กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 12 ก.พ.2568

Day โครงสร้างเป็นเทรนดขาลง ปิดจบวานนี้ด้วยแท่ง Bullish Pin Bar ราคา Rebound ทะลุผ่าน บริเวณ Supply H4 บริเวณกรอบ ที่ให้ไว้ 72.134-72.816 โดยปัจจัยบวกมากจากสหรัฐ ขึ้นภาษ๊ 25% เหล็กและอลูมิเนียม (เป็นการเก็บภาษีที่ขยายวงกว้าง ไปยัง แคนนาดา แม็กซิโก ไต้หวัน ญี่ปุ่น ยุโรป เวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศผู้นำส่งออกเหล็ก,อลูมิเนียนมให้สหรัฐ) ซึ่งจะทำให้ต้นทุนในการผลิตน้ำมันสูงขึ้น และอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นเช่นกัน เปิดตลาดเช้านี้มีแรงเทขายจากตลาดเอเซีย

  • การซื้อขายน้ำมันล่วงหน้า (น้ำมันดิบ WTI Future) กำหนดส่งมอบเดือน มีนาคม ลดลง จาก 76.62 USD เป็น 72.74
  • API รายงาน ยอดน้ำมันดิบคงคลังเพิมสูงขึ้น แต่ น้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นลดลง ,,, ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน เนื่องจากมีการใช้น้ำมัน ในการขนส่งและบริโภคมากขึ้น
  • มาตราการการคว่ำบาตร สหรัฐ,ยุโรป : รัสเซีย / สหรัฐ : อิหร่าน ที่จะเป็นการควบคุมอุปทานน้ำมัน
  • จับตาความตึงเครียดในตะวันออกกลาง อาจมีการยกระดับความรุนแรง หาก ฮามาสไม่ปล่อยตัวประกันอิสลาเอลทั้งหมดภายในวันเสาร์นี้ …. ส่งผลบวกต่อราคาน้ำมัน
  • เจอโรมพาวเวลล์ ระบุเศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่งอยู่ ไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย … เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งส่งผลบวกต่อราคาน้ำมัน

H4 โครงสร้างเป็นเทรนด์ขาลง ราคาน้ำมันมีการเคลื่อนที่ออกข้าง แต่ยังไม่สามารถทำลายจุดเปลี่ยนโครงสร้างที่ 74.542 ได้ ราคามีการสร้าง High ใหม่ที่ 73.378 และเริ่มปรากฎสัญญาณการกลับตัว Hidden Bearish Divergence RSI

H1 โครงสร้างเทรนด์ขาขึ้นระยะสั้น ราคาดีดตัวขึ้น Impulse ยังไม่มีการย่อตัว ทั้งนี้อาจจะต้องรอให้ราคาปิดสูงกว่าระดับ 73.378 แล้วมองหาสัญญาณการย่อตัว

แนะน

  • เปิดสถานะซื้อ(รอสัญญาณซื้อ) ที่กรอบ 72.528- 72.935 / SL 72.290 เพื่อทำกำไรที่ 73.378/73.781
  • เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย) ที่กรอบราคา 73.781-74.240 / SL 74.600 เพื่อทำกำไร 72.800/72.516/72.000

แนวรับ 72.460/71.566/70.933

แนวต้าน 73.881/74.522/75.086

ปฏิทินเศรษฐกิจ 12 ก.พ. 2568

บทวิเคราะห์ข่าว

  • 11 ก.พ. พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงรายงานนโยบายการเงินต่อคณะกรรมการความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (Joint Economic Committee) โดยเน้นย้ำ คือ การส่งเสริมการจ้างงานสูงสุดและการรักษาเสถียรภาพด้านราคา พาวเวลล์ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เติบโตที่ 2.5% ในปี 2024 ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ยังคงแข็งแกร่ง. นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อได้ลดลงมาใกล้เคียงกับเป้าหมายระยะยาวที่ 2% แต่ยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าที่ต้องการเล็กน้อย เขายังกล่าวถึงความสำคัญของการปรับนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าในการลดอัตราเงินเฟ้อ และเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน …. ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน
  • ติดตามประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ หากมาออกมาตำกว่า 2.9 % จะส่งผลดีต่อ USD น้ำมันอาจะได้รับอานิสงค์ย่อตัวลงเล็กน้อย / หากตัวเลขออกมามากว่า 2.9 % ส่งผลให้ตัวเลขเงินเฟ้อสูง มีโอกาสที่ Fed จะปรับนโยบายทางการเงินเป็นปัจจัยในการขึ้นดอกเบี้ยแทน(หากตัวเลขในเดือนหลังๆต่อจากนี้ไม่ดีขึ้น ทั้งนี้หากอัตราดอกเบี้ยสูง ทำให้เงิน USD แข็งค่าขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนการกู้ยืม และอาจลดความต้องการน้ำมันในระดับโลก ซึ่งจะกดดันราคาน้ำมัน
  • ติดตามประกาศตัวเลขปริมาณน้ำมันคงคลัง หากตัวเลขออกมาใช้น้ำมันมากกว่าคาด จะส่งปัจจัยบวกต่อราคานัำมัน

by

Tags:

Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *