กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 14 พ.ค.2568

Day โครงสร้างเทรนด์ขาลงในกรอบ Channel ขาลง วานนี้ชวงเช้า-บ่าย ราคาปรับตัวร่วงลงทันทีที่ขึ้นมาทดสอบแนวต้าน Supply Day ก่อนจะดีดขึ้นบริเวณแนวรับ Demand H1 ที่ให้ไว้(ตามคาด) ปิดแท่งรายวัน Bullish Marubozo

สัญญาน้ํามันดิบ WTI ปีที่$ 63.67 บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.78% ปัจจัยบวกจากการเจรจาการค้า สหรัฐ-จีน ตลอดจนมาตราการคว่ำบาตรน้ำมันอิหร่านและประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ(ดีเกินคาด)

ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ – ดีเกินคาด

• ประกาศตัวเลข CPI y/y =2.3% (คาดการณ์และเดือน มี.ค.2.4 % ,เป้า FED =2.2-2.0%) ออกมาดีเกินคาด นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไม่เห็นผลกระทบภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่คาดการณ์จะเห็นผลกระทบกลางปีนี้ (ประกาศในเดือน ก.ค.)
•  ภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้สถาบันการเงินในวอลล์สตรีท เริ่มปรับลดคาดการณ์เรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย และ Morgan ปรับลดโอกาสเกิดเศรษฐกิจถดถอยเหลือ น้อยกว่า 50% ขณะที่ Barclays เลื่อนการคาดการณ์ภาวะถดถอยออกไป…ส่งผลบวกต่อราคาน้ำมัน

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรอิหร่านตอเนื่อง …ส่งผลบวกต่อราคาน้ำมัน

• บริษัทกว่า 20 แห่งในเครือข่ายที่ถูกกล่าวหาว่าส่งออกน้ำมันอิหร่านหลายพันล้านดอรลารห์สหรัฐไปยังจีนอย่างต่อเนื่อง – นับเป็นการเพิ่มมาตราการคว่ำบาตรหลังจากการเจรจานิวเคลียร์ สหรัฐ-อิหร่านครั้งที 4 ล้มเหลว

การเจรจาการค้า สหรัฐ – จีน ออกมาดีเกินคาด … ส่งผลบวกต่อราคาน้ำมัน

• หลังการเจรจากทางการค้า สหรัฐฯ และจีน 10-11 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้ผลสรุป ฝ่ายจีนจะลดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯบางส่วน เหลือ 10% (จาก 125%) ขณะที่สหรัฐ ลดภาษีให้จีนเหลือ 30% ซึ่งหมายถึงสินค้านำเข้าจากจีน 10% + สินค้านำเข้าจากจากจีนที่เกี่ยวกับเฟนทานิล 20% (จากเดิม 145%) โดยจะเริ่มในวันที่ 14 พ.ค. นี้ เจ้าหน้าที่สื่อของรัฐจีน ต่างแสดงความยินดีกับขอตกลงการค้าฉบับแรกที่ระงับ 90 วัน เป็นการยืนยันความถูกต้องตามหลัก ยุทธศาสตร์การเจรจากของจีน โดยให้เหตุผลว่าท่าทีแข็งกร้าวของจีนได้ผลดี และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สามารถตกลงกับฝ่ายสหรัฐฯได้สำเร็จ ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์อเมริกา ยืนยันการเรียกเก็บภาษีนำเข้า 30% จากจีนยังคงเป็นราคาที่สูงสำหรับผู้บริโภตในสหรัฐและอาจส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อขึ้นได้เช่นกัน
• สินค้ากลุ่ม De Minimis (เดิมเป็นสินค้ายกเว้นภาษีนำเข้า เนื่องจากมูลค่าและน้ำหนักน้อย) หลังจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน สหรัฐฯ ได้ปรับลดภาษีสำหรับสินค้ากลุ่ม de minimis จาก 120% เหลือ 54% และคงค่าธรรมเนียม $100 ต่อพัสดุ การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลกระทบต่อบริษัทอีคอมเมิร์ซจากจีน เช่น Shein และ Temu กลับมาส่งสินค้าเสียภาษี(จากเดิมไม่เสียภาษี)คาดได้รับผลกระทบแต่น้อยกว่าที่คาด (คาดว่าจะเรียกเก็บภาษี 120%)
• จีนยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าโบอิ้ง ส่งผลให้โบอิ้งกลับมาส่งเครื่องบินเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ส่งมอบได้เพียง 24 ลำ โดยการส่งมอบเครื่องบินเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่วอลล์สตรีทให้การจับตามองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตจะได้รับเงินส่วนใหญ่เมื่อส่งมอบเครื่องบินให้กับลูกค้า โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โบอิ้งต้องเผชิญกับวิกฤตและปัญหาการผลิตที่ส่งผลให้บริษัทมีหนี้สินสะสมจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องเพิ่มการส่งมอบเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม

ทรัมป์ เดินทางซาอุดิอาระเบีย และอาหรับเอมิเรต

• วัตถุประสงค์เพื่อลงนามทางการค้าร่วมกับอิหร่าน ด้วยข้อตกลง 600 พันล้านเหรียญสหรัฐ , ตลอดจนการเจรจาขายอาวุธ และร่วมมือด้านปัญญาประดิษฐ์ร่วมกัน
• ประกาศยุติการคว่ำบาตรซีเรีย หลังการล่มสลายของระบอบอัสซาดปลายปีที่แล้ว ทั้งนี้การยุติการคว่ำบาตรเพื่อเป็นการฟื้นฟูประเทศและลดบทบาท
• 2024 รัฐบาลของบาชาร์ อัล-อัสซาด ถูกโค่นล้มโดยกลุ่มกบฏที่นำโดยอัล-ชารา ซึ่งเคยเป็นผู้นำกลุ่มฮายัต ตะห์รีร์ อัล-ชาม (HTS) และเคยมีค่าหัวจากสหรัฐฯ ถึง 10 ล้านดอลลาร์

H4 /H1 โครงสร้างเป็นเทรนด์ขาขึ้น ราคาเคลื่อนที่ใน Channel Up Trend เริ่มปรากฎสัญญาการกลับตัว Bearish Divergence H1 และ H4

แนะนำ

• เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซื้อ) ที่กรอบ 62.049-62.452 / SL 61.500 เพื่อทำกำไร 62.527/62.722/62.810/62.898/63.006
• เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย) ที่กรอบ 64.088 – 64.820 / SL 65.000 เพื่อทำกำไร 64.000/63.950/63.850/63.650

แนวรับ 61.192/59.836/57.903

แนวต้าน 64.151/65.739/66.765

ปฏิทินเศรษฐกิจ 14 พ.ค.2568

บทวิเคราะห์ข่าว

• ติดตามตัวเลขประกาศปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ในคืนนี้