กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 22 เม.ย.2568

Day โครงสร้างเทรนด์ขาลง ราคาน้ำมัน Rebound ขึ้นเป็นวันที่ 8 หลังจากที่ภาพใหญ่สามารถกลับเข้ามาวิ่งในกรอบ Channel ขาลงได้ หากราคาไม่สามารถปิดแท่งรายวันเหนือ 71.901 ได้ภาพขาลงยังคงได้เปรียบอยู่ วานนี้ปิดแท่ง Bearish Pin Bar ราคาปรับตัวร่วงลงในช่วงเช้า-บ่าย ก่อนกลับมาทรงตัวในช่วงตลาดนิวยอร์ค คาดราคาน้ำมันยังอิงกับ USD(DXY) ซึ่งสะท้อนภาวะเศรษฐกิจอเมริกาและความต้องการใช้น้ำมันเช่นกัน

สัญญา West Texas Intermediate (WTI) งวดส่งมอบเดือนพ.ค. ปิดที่ $63.08 ต่อบาร์เรล ลดลง 2.5%

USD อ่อนค่าลง 97.925 ซึ่งอยู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี(กดดันปริมาณความต้องการใช้น้ำมัน)

• นักลงทุนแห่ทิ้ง USD อย่างต่อเนือง หลังจาก ทรัมป์ประนาม Fed “ผู้แพ้ตัวใหญ่” ย้ำ สหรัฐไม่มีเงินเฟ้อ (จากราคาน้ำมันและสินค้าต่ำ) แต่เศรษฐกิจอาจชะลอตัวหากไม่รีบลดดอกเบี้ยทันที ทั้งนี้ยังหาช่องทางในการปลด เจอโรม พาวเวล์ (ประธาน FED)ก่อนครบวาระในปี2026 โดยทรัมป์มองว่า การลดดอกเบี้ยเร็วจะยิ่งเป็นการ กระตุ้นเศรษฐกิจ (เพิ่มการกู้ยืมในด้านการลงทุนเพื่อเพิ่ม GDP) +ส่งออกได้ง่าย (เนื่องจากค่าเงิน USD อ่อนค่า) + ลดต้นทุนหนี้รัฐบาล (กำหนดชำระหนี้สาธารณะ $ 147พันล้าน ในวันที่ 30 มิ.ย.) +กระตุ้นการลงทุนในตลาดหุ้น เมกา
• ตลาดดัชนีอเมริกาลดลงต่อเนื่อง โดยผลตอบแทนร่วงลงตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. ที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง S&P500 – 14.2% / Nasdaq -17.6% / Dow Jone – 11.9% ต่ำที่สุดตั้งแต่ ก.ย.-พ.ย.2023 (ซึ่งเป็นช่วงที่ Fed คงดอกเบี้ยที่5.25-5.50 นานเกินไปเพื่อกดดันเงินเฟ้อ)
• ในขณะที่ พาวเวล์ ประธาน Fed ยืนยันจะไม่ลาออกก่อนครบวาระ โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการรักษาอิสระของนโยบายการเงิน FOMC
• 21 เม.ย. ทรัมป์ หารือผู้ค้าปลีกรายใหญ่ Walmart/ Home Depot/ Lowe’s / Target ซึ่งห้างขนาดใหญ่เหล่านี้มีสัดส่วนการนำเข้าสูง การเรียกเก็บภาษี 145%จากสินค้าจีน จะสร้างความกดดันให้คนอเมริกาต้องรับค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อที่ยืดเยื้อ แม้ว่าจะไม่มีรายละเอียดการหารือนี้ แต่ฝ่ายผู้ค้าปลีกระบุว่าการประชุมเป็นไปอย่าง”สร้างสรรค้”และ”ได้ผล”
• Leading Economic Index (LEI) ดัชนีวัดแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐล่วงหน้า ซึ่งเผยแพร่ทาง The Conference Board : เครื่องมือที่ นักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ใช้ในการตัดสินใจการลงทุน ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในเดือน มี.ค. 0.7% (คาดการณ์ลดลง 0.5% จากเดือนก.พ. 0.2%) ส่งผลถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างรุนแรง

มาตราการ Non-Tariff มุ่งกดดันจีน … ขยายความรุนแรงสงครามการค้า จีน-สหรัฐ… กดดันราคาน้ำมัน

• 20 เม.ย. ทรัมป์ออกมาตราการ การโกงทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี non-tariff ซึ่งหากประเทศใดละเมิด 8 ข้อนี้ สหรัฐจะมีบทลงโทษกับประเทศนั้นๆ 1.บิดเบือนค่าเงิน 2.การนำเข้าสินค้าจากสหรัฐที่ทำให้มีราคาสูงกว่าตลาดขู่แข่ง 3.ขายสินค้าต่งประเทศราคาต่ำกว่าทุน 4.รัฐบาลให้การสนับสนุนแก่บริษัทภายในประเทศเพื่อแข่งขันได้อย่างไม่เป็นธรรม 5.ขโมยทรัพย์สินทางปัญญา 6.ขนส่งผ่านประเทศที่ 3 เพื่อเลี่ยงภาษี 7.ตั้งมาตรฐานให้สินค้าสหรัฐเข้าตลาดยาก 8.จำกัดการเข้าถึงตลาดของสินค้าสหรัฐ
• มาตรการดังกล่าวมีผลต่อจีนโดยตรง ทั้งนี้ จีนออกมาเตือน ประเทศที่จะเจรจากับสหรัฐ หากข้อตกลงส่งผลเสียต่อจีน หรือเลือกแนวทางดังกล่าว จีนพร้อมที่จะตอบโต้กลับประเทศเหล่านั้นเช่นกันอย่างเด็ดขาด … นักลงทุนคาดสหรัฐต้องการให้ประเทศที่เข้าเจรจากับสหรัฐ ร่วมมือกับสหรัฐในการตอบโต้จีน เพื่อจะ “โดดเดี่ยวจีน”
• Malasia Airline พร้อมรับ เครืองบิน โบอิ้งต่อจากจีน หลังจากจีนสังยกเลิกรับเครื่องบินโบอิ้งจากสหรัฐทั้งหมด
• รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ นายพีท เฮกเซธ (Pete Hegseth) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความสามารถของขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง (Hypersonic Missiles) ของจีน โดยระบุว่า ขีปนาวุธเหล่านี้สามารถทำลายเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯ ทั้งหมดได้ภายในเวลาเพียง 20 นาที หากเกิดความขัดแย้งทางทหารขึ้น ในขณะที่ล่าสุด จีน ประกาศ การพัฒนาและทดสอบอาวุธระเบิดไฮโดรเจนแบบไม่ใช้นิวเคลียร์ (non-nuclear hydrogen bomb) ซึ่งเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่น่าทึ่งในด้านอาวุธยุทโธปกรณ์
• 21 เม.ย. สหรัฐประกาศขึ้นภาษีนำเข้า แผงโซลาร์เซลล์ 4 ประเทศ (ไทย111%/เวียดนาม 271%/กัมพูชา 125%/มาเลเซีย8%) โดยอ้างว่าเป็นการส่งออกที่ราคาต่ำกว่าทุนการผลิตซึ่งถือว่าเป็นความผิด

อุปทานน้ำมันคาดน้ำมันล้นตลาด … กดดันราคาน้ำมัน

• การเจรจา อิหร่าน – สหรัฐ วัตถุประสงค์ต้องการให้อิหร่านยุติการเสริมสมรรคนะยูเรเนียม ขณะที่อิหร่านต้องการคงสิทธิ์ใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติและเรียกร้องให้สหรัฐยกเลิกมาตราการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมัน เพื่อแลกเปลี่ยน และสหรัฐต้องไม่ถอนตัวจากข้อตกลงในอนาคต โดย 23 เม.ย. ประชุมระดับผู้เชี่ยวชาญเน้น รายละเอียดทางเทคนิคข้อตกลงนิวเคียร์ 26 เม.ย. ประชุมระดับสูงเพือประเมินความคืบหน้าและแนวทาง
• ความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงสูง โดยมีความเสี่ยงที่อิสราเอลและสหรัฐ ใช้มาตราการโจมตี หากการเจรจาล้มเหลว แต่หากการเจรจาสำเร็จ “การกลับมาของน้ำมันอิหร่านในตลาดโลก”
• OPEC+ (รวมรัสเซีย) ประกาศเร่งการผลิตน้ำมัน ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ..กัดดันราคาน้ำมัน ภาวะน้ำมันล้นตลาด

การใช้น้ำมันสำหรับการขนส่งอาจลดลงในระยะยาว…กดดันราคาน้ำมัน

• Aramco บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่จากซาอุฯ ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนา (joint development agreement) กับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีน BYD เพื่อร่วมกันศึกษาพัฒนา นวัตกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ โดยบริษัท Saudi Aramco Technologies Company (SATC) หน่วยงานในเครือ Aramco เป็นผู้ลงนามในข้อตกลงนี้ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยกระดับประสิทธิภาพและสมรรถนะด้านสิ่งแวดล้อมของยานพาหนะ ให้สอดคล้องกับความพยายามของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบการขนส่งที่สะอาดขึ้น
• ซาอุฯ ให้ความสนใจพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง มีการลงทุน โครงการณ์ NEOM เมืองอัจฉริยะ ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์และลมได้หลายกิกะวัตร / ตั้งเป้าเป็นผู้นำการส่งออกไฮโดรเจนระดับโลก (ใช้พลังงานแยกไฮโดรเจนจากน้ำ เพื่อนำไฮโดรเจนใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ไม่ปล่อยคาร์บอน) ทั้งนี้ Vision 2030 ลดการพึ่งพาน้ำมัน ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดเพื่อส่งออกในอนาคต

ปัจจัยสนับสนุนราคาน้ำมัน จากความไม่สงบในตะวันออกกลาง

• ทรัมป์สั่งการให้สหรัฐเตรียมความพร้อม โจมตีทางอากาศเข้าใส่เป้าหมายโครงการนิวเคลียร์ใต้ดินในอิหร่าน หากการเจรจาไม่บรรลุผลตามทรัมป์ต้องการ อีกทั้งยังเตือน ฮูติ ในเยเมน (ที่เชื่อว่าอิหร่านให้การสนับสนุน)
• สหรัฐฯยังคงปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ในเยเมน โดยเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐบรรทุกเครื่องบินขับไล่ F/A-18E Super Horne ซึ่งบรรทุกระเบิดนำวิถี GBU Mark -83 และ GBU Mark -82 มีเป้าหมายที่ท่าเรือน้ำมัน Ras Isa ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มฮูตี การโจมตีครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 80 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 150 คน นอกจากนี้ยังมีการโจมตีพื้นที่ตลาดในเมืองเยเมน มากกว่า 6 ครั้ง รายงานผู้เสียชีวิต 10 คน
• กระทรวงสาธารณสุข ปาเลสไตน์รายงาน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีฉนวนกาซ่าจากอิสลาเอล 44 คน บาดเจ็บมากกว่า 145 คน ซึ่งรวม คาดมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น มากว่า 51,201 (ไม่รวมผู้เสียชีวิตใต้ซากอาคารคาดอีก หมื่นราย)
• เอมมานูเอล มาคอง ประธานาธิปดี ฝรั่งเศส ระบุฝรั่งเศส จะให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์ และเรียกร้องให้อิสลาเอลยุติสงครามในกาซ่า
• ในขณะที่อิหยิบและกาต้า เสนอแผนหยุดยิงในฉนวนกาซ่า “โดยให้กลุ่มฮามาส โอนถ่ายอำนาจบริหารกาซ่าให้กับปาเลสไตน์ โดยให้ฮามาสยอมปล่อยตัวประกัน เพื่อแลกกับตัวประกันปาเลสไตน์ในอิสลาเอล ทั้งนี้ทั้งฮามาสและอิสลาเอลต้องหยุดปฏิบัติการออกจากเมืองกาซ่าทันที” กลุ่มฮามาสยินยอมกับข้อเสนอดังกล่าว ในขณะทีอิสลาเอลยังคงยืนยันจะทำลายกลุ่ม ฮามาสให้สิ้นซาก

H4 /H1 ราคาน้ามันกลับตัวขึ้น ตาม Price Pattern : Inverse Head and Shoulder มีโอกาสขึ้นสู่เป้า 68.442-69.042 ซึ่งระดับสูงสุดของกรอบ Channel ขาลงของ TF Day / TF H1 – H4 ยังคงเป็นเทรนด์ขาขึ้น

แนะนำ

• เปิดสถานะซือ (รอสัญญาณซื้อ) 61.722-62.317 /SL 61.300 เพื่อทำกำไร 63.103/63.707/64.405/64.969/66.092
• เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย) ที่กรอบ 66.781-65.765 / SL 67.000 เพื่อทำกำไร 65.296/64.969/64.405/64.007/63.441/62.719

แนวรับ 62.033/60.904/59.466

แนวต้าน 64.156/65.756/66.780