กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 12 พ.ค.2568

Week โครงสร้างเทรนด์ขาลง ราคาน้ำมันเคลื่นตัวอยู่ใน Channel ขาลง สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันได้อานิสงค์แรงบวก จากความคลายกังวลจากการเจรจาการค้า หลังการเจรจาสำเร็จระหว่างสหรัฐ-อังกฤษ และการเจรจาสหรัฐ-จีน ที่มีขึ้นในสุดสัปดาห์ ประกอบกับปริมาณสต็อกน้ำมันดิบ ทีออกมาต่ำสุดในรอบ 5 ปี และมาตรการคว่ำบาตรยุโรป ในการงดการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย ซึ่งส่งผลบวกกับทิศทางน้ำมันโดยตรง

Day โครงสร้างเทรนด์ขาลงในกรอบ Channel ขาลง ศุกร์ที่ผ่านมาราคาดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ตลอดจนช่วงเช้าวันนี้ ณ ปัจจุบันราคาทรงตัวบริเวณ แนวต้านสำคัญ SRF Day

สัญญาน้ํามันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ $60.88 ต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 4% ติดตามผลการเจรจาการค้า ระหว่าง สหรัฐ-จีนที่คาดว่าแถลงการณ์ในวันนี้

• ผลการเจรจาการค้า ระหว่าง สหรัฐ-จีน ที่จัดขึ้น 10 -11 พ.ค. จะประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมในวันนี้ เบื้องต้นทั้งสองฝ่ายรายงานว่ามี “ความคืบหน้าอย่างมีนัยยะสำคัญ” แต่ยังคงไม่เผยรายละเอียด ณ ปัจจุบัน
• การเจรจาการค้า สหรัฐ-อังกฤษ บรรลุผลดี คาดการเจรจากับอีกหลายประเทศจะดีตามมา การเจรจาเพิ่มเติมในวันที่ 16 พ.ค.นี้
  สหรัฐเสนอให้อังกฤษ : ลดภาษีนำเข้ารถยนต์ เหลือ 10%(จาก 27.5%) + ยกเลิกภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม&ชิ้นส่วนเครื่องบินและเครื่องยนต์ กับอังกฤษ ,สิทธิพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์ยา
  อังกฤษเสนอให้สหรัฐ :ยกเลิกภาษีนำเข้าเอทานอล , อนุญาติให้นำเข้าเนื้อวัวปลอดภาษีจากสหรัฐ 13,000 เมตริกตันต่อปี, ลดภาษีสินค้าอุตสหกรรมจากสหรัฐ,ปรับปรุงกระบวนการศุลกากร เพือให้สินค้าสหรัฐผ่านการตรวจสอบโดยเร็ว
• กรอบข้อตกลงทางการค้า สหรัฐ-อังกฤษ ถูกหยิบขึ้นมาเป็นมาตราฐานในการเจรจากับนานาประเทศ เตรียมเปิดตัวข้อตกลงการค้าหลายสิบฉบับในช่วงเดือนต่อๆแต่มีแนวโน้มที่จะคงภาษี 10% โดยจะเน้นไปที่กลุ่มประเทศใหญ่
• อังกฤษ เดินหน้า คว่ําบาตรใหม่กับกองเรือบรรทุกน้ํามันของรัสเซีย(ที่แอบส่งออกน้ำมัน”กองเรือเงา”) ห้ามไม่ให้เข้าท่าเรืออังกฤษและประเทศพันธมิตร นอกจากนี้ยังขยายผลรวม อายัตทรัพย์กลุ่ม Coral Energy Group บริษัทค้าน้ํามันที่เกี่ยวข้องกับการขายและส่งออกน้ํามันดิบของรัสเซีย ซึ่งปัจจุบันดําเนินการภายใต้ชื่อ 2Rivers Group ท้้งนี้เพื่อเป็นการกดดัน รัสเซีย ให้เร่งเข้าสู่โต๊ะเจรจา สันติภาพ (ข้อตกลงหยุดยิง 30 วันอย่างไม่มีเงือนไข) คาดว่าจะเจรจา รัสเซีย-ยูเครน ในวันที่ 15 พ.ค.นี ในขณะที่ยูเครนเรียกร้องให้รัสเซียหยุดยิงก่อนการเจรจา
• รายงานสถานะน้ำมันประจำสัปดาห์จาก EIA … ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน
  – 8 พ.ค. ประกาศตัวเลขก๊าซธรรมชาติคงคลัง 104 B (สูงกว่าคาด) สะท้อนการผลิตการเก็บสำรองเข้าสู่่ช่วง shoulder season (ฤดูใบไม้ผลิ-ใบไม้ร่วง) ซึ่งความต้องการก๊าซจะลดลง แต่ปริมาณสำรองยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี
  – ปริมาณน้ำมันดิบ ลดลง 2 ล้านบารเรล เหลือ 438.4 ล้านบาร์เรล (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี) …. สัญญาณเชิงบวกต่อราคาน้ำมัน
  – น้ำมันดีเซล ลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล (ตำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี)/น้ำมันเบนซิน เพิ่มขึ้น 0.2 ล้านบาร์เรล (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี) … ปริมาณน้ำมันกลั่นลดลงเพียงเล็กน้อย แต่มีการผลิตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันในประเทศยังสูงอยู่ ซึ่งเป็นบวกต่อความเชื่อมั่น
• กลุ่ม OPEC+ กำหนดประชุมครั้งหน้า 1 มิถุนายน 2025 เพื่อประเมินสถานการณ์ตลาดและตัดสินใจเกี่ยวกับระดับการผลิตในเดือนกรกฎาคม หลังจากมีการเพิ่มปริมาณการผลิตเป้าหมาย 3 เดือน (เม.ย.- มิ.ย.) เป็น 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน … ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน
• ในขณะที่ตะวันออกกลางความขัดแย้งยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง อิสลาเอลโจมตีสนามบินในเยเมนเพื่อตอบโต้ฮูติยิงระเบิดตกสนามบินอิสลาเอลเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน แม้ว่าสหรัฐจะยกเลิกการโจมตีฮูติเนื่องจาก ฮุติยกเลิกการโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง แล้วก็ตาม หลายฝ่ายคาด สหรัฐยังกลัวคำขู่อิหร่าน(พันธมิตรฮูติ)จากการเปิดตัวขีปนาวุธ “กัสเซ้ม บาสซีร์”พร้อมใช้โจมตีฐานทัพสหรัฐได้ตลอดเวลา ในขณะที่การเจรจานิวเคลียร์ระหว่างสองประเทศถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด

H4 /H1 โครงสร้างเป็นเทรนด์ขาขึ้น ราคาสามารถยกตัวเหนือจุด Choch H4 ขึ้นไปได้ ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเริ่มปรากฎสัญญาณการย่อตัว Bearish Divergence ใน Timeframe H1 เน้นการย่อซื้อหาก การประกาศผลการเจรจา สหรัฐ-จีนออกมาดี

แนะนำ

• เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซื้อ) ที่กรอบ 60.295-60.654 / SL 59.800 เพื่อทำกำไร 61.034/61.416/61.769

แนวรับ 59.251/58.780/57.315

แนวต้าน 61.098/61.968/63.088

ปฎฺิทินข่าวเศรษฐกิจ 12 พ.ค.2568

บทวิเคราะห์ข่าว

• ติดตามตัวเลข ยอดปล่อยกู้ธนาคารในประเทศจีน ซึ่งหากค่าประกาศมากกว่าคาดการณ์หรือใกล้เคียงก่อนหน้า จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน เศรษฐกิจจีนขยายตัว ซึ่งส่งผลบวกต่อราคาน้ำมัน แต่หากตัวเลขน้อยกว่าคาดการณ์ คาดเศรษฐกิจหดตัว ซึ่งส่งผลลบต่อราคาทองคำ (ทั้งนี้ตัวเลขคาดการณ์ คำนวนมาจากวันหยุดยาวในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา)