Day วานนี้ เปิดตลาดราคาน้ำมันปรับตัวร่วงลง แม้ว่าจะพยายามทรงตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย แตะระดับ กรอบแนวต้านที่ 66.682-67.381 แต่ก็ร่วงลงในภายหลังทันที่ที่ตลาดลอนดอนเปิด ปรับตัวร่วงลงสู่แนวรับที่ให้ไว้ที่ 64.962-64.591 (ตามคาด) อานิสงค์ซึมตัวจากข่าวในวันศุกร์ที่ผ่านมา ทั้งเรื่องการประกาศตัวเลข Nonfarm ที่น้อยเกือบครึ่งของเดือนที่ผ่านมา สะท้อนภาคเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังชะลอตัว อีกทั้ง OPEC+ ยืนยันการเร่งผลิตในเดือน ก.ย. ราคาน้ำมัน พยาามทรงตัวตรงแนวรับดังกล่าวในช่วง ค่ำแต่ติดตรงบริเวณแนวต้าน SRF H1 กรอบ 66.720-65.985 และปรับตัวร่วงลงอีก (ตามคาด) ปิดตลาดลาดรายวัน แท่งเทียน Bearish Doji
น้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) ปิดที่ $ 66.29 ต่อบาร์เรล ลดลง1.50%
ผลการประชุม OPEC+ ปรับเพิ่มกำลังการผลิต ในเดือน ก.ย. … ปัจจัยกดดันราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่องวานนี้
- กลุ่ม OPEC+ บรรลุข้อตกลงในการกำลังการผลิตน้ำมันอีกครั้งในปริมาณมากสำหรับเดือนก.ย. ซึ่งถือเป็นการฟื้นฟูกำลังการผลิตส่วนที่เคยระงับไปให้กลับคืนมาอย่างสมบูรณ์ เพื่อต้องการจะทวงคืนส่วนแบ่งจากตลาดโลก (นอกเหนือจากตลาด WTI และ Brent)
- ซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรน้ำมันตกลงเพิ่มกำลังการผลิต 548,000 บาร์เรล/วันในเดือนกันยายน
- ยกเลิกแผนการลดกำลังการผลิตเดิม 2.2 ล้านบาร์เรล ที่เคยทำมาในปี 2023
- ให้โควต้าพิเศษเพิ่ม(อนุญาติให้ผลิตเพิ่ม) สำรหับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วย
ประกาศตัวเลข Nonfarm จำนวนรับสมัครงาน เหลือแค่ 73,000 คน … กดดัน ราคา USD และราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง วานนี้
- 1 ส.ค. ประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร Nonfarm ออกมาเพียงแค่ 73,000 ตำแหน่ง (เดือน ก.ค. 147,000 ตำแหน่ง) ลดลงเกินครึ่ง คาดเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว … ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน ในขณะเดียวกัน USD ให้เกิดแรงเทขายออกมาอย่างหนัก หลังนักลงทุนคาด Fed น่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้ FED Watch Tool มุมมองนักลงทุนคาด ว่าจะปรับลดดอกเบี้ย 4.25% ในวันที่ 17 ก.ย. (การประชุมครั้งหน้า) 77.7% (เพิ่มจาก 38.4%)
- 2 ส.ค. ทรัมป์ โพสต์วิจารณ์ Dr.Erika McEntarfer ผู้บริหาร Bureau of Labor Statistics (สนง สถิติแรงงาน กระทรวงแรงงาน สหรัฐ) ระบุ ข้อมูลดังกล่าว เป็นการบิดเบียนภาพลักษณ์ของทรัมป์และพรรครีพับลิกัน Nonfarm ที่เกิดขึ้นเป็นการปั่นตัวเลขโยไม่มีหลักฐาน “เขาได้สั่งปลดเธอทันที พร้อมหาคนใหม่มาแทนเร็วๆนี้”
- 3 ส.ค. ทรัมป์โพส วิจารณ์ การทำงาน เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ตำหนิ ในความล่าช้า และไม่เหมาะสมกับตำแหน่งในการ ไม่รีบ “ปรับลดอัตราดอกเบี้ย”
- Fed ออกแถลงการณ์ ระบุ “อเดรียน่า คูเกลอร์”กรรมการผู้ว่าการ Fed ประกาศลาออกจากตำแนห่งมีผล 8 ส.ค. (ลาออกก่อนวาระสิ้นสุดในวันที่31 ม.ค. 2026)ส่งผลกระทบต่อกระบวนการ สรรหาผู้บริหารเฟดชุดใหม่
- 4 ก.ค. Mary Daly ประธานธนาคากลางสหรัฐ สาขา ซานฟรานซิสโก กล่าวว่า ขณะนี้มีหลักฐานมากขึ้น ที่ชี้ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐ กำลังอ่อนตัวลง และไม่มีสัญญาณภาวะเงินเฟ้อทีเกิดจาก”ภาษีนำเข้า” ใกล้ถึงเวลาที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว … ส่งสัญญาณในการลดดอกเบี้ยจากสมาชิก Fed
- Goldman Sachs ปรับคาดการณ์ ลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2025 ครั้งละ 25 bps เริ่มตั้งแต่ ก.ย.,ต.ค.,พ.ย. โดยให้เหตุผลมาจากแรงกดดัน เศรษบกิจจากนโยบายภาษี และ ตลาดแรงงานที่เริ่มอ่อนแอ ในขณะที่ Sentiment & Market Pricing คาดการณ์ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยใน เดือน ก.ย 94% ในขณะที่วันนี้ Fed Watch Tool ปรับคาดการณ์วันนี้ เป็น 89.4% (วานนี้ 77.7%) ปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18 ก.ย.
ทรัมป์ปราม อินเดียสั่งน้ำมันรัสเซีย เท่ากับสนับสนุนสงคราม …
- แม้ว่าทรัมป์จะมีการลงสัทรัมป์ ลงนาม Executive Order สำหรับ 69 ประเทศสำหรับภาษีเฉพาะประเทศ เริ่มใช้ 7 ส.ค. ซึ่งอินเดียเป็นประเทศที่ต้องเสียภาษีนำเข้าสหรัฐ อัตรา 25% แต่คำขู่ของสหรัฐใน 2 สัปดาห์่ก่อน โดยจะเรียก” เก็บภาษีนำเข้าประเทศที่สั่งซื้อน้ำมันนำเข้าจากรัสเซีย Secondary tariff 100% หากรัสเซียไม่ยุติความขัดแย้งในยูเครน”
- ทรัมป์ ประนามการกระทำของอินเดีย “ไม่ยุติธรรม และเป็นการกระทำที่ไม่มีมนุษยธรรม เท่ากับการสนับสนุนรัสเซียให้สร้างคราม” อินเดียซึ่งยังคงสั่งซื้อ น้ำมันจากรัสเซียและส่งขายต่อยุโรป แม้อินเดียจะอ้างว่า “ไม่สามารถยุติคำสั่งซื้อดังกล่าวที่ทำร่วมกันกับรัสเซียได้ เนื่องจากเป็นคำสั่งซื้อในระยะยาวที่มีการออกคำสั่งซื้อมานานแล้ว”
- นายก รมต นเรนทรา โมดี ของอินเดีย แสดงจุดยืน เรียกร้องให้ประชาชนอินเดียหันมาซื้อสินค้าภายในประเทศ และยังคงดำเนินซื้อน้ำมันจากรัสเซีย อย่างท้าทาย
- ทั้งนี้ทั้งจีนและอินเดีย เป็น 2 ประเทศหลัก ที่มีการสั่งซื้อทั้ง น้ำมัน และ อาวุธจากรัสเซีย ในขณะที่ทรัมป์เลือกที่จะขู่อินเดียด้วยถ้อยคำรุนแรง ซึ่งตรงข้ามกับ จีน ที่มีการเตือนอย่างสุภาพจาก สก็อต เบสเซนต์ รมตคลังสหรัฐ ในการเจรจาการค้าล่าสุด 29-30 ก.ค. เมือสับดาห์ที่แล้ว ในขณะที่จีนเอง ประกาศชัด “การซื้อพลังงานจากแหล่งใด เป็นสิทธิอธิปไตยของจีน และจีนจะดำเนินกาค้าพลังงานตามความต้องการของตนเอง”
รัสเซียปฎิเสธแรงกดดันจากสหรัฐ แต่มีการดำเนินการเจรจาก รัสเซีย-ยูเครน
- หลังจากที่ทรัมป์ขยายเส้นตาย ให้รัสเซียยุติการรุกรานยูเครน ภายในวันที่ 8 ส.ค. ปูตินระบุ เป้าหมายของรัสเซียในสงครามยูคเครนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง การเจรจา รัสเซีย-ยูคเครน สัปดาห์ที่แล้วในกรุงฮิสตันบลู ปูตินกล่าวมีความเป็นไปในเชิงบวก แต่ไม่อยากให้มีความหวังมากไป”
EU ประกาศ ระงับมาตราการตอบโต้ภาษีสหรัฐ … ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน
- สหภาพยุโรป (EU) ประกาศ “จะระงับการใช้มาตรการตอบโต้ภาษีนำเข้าจากสหรัฐเป็นเวลา 6 เดือน” หลังจาก EU และ สหรัฐ บรรลุผลการเจรจาการค้าโดย EU อัตราภาษี 15% นำเข้าสหรัฐ ตาม Executive Orde ภาษีเฉพาะประเทศที่ประกาศไว้สัปดาห์ทีผ่านมา
สวิสเซอร์แลนด์ เดินหน้าเจรจากับสหรัฐต่อไป … ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน
- สหรัฐประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสวิตเซอร์แลนด์ 39% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งผลให้ รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ออกมาแถลง “พร้อมเข้าสู่ขั้นตอนใหม่ ด้วยข้อเสนอที่น่าสนใจมากขึ้น” และย้ำถึงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทส และการวิจัยพัฒนาในสหรัฐ และไม่คิดจะมีมาตรากรตอบโต้สหรัฐแต่มุ่งเน้นเรื่องการเจรจาเป็นหลัก
H4/H1 โครงสร้าง Sideway ราคาเคลือนที่ออกข้างมีการยก Hight สูงขึ้นแต่มีการสร้าง Low ที่ระดับใกล้เคียง Low เดิม ราคาปรับตัวย่อลงมาในแนวรับระดับ จุด Choch H4 ที่ 64.622 ซึ่งอยูแนวเดียวกับแนวรับกรอบ Channel Downtrend H4 เดิม ที่ราคาเคยทะลุขึ้นไปได้ ณ ปัจจุบัน ปรากฎสัญญาณ Hidden Bullish Divergence H4 ซึ่งมีโอกาสที่ราคาจะกลับขึ้นไปทดสอบกรอบแนวต้านเดิมได้
คำแนะนำ
- เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซื้อ) บริเวณกรอบ 65.181-64.958 /SL 64.500 เพื่อทำกำไร ระยะสั้น 65.272/65.353/65.488/65.583/65.717/65.795
- เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย) บริเวณกรอบ 65.984-66.372 / SL 66.700 เพื่อทำกำไรระยะสั้น 65.776/65.603/65.481
แนวรับ 64.622/63.565/62.506
แนวต้าน 67.407/68.483/69.901

ปฎฺิทินข่าว 5 ส.ค. 2568

บทวิเคราะห์ข่าว
- ติดตามตัวเลข PMI Service (ภาคบริการณ์)ในคืนนี้ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อ อุปสงค์ราคาน้ำมัน หากตัวเลขออกมา มากกว่าเดือนที่แล้วหรือมากกว่าคาดการณ์ … ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน แต่หากตัวเลขออกมา น้อยกว่าเดือนที่แล้ว ถึงน้อยกว่า 50 ปัจจัยกดดันราคาน้ำมันในปรับตัวร่วงลงได้
- ทั้งนี้ติดตามถ้อยแถลง (นอกตาราง) โอกาสในการปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า หากมีถ้อยแถลงที่น่าเชื่อถือออกมาจะส่งผลกดดัน USD แต่เป็นปัจจัยบวกให้กับราคาน้ำมันเช่นกัน แต่หากไม่มีข่าวใดๆ ตลาดนำ้มันจะเคลื่อนที่ออกข้างตามโครงสร้างเทคนิค
Leave a Reply