Day โครงสร้างยังคงเป็นเทรดนขาลง วานนี้ราคาน้ำมันย่อตัวลงบริเวณแนวรับ Demand H4 และปรับตัวขึ้น(ตามคาด) ก่อนจะมีแรงขายสลับกลับลงมาในช่วงรอบดึก- เช้าวันนี้ ปิดแท่งรายวัน Bullish with Long Shadow ราคาน้ำมันยังคงได้อานิสงค์เชิงบวกอยู่บ้าง หลัง ทรัมป์เลื่อนการเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมจากอังกฤษเป้นวันที่ 9 ก.ค. แทน (4 มิ.ย.) อีกทั้งนักลงทุนยังคงจับตามองการเจรจาการค้า ระหว่าง สหรัฐ-จีน หลังทรัมป์ออกมาโพส Truth Social ชื่นชม สี จิ้น ผิง ว่าเป็นนักการเจรจาที่แข็งแกร่ง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ WTI งวดส่งมอบเดือน ก.ค. ปิดที่ 63.41 ดอลลาร์สหรัฐต่อาร์เรล เพิ่มขึ้น1.4 %
ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน
- API (American Petroleum Institute) รายงานยอดน้ำมันดิบคงคลัง ลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล (คาดการณ์ 0.9 ล้านบาร์เรล) แสดงถึงความต้องการใช้น้ำมันทีแข็งแต่งอยู่ … ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน
- ไฟป่าใน รัฐ แอลเบอร์ต้า แคนาดา ส่งผลให้การผลิตน้ำมันดิบของแคนาดาลดลงประมาณ 344,000 บาร์เรลต่อวัน อาจก่อนให้เกิดปัญหา อุปทานลดลงในการส่ง น้ำมันดิบให้สรัฐ เพือใช้ในการกลั่นน้ำมันดีเซลและเบนซิน ในอนาคตอันใกล้นี้ .
- นักลงทุนคาด มาตราการคว่ำบาตรส่งน้ำมันอิหร่าน จะไม่ยุติในเร็ววันนี้ ทั้งนี้หลังจากที่อิหร่านออกมาปฎิเสธ ผลรายงาน IAEA(ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ) ที่ออกมา “น่าพอใจน้อยกว่าที่ควร พบข้อกังวลหลายประการที่เป็นความเสี่ยงต่อปฎิบัติการอาวุธนิวเคลียร์” ในขณะที่ อิหร่าน ยืนยันว่า อิหร่านให้ความร่วมมือภายใต้สนธิสัญญา NPT และข้อตกลง JCPOA และขู่ว่า จะมีมาตราการตอบโต้จากอีหร่าน หากรายงานนี้ถูกนำไปใช้ในการดำเนินการต่อในที่ประชุม IAEA วันที่ 9 มิ.ย.
- มาตราการคว่ำบาตรส่งน้ำมัน รัสเซีย จะไม่ยุติในเร็ววันนี้เช่นกัน หลังการเจรจาวันที่ 2 มิ.ย. ไม่มีความคืบหน้า รัสเซียไม่ยอมรับข้อเสนอของยูเครน ในขณะที่ยังคงเดินหน้าโจมตี ทั้งทางอากาศ และทางบกในพื้นที่ยูเครนอย่างต่อเนื่องส่งผลให้มีพลเมืองเสียชีวิต 4 ราย ขณะที่นานาชาติรุมประนามการดังกล่าว เป็นการ”ก่ออาชญากรรมทางสงคราม” ในขณะที่ยูเครน เริ่มเดินหน้า โจทตีรัสเซียด้วยโดรน 117 ลำ ใน 5 ฐานทัพในมอสโค อีกทั้งยังโจมตีสะพานไครเมียด้วยระเบิดใต้ดิน
- แม้ว่าคืนวานนี้ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งบริหาร เพิ่มอัตราภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากระดับ 25% เป็น 50% โดยมีผลบังคับใช้ในเวลา 00.01 น. ของวันพุธที่ 4 มิ.ย. โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ประกาศยกเว้น อังกฤษ เป็นการชั่วคราว ซึ่งทรัมป์ระบุว่า อังกฤษ ต้องได้รับ “การปฏิบัติที่แตกต่าง เนื่องจากมีข้อตกลงที่ลงนามด้วยกัน เมื่อวันที่ 8 พ.ค.แล้ว อย่างไรก็ดีทรัมป์ระบุว่า อาจจะเรียกเก็บอักกฤษ เป็น 50% หลังจากวันที่ 9 ก.ค. แทน
ปัยจัยกดดันราคาน้ำมัน
- ทรัมป์ เตรียมใช้อำนาจฉุกเฉินและลดข้อกำหนดทางกฎหมาย รวมถึงการอนุมัติงบประมาณบางส่วนจากสภาคองเกรสที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย เพื่อเพิ่มการผลิตแร่ธาตุสำคัญและอาวุธของสหรัฐฯ โดยการดำเนินการครั้งนี้ของทรัมป์ จะนำไปใช้กับกฎหมายการผลิตเพื่อการป้องกันประเทศ (Defense Production Act) ซึ่งเป็นกฎหมายของสหรัฐฯ ที่ให้อำนาจฉุกเฉินแก่ประธานาธิบดี ในการควบคุมอุตสาหกรรมและทรัพยากรภายในประเทศในช่วงภาวะฉุกเฉินด้านความมั่นคงแห่งชาติ
- 2 มิ.ย. จดหมายจากสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เร่งรัดให้ประเทศคู่ค้ายื่นข้อเสนอการค้าที่ดีที่สุดภายในวันพรุ่งนี้ 4 มิ.ย. ซึ่งสหรัฐจะใช้เวลาในการประเมินข้อเสนอ เพื่อเร่งนัดการเจรจา ก่อนจะถึงกำหนดเส้นตายวันที่ 8 ก.ค. ทั้งนี้ยังไม่มีระบุประเทศที่จดหมายฉบับนี้ส่งไปถึง
- 31 พ.ค. การเจรจาการค้ารอบที่ 4 ระหว่างสหรัฐ – ญีปุ่น เสร็จสิ้นแล้วแต่หลังจากการประชุมไม่นาน ทรัมป์ประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าเหล็ก-อะลูมิเนียม ซึงส่งผลให้ เรียวเซ อาคาซาวะ รมต.กระทรวงฟื้นฟูเศรษฐกิจญีปุ่นต้องรีบนัดเจรจาการค้ารอบใหม่ในสัปดาห์นี้ เพื่อขอให้สหรัฐผ่อนปรนนโยบายภาษีดังกล่าว ซึ่งแม้ว่านายกญี่ปุ่นและทรัมป์จะมีนัดการประชุมสุดยอดผู้นำโลก G7 (15-17 มิ.ย.)ที่แคนาดา ซึ่งมีหัวข้อการประชุมเรื่อง นโยบายภาษีสหรัฐ รวมอยู่ด้วย แต่มีโอกาศทีทรัมป์จะกลับลำกร้าวแข็งกับนโยบายภาษีอื่นๆ
- อีลอน มัสก์ แห่ง Tesla ออกมาวิจารณ์ร่างกฎหมาย OBBB “นี่คือสิ่งน่ารังเกียจที่เต็มไปด้วยการใช้งบประมาณอย่างสิ้นเปลือง” และจะทำให้ “หนี้ของรัฐบาลพุ่งสูงขึ้น” ซึงก่อนหน้านี้ Wallstreet เตือน มาตรการภาษีสำหรับนักลงทุนต่างชาติในร่างกฎหมายงบประมาณสหรัฐฯ ที่กำลังพิจารณาในสภาคองเกรส (OBBB) อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้อนุมัติร่างกฎหมายภาษีและการใช้งบประมาณ และจะจัดเก็บภาษีแบบก้าวหน้า สูงสุดถึง 20% สำหรับรายได้ passive income ของนักลงทุนต่างชาติ เช่น เงินปันผลและดอกเบี้ย ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนไม่ลงทุนในพันธบัตรสหรัฐเลยแต่ย้ายไปยังประเทศที่ต้นทุนกต่ำกว่า
- กลุ่ม OPEC+ ตัดสินใน เพิ่มกำลังการผลิต 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนก.ค.นี้ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มการผลิตติตต่อกันเป็นเดือนที่ 3 หลังจากเริ่มทยอยยกเลิกมาตรการลดการผลิตโดยสมัครใจที่มีผลมาตั้งแต่ปี 2022 โดยการเพิ่มกำลังการผลิตนี้เป็นส่วนหนึ่งของการยกเลิกการลดการผลิตโดยสมัครใจรวม 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเริ่มต้นในเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลของการเพิ่มกำลังการผลิต 1.ฟื้นฟูส่วนแบ่งตลาด (โดยเฉพาะสหรัฐ) / ลงโทษสมาชิกที่ผลิตเกินโควต้า /ตอบสนองความต้องการทีคาดว่าจะเพิ่มในฤดูร้อนนี้
- Goldman Sachs คาดว่า OPEC+ อาจเพิ่มการผลิตอีก 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนสิงหาคม และหลังจากนั้นอาจคงระดับการผลิตไว้ เนื่องจากคาดการณ์ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว และมีการเพิ่มการผลิตจากประเทศนอกกลุ่ม OPEC
ติดตามผลการเจรจา ระหว่าง ทรัมป์ และ สีจิ้นผิง ที่ Kevin Hassett นักเศรษฐศาสตร์ประจำธรรมเนียบขาว ยืนยันการเจรจามีขึ้นในสัปดาห์นี้แน่นอน … หากการเจรจาการค้าออกมาในทิศทางที่ดี จะส่งผลบวกต่อราคาน้ำมันโดยทันที
- หลังจากที่ต่างฝ่ายต่างออกมาโจมตี ว่าละเมิดข้อตกลงการค้าซึ่งกันและกัน ฝั่งจีน ยืนยันว่าสหรัฐเป็นผู้ละเมิดพักรบข้อตกลงการค้าใน 90 วัน แต่เป็นทางสหรัฐที่ยังไม่ยกเลิกการควบคุมการส่งออกชิปและเทคโนโลยีให้กับจีนอีกทั้งยังยกเลิกวีซ่านักเรียนจีนในสหรัฐ ทั้งสิ้น 277,000 คน (ใกล้เคียงกับจำนวนนักเรียนจีนทั้งหมดในสหรัฐ” ในขณะที่ฝั่งสหรัฐ เรียกร้องให้จีน เร่งอนุมัติ “ใบอนุญาติ”ส่งแร่หายาก Rare Earth
อิสลาเอล – ฮามาส การเจรจาที่ส่อเค้าล่ม … ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน
- ฮามาสล้างไพ่ กลับลำยืนข้อเสนอ ขอปล่อยตัวประกันอิสลาเอล 3 ระยะ โดยให้ต่างชาติเข้าดูแล และอิสลาเอลต้องถอนกำลังออกจากฮามาสและพักรบ 5 ปี พร้อมทั้งให้คณะกรรมการเทคโนแครตฝายพลเรือนเข้ามาดูแลกาซ่า ในขณะทีอิสลาเอลปฎิเสธยอมรับเงื่อนไขใดทั้งสิ้นจากฮามาส นอกจากการปลดอาวุธของฮามาสและถอนกำลังออกจากกาซ่า ข้อเสนอฮามาสเป็นข้อเสนอใหม่ในสัปดาห์นี้หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐออกมาชื่นชมฮามาสว่ายอมรับข้อเสนอหยุดยิง60 วัน เพื่อเปิดโอกาสสู่การเจรจาทางอ้อมในสัปดาห์หน้า ในขณะที่การสู้รบในฉนวนกาซ่ายังดำเนินต่อไป ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต31 ราย จากการกลาดยิงศุนย์แจกจ่ายความช่วยเหลือเมือง ราฟาห์ ซึ่งอิสลาเอลออกมาปฎิเสธปฎิบัติการดังกล่าว
H4 /H1 : ราคาน้ำมันยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ Sideway (แนวรับ Demand H4 59.451 และแนวต้าน Supply H4 63.230 แต่ถือว่าเป็นการเคลื่อนที่ออกจากกรอบ Channel Downtrend H4 แล้ว อีกทั้งยังพยายามยก High และ Low สูงขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้หากราคาน้ำมันสามารถยืนเหนือ 64.772 ได้สำเร็จ จะถือเป็นการสิ้นสุดโครงสร้างเทรนด์ขาลงในระยะกลางได้ด้วย / H4 ปรากฎ Hamonic Shark Pattern มีโอกาสที่ย่อตัวลง (+Bearish Divergence) และดีดขึ้นต่อ
แนะนำ
- เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย)ที่กรอบ 63.235-63.994 / SL 64.020 เพื่อทำกำไรที่ 63.071/62.867/62.595/62.436/62.343
- เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซื้อ)ที่กรอบ 62.133-61.614 / SL 61.600 เพื่อทำกำไรที่62.195/62.399/62.578/62.879/63.091/63.302/63.564
แนวรับ 61.787/60.860/59.802
แนวต้าน 63.244/63.985/64.772

ปฏิทินเศรษฐกิจ 4 มิ.ย. 2568

- ติดตามตัวเลข API – Nonfarm คืนนี้ (อาจให้ผลเพียงเล็กน้อย) หากค่าจริงสูงกว่าคาดการณ์ จะส่งผลให้ USD และน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น แต่หากออกมาน้อยกว่า เดือนที่แล้ว 62K จะส่งผลให้ USD และน้ำมันปรับตัวร่วงลง
- ติดตาม PMI ภาคการบริการ ที่เน้นการส่งออก และการเงินและธนาคาร หากตัวเลขยังสูงกว่า 50% เศรษฐกิจฝั่งบริการสหรัฐยังคงขยายตัว ซึ่งดีต่อ USD และน้ำมันเช่นกัน
- ติดตามตัวเลขปริมาณน้ำมันคงคลัง ซึ่งช่วงเช้า API รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังและ นำมันกลั่นลงดลง หาก EIA รายงงานในทิศทางเดียวกัน จะส่งผลบวกต่อราคาน้ำมัน
Leave a Reply