรับตัวลดลง โดยเบอร์รี โพสต์ข้อความเตือนถึงนักลงทุนรายย่อยบนสื่อสังคมออนไลน์ ให้ระวังความร้อนแรงเกินจริงของตลาด ซึ่งหลายฝ่ายตีความว่าเป็นสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงของฟองสบู่ในตลาดหุ้นสหรัฐ
  • ด้านนักลงทุนมองว่าการเคลื่อนไหวของเบอร์รี ซึ่งเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่เคยทำนายวิกฤตการเงินได้อย่างแม่นยำ อาจสะท้อนมุมมองเชิงลบต่อหุ้นเทคโนโลยีที่ได้รับแรงหนุนจากกระแส AI และกำลังซื้อขายที่ระดับมูลค่าสูงกว่าปัจจัยพื้นฐานอย่างมีนัยสำคัญ

สถานะการณํ รัสเซีย – ยูเครน ยังคงคุกรุ่น … ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน

  • รัสเซียได้ปฏิบัติการโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธหลายลูกต่อยูเครนในพื้นที่ต่าง ๆ รวมทั้งภาคตะวันออกของยูเครน เช่น เขต Donetsk Oblast โดยเฉพาะเมือง Pokrovsk ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์
  • ยูเครนได้รับระบบ Patriot เพิ่มเติมจากเยอรมนี (และที่จัดหาผลิตโดยสหรัฐ) เพื่อเสริมระบบอากาศยานและขีปนาวุธของรัสเซีย
  • Donald Trump กล่าวอย่างชัดเจนว่าในขณะนี้ ยังไม่มี การตัดสินใจอนุมัติการส่งขีปนาวุธระยะไกล Tomahawk cruise missile ให้กับ Ukraine โดยระบุว่า “ตอนนี้ยังไม่พิจารณาขาย” เพราะกังวลว่าจะเป็นการยกระดับความขัดแย้ง (escalation) กับ Russia และกังวลเรื่องคลังแสงของสหรัฐฯ
  • กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (United States Department of Defense) มีการประเมินแล้วว่า การส่ง Tomahawk ให้ยูเครนจะไม่ทำให้คลังแสงของสหรัฐฯ เหลือน้อยจนเป็นปัญหา (at least ตามแหล่งข่าวบางแห่ง)
  • Vladimir Putin ประธานาธิบดีรัสเซีย เตือนอย่างเปิดเผยว่า การส่งมอบ Tomahawk ให้ยูเครนจะเป็น “ระดับของการยกระดับใหม่” (a new level of escalation) สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซีย-สหรัฐฯ

API รายงานประจำสัปดาห์ ปริมาณน้ำมันดิบคงคับเพิ่มขึ้น … กดดันราคาน้ำมัน

  • 5 พ.ย. API รายงาน ปริมาณน้ำมันคงคลัง รายสัปดาห์
    – ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง (Crude Oil) เพิ่มขึ้นประมาณ +6.5 ล้านบาร์เรล เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า คาดการณ์ก่อนหน้าสำหรับการลดลงอยู่ที่ประมาณ −2.4 ล้านบาร์เรล (จากข้อมูลปฏิทินเศรษฐกิจ) แต่ผลจริงกลับเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ
    – น้ำมันกลั่น (Gasoline) คงคลัง ลดลงประมาณ −5.65 ล้านบาร์เรล.
    – สถานะที่สถานี Cushing (โอคลาโฮมา) มีการเพิ่มคลัง น้ำมันดิบราว +0.364 ล้านบาร์เรล

H4/H1 โครงสร้าง เป็นเทรนด์ขาลง เคลือนไหวใน Channel Down trend H4 หากราคายืนเหนือ 62.406 ได้จะเป็นจุดเปลี่ยน โครงสร้าง Choch H4 ราคายังคงเคลื่อนไหว ซื้อ- ขาย ในกรอบแคบๆ ไซด์เวย์

คำแนะนำ

  • เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย)ที่กรอบ 61.291-60.842 / SL 61.500 เพื่อทำกำไร 60.875/60.806/60.772/60.689

แนวรับ 59.725/59.114/58.465

แนวต้าน 61.280/62.406/63.010

ปฎิทินข่าว 5 พ.ย.2568

บทวิเคราะห์ข่าว

  • ติดตามปริมาณนำ้ัน คงคลัง จากสถาบัน EIA หากสอดคล้อง กับ API (น้ำมันคงค้างจำนนวนมาก) จะส่งกดดัน WTI

by

Tags:

Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *