กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 27 มิ.ย.2568

Day โครงสร้างเทรนด์ขาขึ้น วานนี้ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เพียง 17xx จุด บริเวณแนวรับ Support H4 กรอบ 65.171-66.503 เดิมที่ให้ไว้ ราคาน้ำมันทรงตัวอยู่ในระดับนี้ นาน3 วันติดต่อกัน ปิดแท่งรายวัน เป็น Bullish Doji

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดตลาดที่ 67.73 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.07%

ราคาน้ำมันยัคงรอปัจจัยใหม่ๆเข้ามาในตลาด เนื่องจากการลดของสต็อกน้ำมัดิบในสหรัฐจากการต้องการเพิ่มในฤดูขับขี่ บวกกับความกังวลความเสี่ยงอุปทานในตะวันออกกลางที่คลี่คลายลง

•สถานะการ Ceasefire อิหร่าน กับ อิสลาเอล ที่ดูเหมือนคลี่คลายลงในระยะนี้ (กดดันราคาน้้ำมันอย่างมีนัยยะ)

• แม้ว่าจะมีข้อตกลงหยุดยิง ระหว่าง อิสลาเอลและอิหร่าน แต่แนวโน้มยังคงเปราะบางอยู่ มีการอ้างว่า ต่างฝ่ายต่างยิงชีปนาวุธเล็กเข้าใส่กันและกัน
• ทรัมปประกาศว่า จะมีการเจรจากับอิหร่านในสัปดาห์หน้า แต่ยังคงไม่มีการระบุวันเวลา ที่ชัดเจน ฝ่ายอิหร่านปฎิเสธชัดว่าไม่มีแผนการเจรจากับสหรัฐในสัปดาห์นี้ แต่อิหร่านเปิดช่องการเจรจากับยุโรป
• ในขณะที่อิหร่าน ประกาศย้ำไม่ให้ความร่วมมือกับ IAEA ในการกลับเข้ามาสำรวจความเสียหายฐานนิวเคลียร์ 3 ทั้ง 3 แห่งของอิหร่านอีกครั้ง อิหร่านย้ำ “ยังคงเดินหน้าต่อไป”
• ภายในอิหร่าน หลายฝ่ายสนับสนุน แนวทาง “สร้างชาติใหม่หลังสงคราม”คือการฟื้นฟูประเทศ ลดความก้าวร้าว และคืน สัมพันธ์กับประชาคมโลก
• สหรัฐสูญเสียอาวุธยุโธปรณ์ไปหลายรายการ ในการช่วยอิสลาเอล ยิงสกัดขีปนาวุธอิหร่าน ล่าสุดทรัมป์เสนองบประมาณ กลาโหม ปี2026 จำนวนรวม $893 พันล้าน เพิ่มงบ โดรน และ มิสไซล์ ขณะที่ลดการสั่งผลิต F-35 ใหม่แต่เน้นการบำรุงซ่อมแซมดังเดิม อีกทั้งยังขอจัดสรรเงินเพิ่มให้กำลังพล

ทรัมป์ยืนยัน “จีนได้เซ็นข้อตกลงแร่หายากให้สหรัฐแล้ว… ปัจจัยบวกต่อ USD กดดัน น้ำมัน

• แต่จนถึงนะปัจจุบัน จีน ยังคงใช้ “ระบบอนุญาติส่งออกอย่างเข้มงวด” ซึ่งทำให้เกิดความล่าช้าในการออกใบอนุมัติ ซึ่งยังคงเกิดความล่าช้าในทางปฎิบัติ นักวิเคราะห์คาด ว่า จีนต้องการควบคุมสต็อก ตรวจสอบการใช้งาน และถ่วงเวลาเพื่อประโยชน์ทางภูมิศาสตร์
• แม้ว่าสหรัฐ อ้างว่าจะยกเลิกการควบคุมชิปไปจีน และยกเลิกการยกเลิก วีซ่า นักเรียนจีน เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน แต่จนถึงปัจจุบัน แต่ยังคงไม่มีการยกเลิกการควบคุมชิปไปจีน ล่าสุดมีแผนการยกเลิกใบอนุญาติ ส่งชิป ให้กับ Samsung , SK Hynix และ TSM / ในขณะที่ศาลสหรัฐ ระงับคำสั่งห้ามทรัมป์ ในการแบนนักเรียนต่างชาติ (รวมถึงจีน) แต่ยังคงไม่กลับสู่ภาวะปกติ จนกว่าจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถาวร หรือทรัมป์จะถอนคำสั่งเอง

ข้อตกลงการค้าสหรัฐ กับ 10 คู่ค้าที่สำคัญ อาจจะต้องเลื่อนจาก 9 ก.ค.ออกไป … ปัจจัยบวกต่อ USD และน้ำมัน

• 10 ประเทศคู่ค้าหลัก ประกอบไปด้วย แม็กโก/ แคนาดา/จีน/เยอรมนี/ญีปุ่น /เกาหลีใต้ /ใต้หวัน /เวียดนาม/สวิสเซอร์แลนด์และอังกฤษ โดยอาจจะขยายเวลาจากเส้นตาย 9 ก.ค. ออกไปสำหรับกลุ่มนี้ เนื่องจาก อาจจำเป็นต้องมีกรอบเวลา ข้อตกลง MOU เพื่อลงนามให้ชัดเจนเพื่อใช้ในทางปฎิบัติ Q3-Q4 2025 
• สำหรับประเทศที่นอกเหนือ 10 ประเทศคู่ค้าหลักสหรัฐ อาจจะมีการ เรียกเก็บ”ภาษีฝ่ายเดียว” ทันที หากยังไม่กำหนด การเจรจาก่อนวันที่ 8 -9 ก.ค.        
  –  ประเทศที่นิ่งเฉยซึ่งเสียงต่อ “ภาษีฝ่ายเดียว” ที่อาจจะเริ่มใช้หลังวันที่ 9 ก.ค.

ทรัมป์เรียกร้องให้มีการลดดอกเบี้ยโดยทันที … ปัจจัยลบต่อ USD ปัจจัยบวกต่อน้ำมัน

• ทรัมป์ออกมาวิจารณ์การทำงานของ เจอโรม พาวเวล ประธาน Fed อย่างต่อเนื่อง เรียกร้องให้มีการลดดอกเบี้ยทันที เชื่อเงินเฟ้อสหรัฐ อยู่ในระดับชะลอตัวแล้ว
• ทรัมป์เตรียมเสนอชื่อ Kevin Warsh หรือ Scott Bessent ตัวเต็งที่คาดว่าจะมาทำหน้าแทน เจอโรม พาวเวล์ ประธาน FOMC ซึ่งคาดว่าจะแทนทันที เดือน ก.ย.- ต.ค. (เจอโรมจะหมดวาระ พ.ค.2026)
• ** ทั้งนี้การปลดพาวเวล์ ก่อนครบวาระ ถือว่าผิดกฎหมาย “For Cause” ซึ่งจะปลดได้เมือ พบการประพฤติผิดร้ายแรง และล้มเหลวต่อหน้าที่เท่านั้น ซึ่งเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะมีการดำเนินงานทางด้านกฎหมายควบคู่อยู่ในขณะนี้
• ทั้งนี้นักวิเคราะห์กังวลว่า หากเปลี่ยน Fed จริง จะมีการลดดอกเบี้ยมากกว่า 2-3% ในคราวเดียว

เศรษฐกิจสหรัฐไตรมาสแรก(GDP) หดตัวแต่ค่าคาดการณ์ในไตรมาศ 2 กลับสร้างความหวัง … ปัจจัยบวกต่อ USD และน้ำมัน

• GDP หดตัวเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้เล็กน้อย ในขณะที่ใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ซบเซา จากการบิดเบือนที่เกิดจากมาตรการภาษีที่รุนแรงของรัฐบาลทรัมป์ต่อสินค้านำเข้า โดยสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจ (BEA) รายงานในการประมาณการ GDP ครั้งที่ 3 ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) – 0.5% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับลดลงจากที่เคยรายงานว่าลดลง 0.2% โดยการปรับทวนครั้งนี้สะท้อนถึงการชะลอการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% แทนที่จะเป็น 1.2% ตามที่เคยรายงาน
• ทั้งนี้มีการปรับการคาดการณ์ใน ไตรมาสที่ 2 เป็น 3.5 % โดยนักวิเคราะห์ตลาดให้เหตุผลว่า ช่วงไตรมาสแรกการหดตัวของเศรษฐกิจ ไม่ได้สะท้อนภาพเศรษฐกิจสหรัฐทีเกิดขึ้นจริง จากนโยบายภาษีของทรัมป์ ทำให้มีการเร่งการนำเข้าสินค้า มากเกินไป ส่งผลให้ GDP ใน Q1 ติดลบ

H4 /H1 : สิ้นสุดโครงสร้างเทรนด์ขาขึ้น ราคาเคลื่อนที่ออกข้าง ที่กรอบ 65.641-63.802 ตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา ราคาน้ำมันทรงตัวอยู่ในช่วงเวลานี้นานติดต่อกัน

แนะนำ

• เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซื้อ )ที่กรอบ 64.070-62.437/ SL 62.000 เพื่อทำกำไรระยะสั้น 66.906/67.231/67.7405
• เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย)ที่กรอบ 67.405-68.697/ SL 69.000 เพื่อทำกำไรที่ 69.846/65.869/64.810/63.010

แนวรับ 62.437/60.473/59.626

แนวต้าน 70.231/72.158/75.966