Day โครงสร้างเป็นเทรนดขาลง เปิดตลาดวานนี้ราคาซึมตัวร่วงลง พยายามกลับขึ้นมา Retest แนวต้าน Supply H1 ที่ให้ไว้ แต่ไม่สามารถกลับขึ้นมาทดสอบได้ ราคาปรับร่วงลงต่ออย่างต่อเนื่อง ปิดแท่งรายวัน Bearish Doji ราคาลงมาสัมผัสบริเวณ แนวรับใหญ่ Demand Day ก่อนจะชักไส้กลับขึ้นไป ปัจจัยสำคัญที่ปรับตัวร่วงลงมาจากการเผยรายงาน ปริมาณน้ำมันคงคลัง ทั้งจาก API และ EIA ที่ออกมามากเกินคาด ซึ่งสะท้อน อุปสงค์ที่ลดลงในช่วงเปลี่ยนฤดู นอกจากนี้ยังมีเรื่องการรอผลการหารือระหว่าง ทรัมป์ – ปูติน ในการยุติสงคราม รัสเซียยูเครน ที่กินเวลามานาน 3.5 ปี หากการเจรจาบรรลุผลจะส่งผลให้มีการยกเลิกการคว่ำบาตรส่งน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดน้ำมันล้นตลาด (อุปทานเพิ่ม) เพิ่มเติมจาการที่กลุ่ม OPEC+ ประกาศเพิ่มกำลังการผลิตในเตือน ก.ย. เพื่อปรับสมดุลย์การผลิต และ สมดุลย์ ราคาน้ำมัน WTI และ น้ำมันจากกลุ่ม OPEC+
สัญญาน้ำมัน WTI ปิดที่ 62.65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
รายงานน้ำมันคงคลัง (EIA) ของสหรัฐ ผลออกมาปริมาณน้ำมันในสต็อกเพิ่มขึ้น …. กดดันราคา น้้ำมัน
- รายงาน EIA ให้ผลสอดคล้องกับ API Report
– น้ำมันดิบ เพิ่มขึ้น 3.0 ล้านบาร์เรล รวม 426.7 ล้านบาร์เรล
– น้ำมันดีเซล (Distillate) เพิ่มขึ้น 0.7 ล้านบาร์เรล
– น้ำมันเบนซิน (Gasoline) ลดลง 0.8 ล้านบารเรล
– โรงกลั่นเฉลี่ย 17.2 ล้านบารเรลต่อวัน กำลังการผลิต 96.4% - สัญญาณความต้องการน้ำมัน”เริ่มลดลง” หรือ “มีการส่งมอบน้ำมันดิบมากเกินคาด”
ตลาดจับตาดูการหารือ ระหว่าง ทรัมป์-ปูติน ศุกร์นี้ …ตลาดน้ำมัน ทรงตัว
- 15 ส.ค. นัดหมายระหว่าง ทรัมป์ – ปูติน ณ รัฐ เพื่อพบปะเจรจาหยุดยิง รัสเซีย-ยูเครน ในขณะที่รัสเซียมีข้อเสนอก่อนเข้าการหารือ ต้องการ ยึดพื้นทีตะวันออกของยูเครน เพื่อแลกกับ ข้อตกลงหยุดยิง
- เซเลนสกี้ ปฎิเสธ พร้อมระบุ การเจรจา จำเป็นต้องมี ยูเครน หรือ สหภาพยุโรปร่วมในการประชุมครั้งนี้ด้วย และ “ไม่ยินยอมเสียดินแดนให้กับรัสเซีย เพื่อแลกกับการหยุดยิง”
- รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้าที่ปูตินจะตกลง เจรจากับสหรัฐ ได้มีการหารือกับ สี จิ้งผิง ของจีน (30% ภาษีนำเข้าสหรัฐ) , นเรนทรา โมดี นายกอินเดีย(ภาษีนำเข้า 50%) และ ซิริล รามาโฟซา ประธานาธิปดี แอฟริกาใต้(30%) ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS เพื่อรายงานให้ทราบถึงแผนการเจรจากับสหรัฐ
เศรษฐกิจจีนส่อเค้าชะลอตัว … ขาดปัจจัยสนับสนุนราคาน้ำมัน
- ผลการสำรวจ Bloomberg รายงาน การผลิต ภาคอุตสาหกรรม จีน เดือน ก.ค. เพื่มขึ้น 6% เมื่อเทียบรายปี แต่ ลดลงจาก 6.8% ในเดือน มิ.ย. และ ยอดค้าปลีก ชะลอตัวอยู่ที่ 4.6% ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 5 เดืนอ
- ปัจจัยสำคัญ ที่ภาคอุตสาหกรรมในจีน ชะลอตัวอย่างรวดเร็วในเดือน ก.ค. มาจาก “ฝนตกหนัก” ที่เป็นสาเหตุและอุปสรรคต่อ โรงงงานเหมืองแร่ ในขณะที่รัฐบาลจีน เริ่มเข้มงวดในการผลิตสินค้าเกินความต้องการ Over production
ความคาดหวังจากการลดดอกเบี้ยของ Fed …. ปัจจัยบวกเดียวของราคาน้ำมัน ณ ขณะนี้ ในการกดดัน USD
- Fed Watch Tool ปรับค่าความมั่นใจ ว่า Fed มีการปรัยลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างแน่ๆในการประชุมครั้งหน้า โดย ให้โอกาสปรับลด 0.25% ที่ 96.6% และโอกาสปรับลด 0.50% อยู่ที่ 3.4%
- สอดคล้องกับ ทรัมป์ และ สก็อต เบสเซนต์ รมต คลัง ที่เรียกร้องให้ FED ปรับลดดอัตราดอกเบี้ยโดยเร็ว โดยเริ่มที่ 0.5% ในเดือน ก.ย.
- ทรัมป์ ประกาศจะยื่นฟ้อง เจอโรม พาวเวล์ในข้อหา “เบิกงบประมาณ มาใช้เกินความจำเป็น”ในการ ซ่อมแซมอาคาร FOMC นอกจากนี้ยังประกาศ อาจมีการประกาศ รายชื่อประธานเฟด คนต่อไปเร็วกว่าเดิมเล็กน้อย ตอนนี้มี Candidate 3-4 คน ที่จะมารอรับตำแหน่งต่อจาก เจอโรมพาวเวลา ที่หมดวาระใน พ.ค. ปี 2026
H4/H1 โครงสร้างเป็นเทรนด์ขาลงอย่างต่อเนื่อง H4 มีการสร้าง Low ใหม่ 61.386 เริ่มปรากฎสัญญาณ Bullis Divergence อีกครั้งระวังการ Rebound ขึ้นในระยะสั้น ประกอบกับ Harmonic Shark Pttn
คำแนะนำ
- เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย)ที่กรอบ 63.109-63.714 / SL 63.850 เพื่อทำกำไร 62.522/62.290/62.058
- เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซื้อ)ที่กรอบ 61.726-61.381 / SL 61.000 เพื่อทำกำไร 61.795/62.067/62.280/62.643/62.766/63.066
แนวรับ61.359/60.549/60.026
แนวต้าน 63.110/63.764/64.865

ปฎิทินเศรษฐกิจ 14 ส.ค.2568

บทวิเคราะห์ข่าว
- ตัวเลข PPI m/m เดือน ก.ค. ซึ่งเป็นตัวเลข สะท้อนต้นทุนการผลิตของเดือน ก.ค. ซึ่งจะมีทั้งปัจจัยราคาต้นทุนวัตถุดิบและราคาน้ำมัน ซึ่งตัวเลขตรงๆจะให้ผลกับราคาน้ำมันน้อย (เนื่องจากราคาน้ำมันของเดือนที่แล้วส่งผลต่อราคาของเดือนที่แล้ว) แต่ผลทางอ้อมคือหากประกาศตัวเลขออกมาที่สูงจากคาดการณ์อย่างมาก สะท้อนเงินเฟ้อ ที่มีโอกาสที่จะสูงมาก ซึ่งอาจส่งผลให้ Fed ตัดสินใจ คงอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะทำให้ USD แข็งค่าและกดดันน้ำมัน แต่หากตัวเลข ออกมาต่ำกว่าคาด หรือต่ำกว่าเดือนที่แล้ว คาดการณว่าเงินเฟ้อ อยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ มีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า ซึ่งเป็นบวกต่อราคา น้ำมัน
- ติดตาม ปริมาณ ก็าซธรรมชาติคงคลังที่คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณในสต็อกสูง
Leave a Reply