กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 14 ส.ค. 2568

Day โครงสร้างเป็นเทรนดขาลง เปิดตลาดวานนี้ราคาซึมตัวร่วงลง พยายามกลับขึ้นมา Retest แนวต้าน Supply H1 ที่ให้ไว้ แต่ไม่สามารถกลับขึ้นมาทดสอบได้ ราคาปรับร่วงลงต่ออย่างต่อเนื่อง ปิดแท่งรายวัน Bearish Doji ราคาลงมาสัมผัสบริเวณ แนวรับใหญ่ Demand Day ก่อนจะชักไส้กลับขึ้นไป ปัจจัยสำคัญที่ปรับตัวร่วงลงมาจากการเผยรายงาน ปริมาณน้ำมันคงคลัง ทั้งจาก API และ EIA ที่ออกมามากเกินคาด ซึ่งสะท้อน อุปสงค์ที่ลดลงในช่วงเปลี่ยนฤดู นอกจากนี้ยังมีเรื่องการรอผลการหารือระหว่าง ทรัมป์ – ปูติน ในการยุติสงคราม รัสเซียยูเครน ที่กินเวลามานาน 3.5 ปี หากการเจรจาบรรลุผลจะส่งผลให้มีการยกเลิกการคว่ำบาตรส่งน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดน้ำมันล้นตลาด (อุปทานเพิ่ม) เพิ่มเติมจาการที่กลุ่ม OPEC+ ประกาศเพิ่มกำลังการผลิตในเตือน ก.ย. เพื่อปรับสมดุลย์การผลิต และ สมดุลย์ ราคาน้ำมัน WTI และ น้ำมันจากกลุ่ม OPEC+

สัญญาน้ำมัน WTI ปิดที่ 62.65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

รายงานน้ำมันคงคลัง (EIA) ของสหรัฐ ผลออกมาปริมาณน้ำมันในสต็อกเพิ่มขึ้น …. กดดันราคา น้้ำมัน

  • รายงาน EIA ให้ผลสอดคล้องกับ API Report
    – น้ำมันดิบ เพิ่มขึ้น 3.0 ล้านบาร์เรล รวม 426.7 ล้านบาร์เรล
    – น้ำมันดีเซล (Distillate) เพิ่มขึ้น 0.7 ล้านบาร์เรล
    – น้ำมันเบนซิน (Gasoline) ลดลง 0.8 ล้านบารเรล
    – โรงกลั่นเฉลี่ย 17.2 ล้านบารเรลต่อวัน กำลังการผลิต 96.4%
  • สัญญาณความต้องการน้ำมัน”เริ่มลดลง” หรือ “มีการส่งมอบน้ำมันดิบมากเกินคาด”

ตลาดจับตาดูการหารือ ระหว่าง ทรัมป์-ปูติน ศุกร์นี้ …ตลาดน้ำมัน ทรงตัว

  • 15 ส.ค. นัดหมายระหว่าง ทรัมป์ – ปูติน ณ รัฐ เพื่อพบปะเจรจาหยุดยิง รัสเซีย-ยูเครน ในขณะที่รัสเซียมีข้อเสนอก่อนเข้าการหารือ ต้องการ ยึดพื้นทีตะวันออกของยูเครน เพื่อแลกกับ ข้อตกลงหยุดยิง
  • เซเลนสกี้ ปฎิเสธ พร้อมระบุ การเจรจา จำเป็นต้องมี ยูเครน หรือ สหภาพยุโรปร่วมในการประชุมครั้งนี้ด้วย และ “ไม่ยินยอมเสียดินแดนให้กับรัสเซีย เพื่อแลกกับการหยุดยิง”
  • รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้าที่ปูตินจะตกลง เจรจากับสหรัฐ ได้มีการหารือกับ สี จิ้งผิง ของจีน (30% ภาษีนำเข้าสหรัฐ) , นเรนทรา โมดี นายกอินเดีย(ภาษีนำเข้า 50%) และ ซิริล รามาโฟซา ประธานาธิปดี แอฟริกาใต้(30%) ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS เพื่อรายงานให้ทราบถึงแผนการเจรจากับสหรัฐ 

เศรษฐกิจจีนส่อเค้าชะลอตัว … ขาดปัจจัยสนับสนุนราคาน้ำมัน

  • ผลการสำรวจ Bloomberg รายงาน การผลิต ภาคอุตสาหกรรม จีน เดือน ก.ค. เพื่มขึ้น 6% เมื่อเทียบรายปี แต่ ลดลงจาก 6.8% ในเดือน มิ.ย. และ ยอดค้าปลีก ชะลอตัวอยู่ที่ 4.6% ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 5 เดืนอ
  • ปัจจัยสำคัญ ที่ภาคอุตสาหกรรมในจีน ชะลอตัวอย่างรวดเร็วในเดือน ก.ค. มาจาก “ฝนตกหนัก” ที่เป็นสาเหตุและอุปสรรคต่อ โรงงงานเหมืองแร่ ในขณะที่รัฐบาลจีน เริ่มเข้มงวดในการผลิตสินค้าเกินความต้องการ Over production

ความคาดหวังจากการลดดอกเบี้ยของ Fed …. ปัจจัยบวกเดียวของราคาน้ำมัน ณ ขณะนี้ ในการกดดัน USD

  • Fed Watch Tool ปรับค่าความมั่นใจ ว่า Fed มีการปรัยลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างแน่ๆในการประชุมครั้งหน้า โดย ให้โอกาสปรับลด 0.25% ที่ 96.6% และโอกาสปรับลด 0.50% อยู่ที่ 3.4%
  • สอดคล้องกับ ทรัมป์ และ สก็อต เบสเซนต์ รมต คลัง ที่เรียกร้องให้ FED ปรับลดดอัตราดอกเบี้ยโดยเร็ว โดยเริ่มที่ 0.5% ในเดือน ก.ย.
  • ทรัมป์ ประกาศจะยื่นฟ้อง เจอโรม พาวเวล์ในข้อหา “เบิกงบประมาณ มาใช้เกินความจำเป็น”ในการ ซ่อมแซมอาคาร FOMC นอกจากนี้ยังประกาศ อาจมีการประกาศ รายชื่อประธานเฟด คนต่อไปเร็วกว่าเดิมเล็กน้อย ตอนนี้มี Candidate 3-4 คน ที่จะมารอรับตำแหน่งต่อจาก เจอโรมพาวเวลา ที่หมดวาระใน พ.ค. ปี 2026

H4/H1 โครงสร้างเป็นเทรนด์ขาลงอย่างต่อเนื่อง H4 มีการสร้าง Low ใหม่ 61.386 เริ่มปรากฎสัญญาณ Bullis Divergence อีกครั้งระวังการ Rebound ขึ้นในระยะสั้น ประกอบกับ Harmonic Shark Pttn

คำแนะนำ

  • เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย)ที่กรอบ 63.109-63.714 / SL 63.850 เพื่อทำกำไร 62.522/62.290/62.058
  • เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซื้อ)ที่กรอบ 61.726-61.381 / SL 61.000 เพื่อทำกำไร 61.795/62.067/62.280/62.643/62.766/63.066

แนวรับ61.359/60.549/60.026

แนวต้าน 63.110/63.764/64.865

ปฎิทินเศรษฐกิจ 14 ส.ค.2568

บทวิเคราะห์ข่าว

  • ตัวเลข PPI m/m เดือน ก.ค. ซึ่งเป็นตัวเลข สะท้อนต้นทุนการผลิตของเดือน ก.ค. ซึ่งจะมีทั้งปัจจัยราคาต้นทุนวัตถุดิบและราคาน้ำมัน ซึ่งตัวเลขตรงๆจะให้ผลกับราคาน้ำมันน้อย (เนื่องจากราคาน้ำมันของเดือนที่แล้วส่งผลต่อราคาของเดือนที่แล้ว) แต่ผลทางอ้อมคือหากประกาศตัวเลขออกมาที่สูงจากคาดการณ์อย่างมาก สะท้อนเงินเฟ้อ ที่มีโอกาสที่จะสูงมาก ซึ่งอาจส่งผลให้ Fed ตัดสินใจ คงอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะทำให้ USD แข็งค่าและกดดันน้ำมัน แต่หากตัวเลข ออกมาต่ำกว่าคาด หรือต่ำกว่าเดือนที่แล้ว คาดการณว่าเงินเฟ้อ อยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ มีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า ซึ่งเป็นบวกต่อราคา น้ำมัน
  • ติดตาม ปริมาณ ก็าซธรรมชาติคงคลังที่คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณในสต็อกสูง

by

Tags:

Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *