กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 21 ส.ค. 2568

Day โครงสร้างเป็นเทรนดขาลง วานนี้ช่วงเช้า-ค่ำ ราคาน้ำมันปรับตัวร่วงลงเพื่อทำเป้า 50% Harmonic Shark Pttn ใน TF H4 (ตามคาด) ก่อนปรับตัวขึ้นทันที ในช่วงประกาศตัวเลข สต็อกน้ำมันดิบ EIA รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ขณะเดียวกันนักลงทุนยังรอความชัดเจนของการเจรจายุติสงครามรัสเซีย–ยูเครน โดยมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ ส่งผลให้ปิดแท่งรายวัน Bullish

สัญญาน้ำมัน WTI ปิดที่ 63.21 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.4%

รายงาน EIA วันที่ 20 ส.ค.ผลสอดคล้อง API ปริมาณสต็อกน้ำมันดิบลงลง …. ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน

• ปริมาณน้ำมันดิบในคลังเชิงพาณิชย์ลดลง 6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 420.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ประมาณ -1.8 ล้านบาร์เรล / คลังใน Cushing มีการเพิ่มสต็อกเล็กน้อย 419,000 บาร์เรล
• ปริมาณน้ำมัน เบนซิน (Gasoline) ลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล ในขณะที่น้ำมันดีเซล Distillate เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล
• สะท้อนความต้องการของผู้บริโภคยังแข็งแรง ส่งผลบวกต่อราคาน้ำมัน ในขณะที่สต็อกที่หายไปมากบ่งชี้ ตาดน้ำมันเริ่มตึงตัว หากปริมาณสต็อกน้ำมันลดลงในทุกๆอาทิตย์ จะมีโอกาสที่ราคากลับขึ้นต่อไปได้

FOMC Minutes report จากการประชุม 29-30 ก.ค. ไม่มีอะไรใหม่ …

• มีสมาชิกเฟด 2 ท่าน Michelle Bowman และ Christopher Waller จาก 12 เสียง ที่ ต้องการให้ Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในขณะที่ อีก 10 เสียงอยากให้คงอัตราดอกเบี้ยเดิม ซึ่งเป็นฝ่ายชนะและเป็นผลประกาศจากการประชุมในวันที่ 30 ก.ค.
• เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่มองว่า เงินเฟ้อยังมีมาก และมีความกังวลเกี่ยวกับการจ้างงาน (ตัวเลข Non farm ที่น้อยเกินคาด)
• ในขณะที่ ถ้อยแถลงของ Christopher Waller วานนี้กลับไม่ได้พูดถึงเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 17 ก.ย. แต่มุ่งเน้น เรื่อง “Technological Advancements in Payments” และ การสนับสนุน เทคโนโลยี Defi และ นวัตกรรมการเงินเท่านั้น

ผู้นำยุโรป หารือแผนการรับประกันความมั่นคงแก่ยูเครน ผลต้องแล้วเสร็จภายใน 24 ชั่วโมง … ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน (อาจผ่อนคลายมาตราการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย)

• 20 ส.ค. ผู้นำยุโรป ประชุมเสนอแผน รับประกันความมั่นคงแก่ยูเครน โดยกำลังตัดสินใจ ส่งทหารสนับสนุนยูเครนหรือไม่ หากถูกรัสเซียโจมตีอีกคร้ง (คล้ายกับ Nato แต่ไม่ใช่เต็มรูปแบบ เนื่องจาก ยุเครนยังไม่ได้เป็นสมาชิก Nato)
• 19 ส.ค. ผลการหารือทรัมป์ – เซเลนสกี้ และกลุ่มผุ้นำยุโรป
  – ทรัมป์ โทรหา ปูติน เพื่อเตรียมการประชุมแบบทวิภาคี (สหรัฐ – รัสเซีย – ยูเครน) โดยต้องการให้ สร้างแผนข้อตกลงสันติภาพ โดยไม่ต้องหยุดยิงก่อน “ไม่จำเป็นต้องมี Ceasefire” ภายใน 2 อาทิตย์
  – สหรัฐ การันตีความมั่นคง “พร้อมช่วยให้คำมั่นความมั่นคงแก่ยูเครน” ในการหยุดสงคราม และระบุจัดทำเอกสารเป็นทางการ ในอาทิตย์นี้
  – ยูเครน ซื้ออาวุธ มูลค่า $90-100 พันล้าน จากสหรัฐ
  – ประเด็นการสละดินแดน ยูเครนตะวันออก เซเลนสกี้ ขอนำกลับไปพิจารณา ร่วมกับประชาชนยูเครน
• รัสเซีย เตรียมขึ้นภาษี และ ลดค่าใช้จ่าย เพื่อ รักษางบประมาณ กลาโหมให้สูงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่รายได้จากการขายน้ำมัน และก็าซลดลงอย่างต่อเนื่อง อาจเข้าสู่สภาวะ “ถดถอย” แม้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อรักษาการขาดดุลงบประมาณ

จีนปรับกลยุทธการเงิน. ตามเป้าหมายแผนยุทธศาสตร์ … ปัจจัยบวกต่อน้ำมัน

• จีนกำลังพิจารณาอนุญาตการใช้สเตเบิลคอยน์ที่อ้างอิงค่าเงินหยวน (yuan-backed stablecoins) เป็นครั้งแรก เพื่อกระตุ้นการยอมรับเงินหยวนในระดับสากล ซึ่งถือเป็นการกลับลำเชิงนโยบายครั้งใหญ่ต่อสินทรัพย์ดิจิทัล โดยคณะรัฐมนตรีจีนเตรียมทบทวนและอาจอนุมัติแผนยุทธศาสตร์ภายในเดือนนี้ โดยมีเป้าหมายผลักดันการใช้เงินหยวนในตลาดโลกให้มากขึ้น และเร่งเครื่องให้ทันสหรัฐฯ ที่กำลังผลักดันสเตเบิลคอยน์อย่างจริงจัง
• จีนกำหนดเป้าหมายเพิ่มอัตราการพึ่งพาชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ผลิตในประเทศให้ได้อย่างน้อย 70% ภายในปี 2027 เพื่อลดการพึ่งพาห่วงจากบริษัทสหรัฐ อย่าง Nvidia / ปักกิ่ง วางเป้าหมายที่ 100% ภายในปี 2027 /กุ้ยหยาง (Guiyang) ศูนย์กลางดาต้าเซ็นเตอร์ในตอนในของประเทศ ก็กำหนดให้ดาต้าเซ็นเตอร์ใหม่ต้องใช้ชิปที่ผลิตในจีนไม่ต่ำกว่า 90% โดยกุ้ยหยางยังเป็นที่ตั้งของดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ รวมถึงแห่งที่ Apple ใช้งานอยู่ด้วย

H4/H1 โครงสร้างเป็นเทรนด์ขาลง หากราคาสามารถปิดแท่ง H4 เหนือระดับ 63.292 ขึ้นไปได้ จะถือเป็นการสิ้นสุดโครงสร้างเทรนด์ขาลง ในขณะที่ราคาน้ำมัน เริ่มเคลื่อนทะลุออกจาก Channel Downtrend ขึ้นมา

คำแนะนำ

• เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย)ที่กรอบ 63.051-63.612 /SL 63.800 เพื่อทำกำไร 63.051/63.000/62.843/62.733/62.635
• เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซื้อ)ที่กรอบ 62.372-62.615/ SL 62.000 เพื่อทำกำไร 62.612/62.771/62.985/63.073/63.182

แนวรับ 61.359/60.549/60.026

แนวต้าน 63.292/63.547/64.334

ปฎิทินเศรษฐกิจ 21 ส.ค.2568

บทวิเคราะห์ข่าว

• ติดตามตัวเลข ดัชนีภาวะธุรกิจการผลิต เขตแอนแลนติก ซึ่งเป็นเขตในการผลิตที่ใช้ ไฟฟ้าและก็าซธรรมชาติส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นเขตการผลิตเคมีภัณท์ เครืองจักรกล อาหาร และอุปกรณการณแพทย์ แต่ยังคงต้องมีระบบขนส่ง Logistic เข้ามาเกี่ยวโยง หากตัวเลขออกมาน้อยกว่า คาดการณ์ จะส่งผลให้อาจกดดันราคาน้ำมันลงเล็กน้อย
• ติดตามตัวเลข ดัชนี ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ภาคการผลิต ซึ่งจะให้ผลกับความตัองการใช้นำมันโดยตรง และรวมถึง ภาคบริการด้วยเช่นกัน หากตัวเลขออกมาน้อยกว่าคาดการณ์ จะส่งผลใ้ห้สะท้อนเศรษฐกิจในสหรัฐยังคงชะลอตัว และมีผลต่อความต้องการน้ำมันในระดับน้อยเช่นกัน กดดันราคาน้ำมัน