Day วานนี้ราคาน้ำมันปรับตัวย่อลงบริเวณแนวรับ 57.586-57.888 ก่อนดีดตัวขึ้น (ตามคาด) ปิดแท่งรายวัน Bullish Hammer ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของ USD(DXY) จากการเพิ่มโอกาสที่ fed จะปรับลดอกเบี้ย 0.25 ในการประชุมคร้งหน้า นอกจากนี้นักลงทุนคาดมีโอกาสยืดเยื้อสำหรับข้อตกลงสันติภาพ รัสเซีย – ยูเครน ประกอบกับ OPEC+ มีแนวโน้มที่จะคงระดับการผลิตน้ำมันไว้ตามเดิม เพื่อควบคุมอุปทานน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) ปิดที่ 59.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.8%
OPEC+ มีแนวโน้มคงอัตราการผลิตน้ำมัน ควบคุมอุปทานน้ำมัน …. ปัจจัยบวกต่อน้ำมัน
- มีรายงานว่า OPEC+ “มีแนวโน้ม” จะ คงระดับการผลิตน้ำมันไว้ตามเดิม ในการประชุมวันอาทิตย์ 30 พ.ย.นี้ โดยไม่มีการเพิ่มโควตาในไตรมาส 1/2026
- ก่อนหน้านั้น กลุ่มได้อนุมัติให้เพิ่มกำลังการผลิต 137,000 บาร์เรล/วัน สำหรับเดือนธันวาคม 2025 เท่ากับการเพิ่มในเดือนก่อนหน้า แต่ขณะเดียวกัน ก็ประกาศ “pause” สำหรับช่วงเดือน มกราคม–มีนาคม 2026
- เหตุผลหลักที่ให้คงโควตาไว้ คือ ความกังวลว่าอุปทานน้ำมันอาจล้นตลาด (oversupply) เพราะความต้องการทั่วโลกในไตรมาสแรกของปีมักอ่อนตัวตาม “ฤดูกาล” และสต็อกน้ำมันโลกอาจเพิ่มขึ้น
- นอกจากเรื่องโควตารายเดือนแล้ว ในที่ประชุมครั้งนี้ กลุ่มคาดว่าจะบรรลุข้อตกลงในเรื่อง กลไกประเมิน “กำลังผลิตสูงสุด (maximum production capacity)” ของแต่ละประเทศสมาชิก เพื่อใช้กำหนด “baseline / quota” สำหรับปีหน้า (2027) เป็นต้นไป
USD อ่อนค่าหลัง FED Watch Tool ปรับคาดการณ์ ลดดอกเบี้ย ในการประชุมคร้งหน้า …ปัจจัยบวกต่อน้ำมัน
- 26 พ.ย. Fed Watch Tool ปรับคาดการณ์ โอกาสที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25 .ในการประชุมคร้าเพิ่มเป็น 84.7% (พุธที่ผ่านมา 84.3%)
- 27. พ.ย. JP Morgan มีความเห็นเช่นเดียวกับ สมาชิก Fedอีกครึ่งหนึ่งที่ต้องการให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC วันที่ 9-10 ธ.ค. ลงที่ 0.25%
- รายงาน Beige Book ของ FED คาดแรงงานชะลอตัว สนับสนุนการลดดอกเบี้ย
– 26 พ.ย. ธนาคารกลางสหรัฐ เผยแพร่ Beige Book : เป็นรายงานสำคัญที่ Fed ใช้ในการประเมินสภาพเศรษฐกิจ เชิงคุณภาพทั้ง 12 เขตเศรษฐกิจในสหรัฐ / นำเสนอปีละ 8 ครั้ง / รวบรวมข้อมูลจาก ภาค ธุรกิจ ,นักเศรษฐกศาสตร์เอกชน , ผุ้นำอุตสาหกรรม ,แรงงาน และผุ้เชี่ยวชาญต่างๆ
– – กิจกรรมเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย (นิ่ง + ไม่ขยายตัว) (ภาคการผลิต 30% + ภาคบริการ 70%)
– การใช้จ่ายผุ้บริโภคลดลง โดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเฟือย ปรับตัว K-Shape /เว้นแต่ผุ้มีรายได้สูง จะมีเห็นมีการใช้จ่ายในบางสินค้า / เขต นิวยอร์ก แอตแลนต้า มีนาโพลิส ประชาขน รายได้ ต่ำ- ปานกลาง เข้าสู่ภาวะรัดเข็มขัด ลดการใช้จ่ายอย่างเห็นได้ชัด
– ภาคบริการชะลอตัว (ร้านอาหาร / ท่องเที่ยว / บริการสุขภาพ –ความงาม) / ขนส่ง / นายหน้า
– ความต้องการจ้างงานลดลง หลายบริษัทหยุดรับสมัครพนักงานใหม่
– แรงงานหาง่ายขึ้น (ว่างงานมาก)
– เงินเฟ้อเย็นลง : ราคาสินค้าบางกลุ่มไม่เพิ่มขึ้น + ต้นทุนวัตถุดิบบางอุตสาหกรรมลดลง + บริษัทไม่กล้าขึ้นราคา(แม้ต้นทุนนำเข้าสูง) เนื่องจากผุ้บริโภคอ่อนแอ
ข้อตกลงสันติภาพ รัสเซีย – ยูเครน นักลงทุนคาดมีโอกาสยืดเยื้อ… ปัจจัยบวกต่อน้ำมัน
- 27 พ.ย. ปูติน ตำหนิ เซเลนสกี้ ขาดความชอบธรรม ดังนั้นขอเสนอขอ ยูเครนตอนนี้ ก็ยังคงขาดความชอบธรรมเช่นกัน แต่ยังเปิดกว้างสำหรับการเจรจา “ข้อเสนอแผนสันติภาพของทรัมป อาจเป็นพื้นฐานในข้อตกลงในอนาคตได้” แต่ยังไม่จัดทำร่างฉบับสุดท้าย / สติฟ วิตคอฟ ผู้แทนพิเศษสหรัฐมีแผนเดินทางมอสโค ในสัปดาห์หน้า
- 26 พ.ย. เซเลนสกิ้ พบ ไบบาบาเซ รมต ต่างประเทศลัตเวีย ณ กุรงเคียฟ (ยูเครน) โดยขอบคุณ ที่ ให้ยูเครนสามารถซื้อ แพทริออท และ ระบบป้องกันภัยทางอากา / ณ ปัจจุบัน รัสเซีย สามารถยึดพื้นยูคเรน ได้มากกว่า 19% ของยูเครน 115600 ตรกม (เพิ่มขั้น 1% จาก 2 ปีที่ผ่านมา)
ข้อกำหนดที่ยากสำหรับยูเครน
– ยูเครนต้องลดขนาดกองทัพ 600,000 นาย (ยุโรปเสนอ 800,000 นาย)
– ยูเครนจะต้องไม่เข้าเป็นสมาชิก Nato และ Nato จะต้องไม่รับรองยูเครนในอนาคต และไม่ประจำกองกำลังในยูเครน
– ยูเครน ต้องยอม เสียดินแดนที่รัสเซียยึดครองได้ Crimea / Donetsk / Luhansk (1/5 ของประเทศยูเครน) จะถือเป็นการให้รางวัลรัสเซียซึ่งเป็นประเทศที่รุกราน - ยุโรป ที่มีการจัดทำ ข้อเสนอแผนสันติภาพ รัสเซีย- ยุโรป ปูตินพร้อมให้คำมั่นสัญญา รัสเซียจะไม่บุกยุโรป ตนก็พร้อมจะให้คำมั่นอย่างเป็นทางการ
- – หลักประกันความมั่นคง ดูคลุ่มเคลือ โดยยูเครน เสนอว่า “หากรัสเซียกลับมารุกราน จะต้องมี
โรงกลั่นเอกชนของจีน ได้รับโควตานำเข้าน้ำมันดิบล็อตแรกสำหรับปี 2026 เพิ่มแรงอุปสงค์… ปัจจัยบวกต่อน้ำมัน
- โรงกลั่นเอกชนของจีน ได้รับโควตานำเข้าน้ำมันดิบล็อตแรกสำหรับปี 2026 ซึ่งสามารถใช้กับเรือบรรทุกน้ำมันที่มาถึงก่อนสิ้นปีนี้ โดยการออกโควตาชุดใหม่คาดว่าจะช่วยหนุนปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก และช่วยบรรเทาภาวะอุปทานส่วนเกินในตลาด
– รวมประมาณ 8 ล้านตันให้กับ 21 โรงกลั่น (เพิ่มจาก 6.04 ล้านตันในปี 2024)
– รงกลั่นใหญ่เช่น Hengli Petrochemical ได้โควตา 2 ล้านตัน (40,000 บาร์เรล/วัน) และ Rongsheng Petrochemical ได้ 750,000 ตัน
H4/H1 โครงสร้าง H4 ยังคงเป็นเทรนด์ขาลง ทันทีที่ราคาปรับตัวร่วงลงระดับล 57.027 เริ่มปรากฎสัญญาณกลับตัว Bullish Divergence H4 ราคคา Rebound ขึ้น (ตามาด)มีโอกาสที่กราคจะ Rebound ขึ้น ทั้งนี้หากราคาน้ำมันยืนเหนือ 60.816 ได้ จะเป็นจุด Choch สิ้นสุดโครงสร้างเทรนด์ขาลง ในขณะที่ H1 มีการเลือกข้างเบรคขึ้นเหนือกรอบสามเหลี่ยม
คำแนะนำ
- เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซ์้อ) 58.314-58.693 /SL 58.000 เพื่อทำกำไร 58.851/58.955/59.131/59.254/59.429/59.530/59.777
- เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย) 59.777-60.392 / SL 60.800 เพื่อทำกำไร 59.530/59.429/59.378
แนวรับ 58.279/57.592/57.027
แนวต้าน 59.777/60.392/60.833


Leave a Reply