กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 22 ก.ย. 2568

DAY ศุกร์ที่่ผ่านมาราคาน้ำมันปรับตัวร่วงลงบริเวร แนวรับ 62.596-62.083 ซึ่งเป็น Fibo 61.8-78.6 H4 ก่อนมีการดีดขึ้นมาในช่วงเช้านี้ (ตามคาด) ปัจจัยแรงเทขายในวันศุกร์มาจากความกังวล อุปทานบ้นตลาด และอุปสงค์ที่ออ่นแอ แต่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยช่วยพยุงไม่ให้ปรับตัวร่วงลงต่ำกว่าคาด ซึ่งเป็นการหนุนการจ้างงานและการบริโภค ในลำดับถัดไป ปิดแท่งรายวันศุกร์ Bearish marubozo บริเวณแนวรับที่ให้ไว้

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) ปิดที่ 62.68 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 1.4%

EU เตรียมห้ามก็าซธรรมชาติเหลว LNG เร็วกว่าเดิม 1 ปีในขณะทีสหรัฐไล่บี้ ควรเร่งให้เร็วกวานี้ … ปัจจัยบวกราคาน้ำมัน

• ทรัมป์ เร่ง “ยุโรป ต้องมีการหยุดซื้อน้ำมันจากรัสเซียทันที” เพื่อเป็นการตัดช่องทางรายได้ของรัสเซีย เพื่อยุติสงครามความขัดแย้ง รัสเซีย-ยูเครน
• ทั้งนี้ 18 ก.ย. สหภาพยุโรป เคยประกาศเตรียมยกเลิก การนำเข้าก็าซธรรมชาติเหลว LNG •จากรัสเซีย ให้เร็วขึ้น1 ปี (จากเดิมสิ้นปี 2027) ภายใต้มาตตราการคว่าบาตร รอบที่ 19 ต่อรัสเซีย หลังจากที่ โปแลนด์เสนอให้ รัฐมนตรีพลังงานของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป เรียกร้องให้ประเทศที่ยังคงนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ยุติการนำเข้าให้หมดภายในสิ้นปี 2026
• ทั้งนี้หากมีการหยุดสั่งน้ำมันภายในปี 2026 จะกระทบต่อ ฮังการีและสโลวาเกียอาจเผชิญกับความยากลำบากในการเปลี่ยนแหล่งพลังงาน เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานหรือเส้นทางการจัดส่งที่พึ่งพาท่อ Druzhba อยู่มาก ซึ่งจำเป็นต้องมีการลงทุนสูงในการสร้างระบบท่อใหม่

ธนาคารกลางจีน มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ไม่ใช้มาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ๋ .. ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน

• จีนมีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี อยู่ที่ระดับ 3.0% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ไว้ที่ระดับ 3.5% ตามคาด (ติดต่อกัน 4 เดือน)
• จีนจะยังไม่ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในช่วงนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นกำลังพุ่งแรง
• แต่ข้อมูลเศรษฐกิจออกมาไม่ดี ถึงขั้นชะลอตัว และยังคงเผชิญสถานะเงินฝืดที่ยังแก้ไม่ได้มา 3 ปี ล่าสุดยอดค้าปลีกเติบโตเพียง 3.4% ,ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 5.2% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. ปีที่แล้ว ,ดัชนีราคาผู้บริโภคของจีนยังลดลงมากกว่าที่คาดไว้ ,การส่งออกของจีนชะลอตัวลงเหลือ 4.4% ในเดือนส.ค. (การส่งออกล่วงหน้าลดลง ประกอบกับนโยบายการค้าสหรัส “สกัดการโอนสินค้าผ่านประเทศที่ 3”
• หลายฝ่ายคาดว่า จีนอาจเริ่มใช้มาตราการผ่อนคลายการเงินเล็กน้อยปลายปี เพื่อทำให้ GDP เข้าใกล้เป้าหมายที่ 5%

สหรัฐประกาศใช้ VITO สกัดการหยุดยิงโดยทันที + เตรียมขายอาวุธให้อิสลาเอล … ปัจจัยบวกต่อราคานัำมัน

• ทรัมป์ ขอความเห็นชอบจาก สภาคองเกรส ให้ขาย ยุทโปกรณ์, อาวุธ เฮลิคอปเตอร์ และยานลำเลียงทหาร  ให้กับ อิสลาเอล มูลค่า $6400 ล้าน เพื่อกองทัพอิสลาเอล ใช้ในการขยายปฎิบัติการในฉนวนกาซ่า หลังทิ้งระเบิดใส่โครงสร้างพื้นฐานในฮามาส
• 20 ก.ย. ในขณะที่อิสราเอลยังคงเดือนหน้าโจมตี ฉนวนกาว่าอยางต่อเนื่อง กองทัพอากาศของ IDF โจมตีเป้าหมายกว่า 100 จุดทั่วฉนวนกาซ่า มีการรื้อถอนโครงสร้างอุโมง สิ่งปลูกสร้าง และทำการสังหารกลุ่มฮามาสในพื้นที่ ประชาชนปาเลสไตน์เสียชีวติ34 ราย บาดเจ็บราว 200 คน
• 19 ก.ย.สหรัฐ ประกาศใช้สิทธิ”วีโต้” คัดค้าน ร่างมติ คณะมนตรีความมั่นคง สหประชาชาติ เรียกร้องให้มีการ”หยุดยิงในฉนวนกาซ่าทันที โดยไม่มีเงื่อนไข และถาวร” และให้ อิสราเอล ห้ามไม่ให้สกัดการช่วยเหลือ ไปยังปาเลสไตน์
• ในเวลาต่อมา จีนประนามการกระทำของสหรัฐ จุดยืนสหรัฐ ถือเป็นการป้องกัน อิสลาเอล และเป็นอุปสรรคต่อการตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพขอสหประชาชาติ” เป็นหายะด้านมนุษยธรรมที่ไม่เคยเกิดมาก่อน
• วันถัดมา 21 ก.ย. อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย และ โปรตุเกส ได้ประกาศรับรอง “สถานะรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการ” เป้าหมายดดนให้อิสลาเอล ยุติการโจมตีฉนวนกาซ่า ซึ่งเป็นแค่การแสดงออกจุดยืนของ ทั้ง 4 ประเทศ เพราะหากรัฐปาเลสไตน์ จะเป็นรัฐจริงได้ ร้องมีผลโหวด 2 ใน 3 ของประเทส สมาชิกสมัชชาใหญ่ UN เสียก่อน

OPEC+ จัดประชุม ประเมินขีดความสามารถการผลิตน้ำมันสูงสุด… ปัจจัยกดดันราคาน้ำมันในวันศุกร์ที่ผ่านมา

• OPEC+ และพันธมิตร จัดประชุม วันที่ 18-19 ก.ย. เพื่อหารือ กลไล ขีดความสามารถการผลิตสูงสุดของประเทศสมาชิก เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการตั้งเป้ากำลังการผลิต Baseline ในปี 2027
• ปัญหาและข้อขัดแย้งที่เกิด
  – UAE ได้ลงทุนขยายกำลังการผลิต เพื่อขอโควต้าการผลิตที่สูงขึ้นจากความเป็นจริง… กดดันราคาน้ำมัน
  – ประเทศในแอฟริกา มีปัญญหาทางด้านเทคนิคและโครงสร้างพื้นฐานการผลิต ผลิตไม่ได้ตามโควต้าเดิม
  – แองโกลา ออกจาก OPEC+ ปี2024 เนืองจากไม่พอใจเป้าหมายการผลิตที่ได้รับซึ่งต่ำกว่าที่แองโกลาประเมิน
  -อิรัก มีความกังวลในขีดความสามารถการผลิตของตน เนื่งอจากมีปัญหาโครงสร้งพื้นฐาน และการลงทุนที่จำกดั เช่นเดียวกับอิหร่าน

H4/H1 ราคาน้ำมันปรับตัวร่วงหลุด Channel Uptrend H4 ในระดับ 62.083 ซึ่งยังอยู่ในโซน Fibo 61.8-78.6 ของ H4 ในขณะที่ H1 มีลักษณะการเคลื่อนไหว Downtrend เต็มรูป และยังไม่มีสัญญาณการย่อตัวขึ้นแต่อย่างได มีโอกาสที่ราคาจะไหลลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ โวนแนวรับล่าสุดเป็น Weak Zone

คำแนะนำ

• เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย) ทีกรอบ 62.659-62.929 / 63.000 เพื่อทำกำไรที่ 62.455/62.375/62.335/62.238/62.171/62.003/61.921
• เปิดสถานซื้อ (รอสัญญาณซื้อ หากราคาลงมาต่ำกว่า 62.103 และเกิดสัญญาณ Bullish Divergence H1) ที่กรอบ 61.786-61.474 /SL 61.300 เพื่อทำกำไรที่ 6161.828/61.921/62.003/62.103/62.141/62.238
• เนื่องจากยังคงมีปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมันโดยเฉพาะภูมิรัฐศาสตร์ อิสลาเอล – ฉนวนกาซ่า หากราคาสามารถ ดีดขึ้นไปก่อน ให้พิจาราณา เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย) กรอบ 63.302-63.450 / SL 63.500 เพื่อทำกำไรระยะสั้น 63.250/63.200/63.120/63.050

แนวรับ 62.103/61.786/61.474

แนวต้าน 62.937/63.463/63.888

ปฎิทินเศรษฐกิจ 22 ก.ย.2025

บทวิเคราะห์ข่าว

• ประกาศคอัตราดอกเบี้ยกู้ยืม ระยะ 1Y และ 5Y คงที่ ซึ่งสะท้อน จีนยังคงไม่ใช้มาตราการการกระตุ้นเ้ศรษบกิจจีนอยางเด็มที่ ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน
• ติดตามถ้อยแถลง ของ สตึเฟน มิราน คืนนี้ ซึ่งเป็นคนเดียวจากการประชุม Fed ที่ผ่านมาที่เสนอให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.5% ประกอบกับ มีนโยบาย Hawkish ในการปรับลดดอกเบี้ย Dot plot ให้มีโอกาสเป็น 3.6% ในปี 2025 ซึงหากแสดงคามคิดเห็นและโอกาสเป็นไปได้ในการปรับอัตราดอกเบี้ย เหลือ 3.6% ในปีนี้จริงจะเป็นปัจจัยกดดันราคา USD แต่เป็นผลบวกต่อราคาน้ำมัน ในฐานะสินทรัพย์จับคู่