Day โครงสร้างเทรดนขาลง ปรับตัวลงหลังจากชนแนวต้านที่ไห้ไว้ 62.817 ปิดแท่ง Bearish with Short Shadow ราคามีแรงเทขายตลอดทั้งวัน ก่อนจะมีการทรงตัวในช่วงค่ำถึงเช้าวันนี้ ที่กรอบราคาที่ให้ไว้ 58.814-60.349
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI)ส่งมอบ พ.ค. ปิด 60.07 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 3.7%
ทั้งนี้ปัจจัยกดดันราคาน้ำมันยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
สงครามทางการค้า สหรัฐ – จีน เริ่มทวีความรุนแรงขึ้น สหรัฐเรียกเก็บภาษีจีนเพิ่ม 20% รวมเป็น 145%.. ส่งผลให้การส่งออกน้้ำมันไปจีนคาดลดลงอย่างมาก… กดดันราคาน้ำมัน
- สหรัฐฯ ได้ประกาศเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 145%(125+20) ซึ่ง 20% หลังมาจากการประกาศเพิ่มคืนวานนี้ เนื่องจากจีนทำเป็นผู้เกี่ยวข้องและทำให้ เฟนทานิลเขามายังอเมริกา (ตามคำกล่าวอ้างของทรัมป์) ซึ่งเป็นการรวมภาษีหลายรายการที่มีผลบังคับใช้ก่อนหน้านี้ หลังจากที่จีนแข็งกร้าวไม่ยอมเจรจาต่อรองในวันที่ 9 เม.ย. พร้อมตอบโต้ จีนเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ 84% มีผลบังคับใช้วานนี้ อีกทั้งยัง เพิ่มรายชื่อบัญชีควบคุมการส่งออกสินค้า บริษัทสหรัฐอีก 12 แห่ง พร้อมทั้งประนามการกระทำของทรัมป์ และยังประกาศ”สู้จนถึงที่สุด” อีกทั้งยังมีแผนที่จะลดการนำเข้าภาพยนตร์จากสหรัฐ (เกินดุลย์การค้ากับจีน)
- จีนยังคงมาตราการควบคุมการส่งออกแร่หายาก 7 ชนิด ซึ่งกระทบ โครงการณ์ผลิต F35 ของสหรัฐ (มาตราการควบคุมการส่งออกของจีน จะกำหนด โควต้าการส่งออกในแต่ละปีไปสหรัฐ และเพิ่มข้อบังคับ ใบอนุญาติสำหรับการส่งออกแร่หายาก รวมทั้งจะเพิ่มภาษีการส่งออก (ค่าธรรมเนียมพิเศษ)ที่สูงขึ้น เพื่อเพิ่มต้นทุนการส่งออกไปยังสหรัฐ
- ความกังวล สงครามการค้า จีน- สหรัฐ ปะทุครั้งใหม่ส่งผลต่ออุปสงค์น้้ำมัน (จีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก) คาดว่าจีนอาจจะเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อชดเชยผลกระทบจากภาษีของทรัมป์ ในขณะที่ตลาดกังวลผลกระทบเศรษฐกิจสหรัฐ เนื่องจากสินค้าหลายรายการในสหรัฐที่ผลิตและหาทดแทนไม่ได้
EIA ปรับลดคาดการน้ำมัน ปี 2025-2026… กดดันราคาน้ำมัน
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯEIA ปรับลดคาดการณ์การเติบโต อุปสงค์น้ำมันโลก ปี 2025 ลงเหลือ 900,000 บาร์เรลต่อวัน คาดว่าอุปสงค์น้ำมันในปี 2026 เพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน(จากคาดการณ์ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ปัจจัยมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจากการเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐ รวมถึงความตึงเครียดทางการค้ากับจีน รวมถึงนโยบายการเพิ่มการผลิตกลุ่ม OPEC+ ซึ่งส่งผลต่อโอกาสเกิดน้ำมันล้นตลาด
ทรัมป์ ประกาศชะลอเก็บภาษีแบบ ตอบโต้ (reciprocal tariff) ออกไป 90 วัน แต่ยังเรียกเก็บ 10% Baseline Tariff สำหรับทุกชาติ (เพิ่มเติมจากสินค้าบางประเภทที่เรียกเก็บไปแล้ว)… กดดันราคาน้ำมัน
- ภาษีแบบ ตอบโต้ (reciprocal tariff) กับ 90 ประเทศที่เกินดุลย์สหรัฐทรัมป์ ประกาศเลื่อนออกไป 90 วัน เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆเข้ามาเจรจากับสหรัฐ แต่ยังคงเก็บ ภาษีพื้นฐาน 10% สำหรับสินค้านำเข้าทั้งหมด (10% Baseline Tariff) ทุกๆประเทศที่นำเข้าสินค้าสหรัฐ วันที่ 5 เม.ย.
- ทรัมป์ระบุว่า มีประเทศ มากกว่า 75 ประเทศ ที่ติดต่อรอคิวเพื่อเจรจานำเสนอข้อเสนอดีๆให้กับสหรัฐ จึงจำเป็นต้องเลื่อนออกไปก่อน และเตือนประเทศ ที่ประเทศไหนคิดจะตอบโต้ ภาษีจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า แต่ความเป็นจริงสาเหตุของการผ่อนปรนนโยบาย เลื่อนภาษีตอบโต้ออกไป 90 วัน
- การขยายเวลาการเก็บภาษค Reciprocal Tariff เนื่องจาก สหรัฐกำลังเผชิญกับ การเทขายพันธบัตรรัฐบาล (มูลค่าพันธบัตร+ดอกเบี้ย)อย่างหนัก ซึ่งส่งผลทำให้ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปีและ 30 ปี พุ่งสูงถึง 4.5-5.0% การเทขายพันธบัตรออกมาในครั้งนี้มาจากการประกาศนโยบายทางภาษี วันที 3 เม.ย. (ประเทศที่ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมากที่สุด ญี่ปุ่น จีน และสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบทางภาษีทั้งสิ้น) ซึ่งเป็นสัญญาณ ในการเกิดภาวะ เศรษฐกิจตกต่ำรุนแรง (Depression)
- EU สั่งระงับ มาตราการตอบโต้ทางการค้าต่อสหรัฐ การเรียกเก็บภาษีสินค้าบางรายการ 25% จากเดิมที่เคยประกาศเริ่มวันที่ 15 เม.ย. เป็นเลื่อนไปอีก 90 วัน ตามเวลาที่สหรัฐผ่อนปรน
- เจ้าหน้าที่ระดับสูง EU วางแผนเยือนจีน เพื่อพบ สี จิ้นผิง ปลายเดือน ก.ค. เพื่อหารือเกี่ยวกับการแก้ปัญหาการค้า
- EU และ จีน ร่วมกันพิจารณา กำหนดราคาขึ้นต่ำของรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตที่จีน เพื่อแทนการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน
- ในขณะที่ฝั่งอเมริกา Center for Automotive Research คาด มาตราการภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% ที่มีผลบังคับใช้ไปแล้ว ทำให้ต้นทุนผู้ผลิตรถยนต์ เพิ่มขึ้น 108,000 ล้าน ดอลลาร์ ภายในปี 2025 ซึ่งกระทบต่อ FORD / GM / Stellantis ซึ่งเฉลีย 1 คัน ต้นทุนเพิ่มเป็น 8,600 USD (จากเดิม 5000 USD)
- FED เผย มาตรการระงับภาษีของทรัมป์ ไม่เปลีย่นความเสี่ยงทางเศรษฐกิจแต่อย่างใด เพียงแค่คลายความกัดดันชั่วคราว แต่ความเสี่ยงต่อภาวะถดถอยและเงินเฟ้อสูง เพราะยังคงเก็บ แคนาดา แม็กซิโก จีน อยู่ อีกทั้งหากการเจรจาของนานาชาติไม่บรรลุผล จะส่งผลต่อความเชื่อมันนักลงทุน เป็นการฉุดการเติบโตทางเศรษบกิจ ซึ่งถึงตอนนั้นต้องเลือกระหว่าง ควบคุมเงินเฟ้อ หรือกระตุ้นการจ้างงาน
- การขนส่งของโลกเริ่มชะลอตัว ตัวเลขจำนวนเรือที่แล่นผ่านคลองปานามา ลดลง 33.7 ล่ำต่อวัน ในเดือนมี.ค. (เดิม 34.8 ลำต่อวัน)
เงินเฟ้อสหรัฐลดลง คาด Fed ปรับลดดอกเบี้ย… กดดันราคาน้ำมัน
- 10 เม.ย. ประกาศตัวเลข CPI y/y เงินเฟ้อฝั่งสหรัฐลดลงกว่าคาด 2.4% (ต่ำกว่าเดือนที่แล้ว 2.8% ในเดือน ก.พ.) ซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำสุดตั้งแต่เดือนมี.ค.2021 ขณะที่ Core CPI(ไม่รวมอาหารและพลังงาน) ลดลงเหลือ 0.1% คาด Fed จะปรับลดดอกเบี้ย 5 ครั้งในปีนี้ Fed Watch Tool เพิ่มโอกาศปรับลดดอกเบี้ยในวันที่ 7 พ.ค. 0.25% เป็น 35.5% (เพิ่มขึ้นจากก่อนข่าวประกาศ 20.4%) แม้ว่าประธาน Fed แต่ละสาขา ยังคงยืนยันคงดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า ราคาน้ำมันปรับตัวลงทันทีที่เงินเฟ้อลดลง(เป็นไปตามวิเคราะห์)
- นักลงทุนไม่วางใจ ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ วานนี้ แต่กังวลสงครามการค้า จีน-สหรัฐ ที่คาดว่าจะขยายเวลาออกไป Nasdaq – 4.19% /S&P -3.46%/Down Jone -8.61%
จับตา การประชุมหารือ สหรัฐ- อิหร่าน (ข้อตกลงยกเลิกผลิตอาวุธนิวเคลียร์ในอิหร่าน) วันเสาร์ 12 เม.ย. หวั่นสงครามเกิดหากไม่มีข้อยุดิ… กดดันราคาน้ำมัน
- วานนี้ สหรัฐประกาศเพิ่มการคว่ำบาตรเครือข่ายค้าน้ำมันอิหร่าน รวมถึงสถานีเก็บน้ำมันดิบในจีน ที่เชื่อมต่อกับโรงกลั่นอิสระผ่านท่อส่งน้ำมัน ก่อนการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่านในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยมาตรการคว่ำบาตรมีขึ้นหลังรัฐมนตรีต่างประเทศมาร์โก รูบิโอ แจ้งว่าสหรัฐฯ จะเจรจาโดยตรงกับอิหร่านในวันเสาร์นี้ ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยเตือนว่า อิหร่านจะเผชิญ “อันตรายร้ายแรง” หากการเจรจาล้มเหลว พร้อมกันนี้ สหรัฐฯ ยังคว่ำบาตรบริษัท กว่างซา โจวซาน เอ็นเนอร์จี้ กรุ๊ป ที่ดำเนินธุรกิจสถานีน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมบนเกาะหวงเจ๋อซาน มณฑลเจ้อเจียง โดยอ้างว่าสถานีแห่งนี้ รับน้ำมันจากอิหร่านผ่านท่อส่งน้ำมันใต้ทะเลหวงเจ๋อซาน-ยวีซาน
- ทรัมป์ ขู่ หากการประหารือวันพรุ่งนี้ไม่มีข้อยุติ สหรัฐจะให้อิสลาเอล เป็นผู้นำปฎิบัติการโจมตีทางทหารกับอิหร่าน ขณะที่อิหร่างออกชี้แจง หากชาติใดเปิดโจมตีมาก่อน อิหร่านก็จะปฎิบัติการให้อย่างสาสม
- กองทัพอิหร่าน เตรียมความพร้อมภาวะเฝ้าระวังขั้นสุด แม้ว่าจะมีการเจรจากันในวันเสาร์ที่ 12 เม.ย. โดยเปิดระบบป้องกันภัยทางอากาศ นำเอาระบบสงครามอิเล็กทรอนิกค์เข้ามาใช้ทั่วอ่าวเปอร์เซียและช่องแคบฮอร์มุส เพื่อสกัดกั้นโตรนสอดแนมของสหรัฐ พร้อมส่งคำเตือนไป อิรัก คุเวต อาหรับ กาต้า ตุรกี และบาเรน หากสนับสนุนสหรัฐจะถือเป็นการกระทำของศัตรูของอิหร่านเช่นกัน ขณะที่สหรัฐ ยังคงเสริมทหาร 40,000 นาย เครื่องบินล่องหน B-2 จำนวน 7 ลำ เครื่องบินเติมน้ำมัน 8 ลำ ติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศ THAAD ติดตั้งในอิสราเอล และ โยก Patriot จากเกาหลีใต้(สหรัฐให้เกาหลีใต้ยืม) ไว้ในฐานทัพ Diego Garcia ในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งห่างจากอิหร่าน 5,245 กม ซึ่งอยู่ในรัศมีของการปฎิบัติการ เครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกล
- อีหร่านยืนยัน การเจรจาในวันพรุ่งนี้ 12 เม.ย. เป็นการเจรจาผ่านตัวกลาง(โอมาน) และจะแสดงให้เห็นว่าอิหร่าน ไม่ได้มีการพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์หรือคุกคามชาติใดๆ (อิหร่านเคยออกมาแถลงว่า สามารถ พัฒนาแร่ยูเรเนียมเสริมสมรรถนะ และเพิ่มความบริสุทธิแร่ยูเรเนียม…. ซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงต่อการผลิตอาวุธนิวเคลียร์)
สถานะการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา … … ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน
- เมื่อวันที่ 10 เมษายน กองทัพอิสราเอลยังเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในฉนวนกาซ่า โดยอ้าง ไล่ล่ากลุ่ม ฮามาส ส่งผลให้ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 33 คน ยอดรวม เสียชีวิตรวม 50,846 คน สาธารณะสุขกาซ่าเรียกร้องขอเวชภัณฑ์แบบเร่งด่วน เนื่องจากขาดแคลนอย่างหนักและอยู่ในระดับอันตราย หลังจากการปิดกั้นพื้นที่จากอิสลาเอล ที่ดำเนินมาเป็นเวลา 6 สัปดาห์
- ปราโบโว ซูบิอันโต ประธานาธิปดี อินโดนิเซียประกาศพร้อมให้พี่พักพิงชาวปาเลสไตน์ชั่วคราวจนกว่าฉนวนกาซ่าจะปลอดภัย คาดช่วงแรกมีประชาชนอพยพมา 1,000 คน
- เอมานูแอล มาครง ประธานาธิบดี ฝรั่งเศส เตรียมโหวตรับ รัฐปาเลสไตน์ ในการประชุมสหประชาติในเดือน มิ.ย.นี้ (โหวดยอมรับปาเลสไตน์เป็นรัฐ 147 จาก 193 ประเทศทั่วโลก ในปี 2022) แม้ว่าอิสลาเอลและสหรัฐจะออกมาต่อต้าน
- กลุ่ม ฮิซบอลเลาห์ (กบฎในเลบานอน) ขอเปิดเจรจาปลดอาวุธกับประธานาธิปดี เลบานอน แลกกลับการที่อิสลาเอลยกเลิกการโจมตีตน หลังจากที่โดนตอบโต้กลับอย่างหนักจากอิสลาเอล ทำให้ต้องสูญเสียทั้งแกนนำและคลังอาวุธจำนวนมาก (ฮิลบอลเลาะห์แอบซุ่มโจมตีทางตอนเหนือของอิสลาเอล เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน)
- สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในกาซายังคงเลวร้ายลง เนื่องจากการปิดล้อมของอิสราเอลที่ดำเนินมาเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ทำให้เกิดการขาดแคลนอาหาร ยา และเชื้อเพลิงอย่างรุนแรง สาธารณะสุขในกาซ่าแถลงรวมผู้เสียชีวิตทั้งหมดจนถึงวันนี้ 50,810 ราย
รัสเซีย-ยูเครน ข้อตกลงหยุดยิงที่เป็นไปได้ยาก ..อุปทานน้ำมันทรงตัว
- 10 เม.ย. ยูเครนออกมายอมรับ ตอนนี้ขาดแคลนกำลังพล และ อาวุธอย่างหนัก ทั้งในด้านตะวันออก-ตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน เรียกร้องขอกำลังพล อีก 30,000 คนต่อเดือน เพื่อรับมือกับรัสเซีย พร้อมเผย รัสเซีย กำลังซ้อมรบร่วมกับ เบรารุส (จากประสบการณ์ ในปี 2023 ทันทีหลังการซ้อมรบ รัสเซีย-เบรารุส ,รัสเซียส่งกำลังโจมตียูเครนอย่างหนักครั้งใหญ่)
- 10 เม.ย. รัสเซียส่งโดรนสังหาร โจมตีอาคารบ้านเรือน่หลายพื้นที่ ในยูเครนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยูเครนมีการยิงสกัด โดรนรัสเซีย 85 ลำ จาก 145 ลำ
- 9 เม.ย. เซเลนสกีของยูเครนแถลงว่ากองทัพยูเครนได้จับกุมชายชาวจีนสองคนที่ต่อสู้เคียงข้างกองทัพรัสเซียในภูมิภาคโดเนตสก์ทางตะวันออกของยูเครน นอกจากนี้ระบุว่ามีชาวจีนอย่างน้อย 155 คนร่วมมือกับรัสเซียในการสู้รบกับยูเครน ในขณะที่รัฐบาลจีนกล่าว”ไม่มีมูลความจริงโดยสิ้นเชิง” ย้ำว่าจีนไม่มีนโยบายช่วยรบรัสเซีย พร้อมออกเตือนพลเรีอนจีน ให้หลีกเลี่ยงการเกี่ยวพันธะกับสถานะการในรัสเซีย
- ขณะที่รัสเซียแจ้ง เคยออกออกกฤษฎีกา ใน เม.ย.2023 เพื่อหากำลังพลไปช่วยรบ โดยไม่ต้องการให้พลเมืองรัสเซียเกณฑ์ทหาร โดยสามารถจ้างทหารต่างชาติได้ 75,000 -77,000 บาท ต่อเดือนต่อคน ซึ่งคาดว่าทหารจีนทั้ง 2 คน จากทหารรับจ้าง
- ในขณะที่สหรัฐและพันธมิตร แสดงความกังวล เกี่ยวกับบทบาทของจีนในการจัดหาสินค้าที่มีการใช้งานสองทาง (dual-use items) ให้กับรัสเซีย ร้อยละ 80% ซึ่งเป็นสินค้าที่ใช้ได้ทั้งภาคพลเรือนและทหาร เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยี่นำทาง และส่วนประกอบของเครื่องบินรบ แม้ว่าจีนจะไม่ส่งมอบอาวุธโดยตรงให้กับรัสเซีย
- การสู้รบยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องอย่างดุเดือดตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ยูเครนยังคงโดนรัสเซียโจมตีอย่างหนักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน(ซูมี และ คาร์คีฟ)
- สโลวะเกีย (หนึ่งในสมาชิก Nato) ส่งบริษัทซ่อมบำรุงเครืองบิน F16 ในยเครน
H4 / H1 สิ้นสุดโครงสร้างเทรนด์ขาขึ้น ราคาน้ำมันยังคงเคลื่อนตัวออกข้างทรงตัวอยู่ในกรอบในลักษณะ Sideway Down แนะนำทำกำไรสั้นๆในกรอบ Sideway 62.700-54.851
แนะนำ
- เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซื้อ)ที่กรอบ 58.754-60.349 / SL 57.500 เพื่อทำกำไรที่ 60.576/60.722/60.887/61.416/61.596
- เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย)ที่กรอบ 61.791-62.844 / SL 63.000 เพื่อทำกำไร 61.452/61.211/60.796/60.503
แนวรับ 58.249/56.143/54.009
แนวต้าน 62.817/65.680/68.356

ปฎิทินเศรษฐกิจ 11 เม.ย. 2568

บทวิเคราะห์ข่าว
- ติดตามตัวเลข PPI m/m ซึ่งเป็นตัวเลข เงินเฟ้อจากฝั่งผู้ผลิต
– PPI m/m < 0.0% (เดือนที่แล้ว) แสดงให้เห็นถึงเงินเฟ้อทีลดลง แต่อีกนัยยะหนึ่งคือ กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้กดดันราคาน้ำมัน
– PPI m/m > 0.2% (คาดการณ์) เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น (ภาคผลิตจะเห็นก่อนภาคบริโภค) ส่งผลให้ Fed อาจตัดสินใจชะลอการลดดอกเบี้ย => USD แข็งค่าขึ้น กดดดัน น้ำมัน - ติดตามประกาศ US Prelim UoM Consumer Sentiment ความเชื่อมันผู้บริโภค ที่มีผลต่อการใช้จ่าย (อุปสงคื)
– หากความเชื่อมัน > 57 แสดงถึงความมั่นใจเศรษฐกิจ และการใช้จ่ายมากขึ้น ราคานำ้มันจะสูงขึ้น
– หากความเชื่อมัน < 57 แสดงถึงความมั่นใจเศรษฐกิจ และการใช้จ่ายน้อยลง กดดันราคาน้ำมัน
Leave a Reply