กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 28 ส.ค. 2568

Day วานนี้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น (ตามคาด)หลังมีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ EIA และ APIลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ขณะเดียวกันนักลงทุนกำลังประเมินผลกระทบจากมาตรการภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ต่ออินเดีย วานนี้ช่วงเช้า-บ่าย ราคาน้ำมันปรับตัวร่วงลงมา แตะกรอบระดับแนวรับที่ให้ไว้ 62.273-62.615 ราคาดีดตัวขึ้น(ตามคาด) ราคาดีดแทงทะลุ Supply H4 กรอบ 63.779-63.403 ก่อนจะปรับตัวร่วงลงจนถึงช่วงเช้านี้ ปิดแท่งรายวัน ฺBullish with both shadows ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ

สัญญาน้ำมัน WTI ปิดที่ 64.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.4%

EIA Report วันที 27 ส.ค. ปริมาณน้ำมันดิบลดลง … ปัจจัยบวกราคาน้ำมัน ระยะสั้น (แต่ยังสะท้อนความต้องการน้ำดีเซลที่น้อยลงเช่นกัน)

• ปริมาณน้ำมันดิบในคลัง (ไม่รวม Strategic Petroleum Reserve) ลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล เหลือ 418.3 ล้านบาร์เรล
• น้ำมันเบนซิน ลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ระดับเฉลี่ยของ 5 ปี
• น้ำมันดีเซล (distillate) ลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีถึงประมาณ 15 %
• การกลั่น (refinery crude runs) ลดลง 328,000 บาร์เรลต่อวัน โดยอัตราการใช้งานกำลังการผลิต (utilization) อยู่ที่ 94.6 %
• ผลิตน้ำมันเบนซิน เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ ผลิต distillate ลดลง 112,000 บาร์เรลต่อวัน (เหลือ ~5.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน)
• ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ถึงกิจกรรมการขับขี่ช่วงปลายฤดูร้อนที่แข็งแกร่ง แต่ก็ยังสร้างความกังวลว่าเมื่อพ้นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ความต้องการอาจอ่อนตัวลง ส่งผลให้โรงกลั่นมีกําไรลดลงและตลาดน้ำมันดิบมีความเปราะบางต่อการบริโภคที่อ่อนแอลง

สหรัฐกลับลำดำเนินการนำขึ้นเข้าสินค้าจากอินเดีย 50% มีผลแล้ว… ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำม้น

• ทรัมป์ สั่งขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าอินเดียเป็น 50% โดยมีผลตั้งแต่เวลา 00.01 น. วันพุธ 27 ส.ค. โดยให้เหตุผลว่า”เพื่อเป็นการลงโทษที่อินเดียยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งเขามองว่าเป็นการสนับสนุนเงินทุนสงครามของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน”
• โดยมาตรการดังกล่าว ถือเป็นการขึ้นภาษีที่สูงที่สุดในเอเชีย และเป็นการปรับเพิ่มจากเดิม 25% เท่าตัว
• ซึ่งจะครอบคลุมสินค้าส่งออกอินเดียกว่า 55% ที่ไปยังตลาดสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของอินเดีย และส่งผลกระทบหนักต่ออุตสาหกรรมใช้แรงงาน เช่น สิ่งทอและอัญมณี
• โรงกลั่นของอินเดียหยุดการซื้อน้ํามันจากรัสเซียชั่วคราวหลังจากมีการใช้มาตรการภาษีรอง แต่ได้กลับมาซื้ออีกครั้ง โดยมาตรการดังกล่าวไม่เพียงพอที่จะจํากัดการไหลเวียน
• แต่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเวชภัณฑ์ยังได้รับการยกเว้น ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้การลงทุนขนาดใหญ่ของ Apple Inc. ในอินเดีย ได้รับผลกระทบในทันที
• สมาพันธ์ผู้ส่งออกอินเดีย (FIEO) และกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ กำลังกดดันรัฐบาลอินเดียให้เร่งออกมาตรการเยียวยา เช่น การปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ การอุดหนุนค่าแรง และการลดหย่อนภาษี เพื่อบรรเทาผลกระทบ โดยเตือนว่าหากไม่มีความช่วยเหลือ การผลิตอาจต้องหยุดชะงัก โรงงานจำนวนมากอาจปลดคนงาน และอินเดียอาจสูญเสียส่วนแบ่งตลาดที่สร้างขึ้นมาได้ยากลำบากให้กับคู่แข่ง

รายงาน S&Pคาดราคาน้ำมันดิบอาจต่ำกว่า $50 ต่อบาร์เรล ในปีนี้ 2025 … ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน

• 27 ส.ค. มีรายงานจาก S&P Global Commodity Insights ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบอาจดิ่งต่ำกว่า $50 ต่อบาร์เรล ภายในปีนี้ (2025) เนื่องจากอุปทานจากประเทศผู้ผลิต (โดยเฉพาะ OPEC+) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ความต้องการยังเติบโตอย่างอ่อนตัว การคาดการณ์ใหม่นี้จึงทำให้มีโอกาสที่ราคาจะร่วงต่ำอย่างที่ไม่เคยเห็นในเร็วๆ นี้
• ก่อนหน้านี้ในเดือน เม.ย. JP Morgan ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมัน ปรับลงเหลือ $66 สำหรับปี 2025 และ $58 ในปี2026 เช่นเดียวกับ Capital Economics ปรับคาดการณ์ เหลือ $60 สำหรับปี 2025 และ $50 สำหรับปี 2026

ทรัมป์พยายามบีบให้รัสเซียขึ้นสู่โต๊ะการเจรจา ในขณะการสู้รบยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง … ปัจจัยบวกต่อราคานำมันหากไม่มีการเจรจา จากมาตราการคว่าบาตรนำมันรัสเซีย

• 28 ส.ค. รัสเซียยิงโดรนและขีปนาวุธโจมตีพื้นที่ใจกลางเมืองเคียฟ เป็นการโจมตีครั้งใหญ่ในรอบสัปดาห์ มีผู้เสียชีวิต 8 ราย (รวมเด็ก 2 คน) และบาดเจ็บ 30 คน ในจำนวนนี้มีอาคารที่เสียหายเกือบ 100 แห่ง เช่น ห้างสรรพสินค้าและอาคารอยู่อาศัยสูง 5 ชั้นในเขต Darnytskyi
• การโจมตีนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ความพยายามเพื่อสันติภาพที่นำโดยสหรัฐ อาจจะล้มเหลว โดยเซเลนสกี้ กล่าวประณามรัสเซียว่าเลือกใช้ความรุนแรงแทนทางออกทางการทูต
• ทรัมป์ย้ำเตือนถึงการจะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียถ้าไม่มีการเจรจาสันติภาพในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า อาจประกาศบทลงโทษทางเศรษฐกิจอย่างแพร่หลาย เช่น ภาษีนำเข้าจำนวนมหาศาล หากไม่มีความคืบหน้า ในขณะที่ยูเครน แสดงความพร้อมเจรจาก กับ รัสเซียอย่างจริงจัง
• มีการระบุว่า รัสเซียยังไม่เปิดรับการประชุมแบบทวิภาคี(มีสหรัฐเข้าร่วม)
• สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐ กำลังผลักดันร่างกฎหมาย Sanctioning Russia Act of 2025 (S. 1241) เสนอให้อำนาจประธานาธิบดีใช้ภาษีนำเข้าราว 500% กับประเทศที่ยังนำเข้าพลังงานรัสเซีย (เช่น น้ำมัน ก๊าซ ยูเรเนียม ฯลฯ) ในขณะที่ ณ ปัจจุบันสหรัฐยังคงดำเนนการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2022 (คว่าบาคเทคโนโลยี, เรื่อส่งน้ำมัน,ดึงออกจาก SWIFT )แต่ยังไม่มีการเรียกเก็บภาษีนำเข้า 100% จากสินค้ารัสเซีย

H4/H1 ราคาน้ำมันเคลื่อนทีกลับลงมาทดสอบกรอบ Channel Downtrend และเป็นการย่อลงมาในระดับ 50.0% Fibonacci ย่อเก็บเป้า Target ของ Cypher Harmonic Pattern แต่ยังมีโอกาสที่จะลงมาเก็บเป้า 61.8% ในข่ณะที่ TF H1 เริ่มมีการสร้าง Shark Harmonic Pattern ในระดับ Sideway Down

คำแนะนำ

• เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย ) ที่กรอบ 63.779-63.403/ SL 63.850 เพื่อทำกำไร 63.279/63.076/62.987/62.861/62.778/62.609
• เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณขื้อ) ที่กรอบ 62.844-62.445/ SL62.200 เพื่อทำกำไรที่ 62.788/62.898/62.987/63.463/63.577

แนวรับ 62.255/61.538/60.982

แนวต้าน 64.890/64.407/63.797

ปฎิทินเศรษฐกิจ 28 ส.ค.2568

บทวิเคราะห์ข่าว

• ติดตามประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ หากจำนวนมากกว่าเดือนที่แล้วชนิดเกินความคาดหมาย จึงจะส่งผลกดันราคาน้ำมัน หรือหากจำนวนผุ้ขอรับสวัสดิการว่างงาน น้อยกว่าคาดการณ์ ชนิดเกินคาด จึงจะส่งผลบวกต่อราคาน้ำมัน