Day โครงสร้างเทรดนขาลง ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นหลังจากลงมาทดสอบบริเวณ Demand Day 54.057-51.460 ช่วงแรกปรับตัวลดลง 7% ก่อนที่จะพลิกกลับขึ้น พุ่งขึ้นมา 4%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) ปิด 62.35 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.77 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4.65%
ทรัมป์ ประกาศชะลอเก็บภาษีแบบ ตอบโต้ (reciprocal tariff) ออกไป 90 วัน เรียกเก็บ 10% Baseline Tariff ก่อน
- ภาษีแบบ ตอบโต้ (reciprocal tariff) กับ 90 ประเทศที่เกินดุลย์สหรัฐทรัมป์ ประกาศเลื่อนออกไป 90 วัน เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆเข้ามาเจรจากับสหรัฐ แต่ยังคงเก็บ ภาษีพื้นฐาน 10% สำหรับสินค้านำเข้าทั้งหมด (10% Baseline Tariff) ทุกๆประเทศที่นำเข้าสินค้าสหรัฐ วันที่ 5 เม.ย.
- ทรัมป์ระบุว่า มีประเทศ มากกว่า 75 ประเทศ ที่ติดต่อรอคิวเพื่อเจรจานำเสนอข้อเสนอดีๆให้กับสหรัฐ จึงจำเป็นต้องเลื่อนออกไปก่อน และเตือนประเทศ ที่ประเทศไหนคิดจะตอบโต้ ภาษีจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
- วานนี้จีนประกาศ เพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเป็น 84% เริ่มใช้วันที่ 10 เม.ย. นี้เป็นต้นไป ในคืนที่ผ่านมาทรัมป์ขู่ตอบโต้กลับ เพิมอัตราภาษีนำเข้าจากจีนเป็น 125% (คืนก่อน 104%) และมีผลบังคับใช้ทันที พร้อมกล่าว “จีนไม่ให้ความเคารถต่อตลาดโลก”
- แม้ว่าจะเลื่อน ภาษีแบบ ตอบโต้ (reciprocal tariff) ออกไป 90 วัน แต่ยังคงเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตรา 25% เช่นเดิม และเตรียมบังคับใช้ภาษีชิ้นส่วนรถยนต์ตามเดิม แม้ว่าจะมีเสียงคัดค้านจาก Detroit Regional Chamber และ Michigan Auto (หอการค้าเมืองดีทรอย์) ซึ่งเรียกร้องให้ทรัมป์ปกป้องห่วงโซ่อุปทานนานาชาติของยานยนต์ ซึ่งมาตราการภาษีจะทำลายการแข่งขันระดับโลกของอุตสาหกรรม ทำให้ต้นทุนผลิตสูงขึ้น ทำให้การแข่งขันในตลาดลดลง
- ตรงกันข้าม Goldman Sachs เปลี่ยนคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐว่า “จะไม่เกิดภาวะถดถอย และกำลังกลับไปสู่สถานะการณ์พื้ันฐานเดิม ปรับลดความเป็นไปได้ 45%” (จากที่คาดการณ์วานนี้ 65%) หลังจากทรัมป์ประกาศชะลอ reciprocal Tariff ออกไป 90 วัน
- สถาบันการลงทุน CITY Group คาดประมาณการณ์ GDP จีนประจำปีนี้ น่าจะเหลือ 4.2% (จากเดิม 4.7%) เนื่องจากความตึงเครียดการค้า จีน-สหรัฐ รุนแรงเพิ่มขึ้นเรือยๆ ซึ่งมีโอกาสน้อยมากที่จะบรรลุข้อตกลงได้ ทั้งนี้ จีนประกาศ GDP ของประเทศในปีนี้ที่ 5.0% แต่นักลงทุนคาดเป็นการยากที่จะบรรลุเป้าหมายได้
- จีนยังเปิดช่องสำหรับการเจรจา หากสหรัฐต้องการเจรจาด้วยความจริงใจ และแสดงท่าทีเท่าเทียม เคารพซึ่งกันและกัน และได้ประโยชน์ร่วมกัน พร้อมย้ำ ยืนกรานหากสหรัฐจะทำสงครามภาษีและสงครามการค้า จีนจะต่อสู้ถึงที่สุด
- เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา อัตราค่าระวางขนส่งสินค้าทางอากาศ เซี่ยงไฮ้=> ไปสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นประมาณ 40% เนื่องจากผู้นำเข้าสินค้าในสหรัฐ เร่งดำเนินการ เพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีที่จะกำหนดใช้หลังจากคืนนี้
- จีนยังคงมาตราการควบคุมการส่งออกแร่หายาก 7 ชนิด ซึ่งกระทบ โครงการณ์ผลิต F35 ของสหรัฐ (มาตราการควบคุมการส่งออกของจีน จะกำหนด โควต้าการส่งออกในแต่ละปีไปสหรัฐ และเพิ่มข้อบังคับ ใบอนุญาติสำหรับการส่งออกแร่หายาก รวมทั้งจะเพิ่มภาษีการส่งออก (ค่าธรรมเนียมพิเศษ)ที่สูงขึ้น เพื่อเพิ่มต้นทุนการส่งออกไปยังสหรัฐ
- วานนี้ก่อนทรัมป์ประกาศชะลอ ภาษีแบบ ตอบโต้ (reciprocal tariff) ออกไป 90 วัน EU ประกาศเรียกเก็บภาษี25% สินค้าบางรายการ เริ่ม 15 เม.ย.นี้ และจะยกเลิกหากการเจรจากับสหรัฐสัมฤทธิ์ผล
- เจ้าหน้าที่ Fed หลายราย ออกมายืนยัน จะไม่รีบปรับลดดอกเบี้ย เพื่อป้องกันความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัว จากมาตราการภาษีทรัมป์ แม้ตลาดแรงงานจะอ่อนแอลงก็ตาม เว้นแต่อัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
- ตลาดหุ้นอเมริกา ดีดขึ้นสดใส ขานรับมาตราการชะลอการเรียกเก็บภาษีตอบโต้ 90 วัน S&P 500 + 9.52% /Nasdaq 100 +12.02% /Dow Jone 30+4.05% เช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก
ราคาน้ำมันปรับตัวร่วงลงเช้านี้ จาก CPI อัตราเงินเฟ้อจีน ไม่เป็นไปตามคาด
- จีนประเทศผุ้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ของโลก ประกาศ CPI y/y ซึ่งเป็นค่าวัดดัชนี้เงินเฟ้อ ออกมา -0.1 % จากที่คาด 0.0 % (เดือนที่แล้ว -0.7%) แม้ว่าตัวเลขออกมาดีกว่าเดือนที่แล้วแต่ไม่เป็นไปตามคาด เนื่องจากมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจในจีนยังคงไม่เป็นไปตามแผน เริ่มหวั่นไหวต่อเป้าหมาย GDP จีนที่วางไว้ 5.0% (ตั้งเป้าก่อนเผชิญ มาตราการภาษีทรัมป์) ในขณะที่เงินหยวน อ่อนค่าลงทันที
ประกาศตัวเลข จาก EIA สำหรับงานสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ เผยปริมาณสต็อกน้ำมันดิบล้น-ชะลอการน้ำเข้า
- การผลิตน้ำมัน เฉลี่ย 15.6 ล้านบาร์เรล/วัน (เพิ่ม 69,000 บาร์เรล/วัน จากสัปดาห์ที่แล้ว)
- การน้ำเข้าน้ำมันดิบ ลดลง 227,000 บาร์เรล/วัน จากสัปดาห์ที่แล้ว… การจำเข้าชะลอตัวเนื่องจากมาตราการภาษีทรัมป์
- ปริมาณน้ำมันสำรองเชิงพาณิชย์ เพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่สำรองเบนซินลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล และดีเซล ลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล
สถานะการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา … ส่งผลต่อน้ำมันเมื่อสถานะการณ์มีการยกระดับของความขัดแย้ง (ติดตามสถานะการณ์อิหร่าน – สหรัฐ)
- เมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2568 กองทัพอิสราเอลได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในย่านชูจาเยียะ ทางตะวันออกของเมืองกาซา ด้านตะวันออก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 29 คน และบาดเจ็บกว่า 50 คน ภายใต้อาคารทีถล่มจาการโจมตีของอิสลาเอล ในขณะอิสลาเอลระบุการโจมตีมีเป้าหมายสมาชิกระดับสูงของฮามาสแต่ไม่สามารถระบุชื่อบุคคลได้ การโจมตีของอิสลาเอลครั้งนี้ได้รับคำประณามจากหลายฝ่าย รวมถึง UN ที่เรียกกาซ่า ว่าเป็น”สนามสังหาร”
- สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในกาซายังคงเลวร้ายลง เนื่องจากการปิดล้อมของอิสราเอลที่ดำเนินมาเป็นเวลา 6 สัปดาห์ ทำให้เกิดการขาดแคลนอาหาร ยา และเชื้อเพลิงอย่างรุนแรง สาธารณะสุขในกาซ่าแถลงรวมผู้เสียชีวิตทั้งหมดจนถึงวันนี้ 50,810 ราย
- ปราโบโว ซูบิอันโต ประธานาธิปดี อินโดนิเซียประกาศพร้อมให้พี่พักพิงชาวปาเลสไตน์ชั่วคราวจนกว่าฉนวนกาซ่าจะปลอดภัย คาดช่วงแรกมีประชาชนอพยพมา 1,000 คน
- อิหร่านรวมตัวประท้วง ชุมนุมต่อต้านอิสลาเอลโจมตีกาซ่า
- กลุ่ม ฮิซบอลเลาห์ (กบฎในเลบานอน) ขอเปิดเจรจาปลดอาวุธกับประธานาธิปดี เลบานอน หลังจากที่โดนตอบโต้กลับอย่างหนัก จากกองกำลังอิสลาเอลจากการที่แอบซุ่มโจมตีทางตอนเหนืออิสลาเอล 2 อาทิตย์ก่อน
- UN ปฎิเสธข้อเสนออิสลาเอล ที่ต้องการควบคุมการส่งความข่วยเหลือในฉนวนกาซ่าเพื่อบีบให้กลุ่มฮามาสยอมปล่อยตัวประกันออกมา
- วานนี้ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสลาเอล เข้าเจรจากับทรัมป์ ทั้งมาตรการเก็บภาษีตอบโต้ และ ฉนวนกาซ่า หลังจากที่อิสลาเอลนำกำลังทางอากาศถล่มฉนวนกาซ่า นำกองทหารอีก 1 กองพัน เข้าพื้นดินทางตอนใต้ และกวาดต้อนผู้อพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากเมือง (ปัจจุบันอพยพออกนอกเมืองมากกว่า 60%)โดยอ้างจะกวาดล้าง กลุ่มฮามาสออกจากกาซ่า ขณะที่ทรัมป์ ย้ำให้กองกำลังสหรัฐ เข้ายึดกาซ่า และย้ายชาวปาเลสไตน์ออกให้ไปประเทศอื่นๆ เพื่อให้ กาซ่าเป็น Freedom Zone เพื่อให้สหรัฐเข้าไปฟื้นฟูกาซ่า แม้ว่านานาชาติรุมประนามการกระทำของทรัมป์เช่นกัน
- หลังจากที่กองบัญชาการกลางของสหรัฐ CENTCOM เปิดปฎิบัติการโจมตีทางอากาศ ฐานที่มั่นของ ฮูตีในเยเมน อย่างต่อเนื่อง มากกว่า 30 ครั้ง ในวันที่ 8 เม.ย. และอีก 20 ครั้งวานนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สหรัฐใชเครื่องบินล่องหน B-2 Spirit และ ขีปนาวุธแบบ GBU-57 MOP (Massive Ordnance Penetrator) ปล่อย ขีปนาวุธ GBU57 หน้ำหนัก 30,000 ปอนด์โจมตีบังเกอร์ใต้ดินลึกมากกว่า 60 เมตร ของฮูตีในเยเมน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคนในเยเมน ในขณะที่กองกำลังเยเมนประกาศมุ่งเป้าโจมตีทีอิสลาเอล (เพื่อให้อิสลาเอลหยุดการโจมตีฉนวนกาซ่า) และส่งโตรนโจมตีเรือรบสหรัฐในทะเลแดง
- ตลาดรอคอยการเจรจา ระหว่าง สหรัฐ- อิหร่าน จะมีการเจรจากันเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์ ในเสาร์ ที่ 12 เม.ย. นี้ที่โอมาน (ตามความต้องการของอิหร่าน ที่ต้องการให้โอมานเป็นประเทศคนกลางในการเจรจา) ขณะที่ธรรมเนียบขาว สหรัฐออกมาชี้แจง เสาร์นี้จะมีแค่การพบปะพูดคุยกัน ระหว่าง สตีฟ วิทคอฟฟ์ (ผู้แทนพิเศษของสหรัฐอเมริกาประจำตะวันออกกลาง)กับอิหร่านเท่านั้น ยังคงไม่ใช่การเจรจา พร้อมย้ำทรัมป์ต้องการทำข้อตกลงให้สำเร็จ และเชื่อว่าอิหร่านจะต้องไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ในประเทศโดยเด็ดขาด
- กองทัพอิหร่าน เตรียมความพร้อมภาวะเฝ้าระวังขั้นสุด แม้ว่าจะมีการเจรจากันในวันเสาร์ที่ 12 เม.ย. โดยเปิดระบบป้องกันภัยทางอากาศ นำเอาระบบสงครามอิเล็กทรอนิกค์เข้ามาใช้ทั่วอ่าวเปอร์เซียและช่องแคบฮอร์มุส เพื่อสกัดกั้นโตรนสอดแนมของสหรัฐ พร้อมส่งคำเตือนไป อิรัก คุเวต อาหรับ กาต้า ตุรกี และบาเรน หากสนับสนุนสหรัฐจะถือเป็นการกระทำของศัตรูของอิหร่านเช่นกัน ขณะที่สหรัฐ ยังคงเสริมทหาร 40000 นายประจำในตะวันออกกลาง ติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศ THAAD ติดตั้งในอิสราเอล และ โยก Patriot จากเกาหลีใต้(สหรัฐให้เกาหลีใต้ยืม) ไว้ในตะวันออกกลางชั่วคราว
รัสเซีย-ยูเครน ข้อตกลงหยุดยิงที่เป็นไปได้ยาก ..อุปทานน้ำมันทรงตัว
- 9 เม.ย. เซเลนสกีของยูเครนแถลงว่ากองทัพยูเครนได้จับกุมชายชาวจีนสองคนที่ต่อสู้เคียงข้างกองทัพรัสเซียในภูมิภาคโดเนตสก์ทางตะวันออกของยูเครน นอกจากนี้ระบุว่ามีชาวจีนอย่างน้อย 155 คนร่วมมือกับรัสเซียในการสู้รบกับยูเครน ในขณะที่รัฐบาลจีนกล่าว”ไม่มีมูลความจริงโดยสิ้นเชิง” ย้ำว่าจีนไม่มีนโยบายช่วยรบรัสเซีย พร้อมออกเตือนพลเรีอนจีน ให้หลีกเลี่ยงการเกี่ยวพันธกับสถานะการในรัสเซีย
- ขณะที่รัสเซียแจ้ง เคยออกออกกฤษฎีกา ใน เม.ย.2023 เพื่อหากำลังพลไปช่วยรบ โดยไม่ต้องการให้พลเมืองรัสเซียเกณฑ์ทหาร โดยสามารถจ้างทหารต่างชาติได้ 75,000 -77,000 บาท ต่อเดือนต่อคน ซึ่งคาดว่าทหารจีนทั้ง 2 คน จากทหารรับจ้าง
- ในขณะที่สหรัฐและพันธมิตร แสดงความกังวล เกี่ยวกับบทบาทของจีนในการจัดหาสินค้าที่มีการใช้งานสองทาง (dual-use items) ให้กับรัสเซีย ร้อยละ 80% ซึ่งเป็นสินค้าที่ใช้ได้ทั้งภาคพลเรือนและทหาร เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยี่นำทาง และส่วนประกอบของเครื่องบินรบ แม้ว่าจีนจะไม่ส่งมอบอาวุธโดยตรงให้กับรัสเซีย
- การสู้รบยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องอย่างดุเดือดตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ยูเครนยังคงโดนรัสเซียโจมตีอย่างหนักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน(ซูมี และ คาร์คีฟ) พร้อมประกาศต้องการทหารเกณฑ์เดือนละ 30,000 นายต่อเดือน เนื่องจากรัสเซียมีกำลังพลเพิ่มขึ้น 5 เท่า จากปี 2022 รัสเซียมีทหารเพิ่มทุกเดือน 8000-9000 นาย ทหารยูเครนน้อยกว่ารัสเซีย 1 : 10 เท่า
- รัสเซียวางแผนจะซ้อมรบ ร่วมกับ เบลารุส ในเดือน พ.ค.นี้ ทางยูเครนหวั่นจะมีการบุกครั้งใหญ่ในยูเครน หลังการร่วมฝึกซ้อมรบ (จากประสบการณ์การซ้อมรบในปี2023 และ ปี 2024 ที่ผ่านมา)
- Nato (พันธมิตร 15 ชาติ) ทำการซ้อมรบทางอากาศคร้ั้งใหญ่ เพื่อบูรณาการกองทัพอากาศร่วมกัน
H4 / H1 สิ้นสุดโครงสร้างเทรนด์ขาขึ้น ราคาปรับตัวร่วงลงในเช้านี้จากข้อมูล CPI ฝั่งจีน – 0.1% สะท้อนภาพเศรษฐกิจจีน(ผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่)หดตัวอยู่ แม้จะได้รับอานิสงค์ดีดตึวขึ้นวานนี้ในนโยบายผ่อนคลายทางภาษียีดเวลาออก 90 วันสำหรับ ภาษีตอบโต้สหรัฐ ที่คาดว่าจะช่วยทำให้มุมมองเศรษฐกิจโลกกลับมาคึกคักอีกครั้ง ประกอบกับ มีสัญญาณ Bullish Divergence ในโซน Oversold วานนี้ที่คาดว่าราคาน่าจะ Rebound ขึ้น ขณะที่โครงสร้าง H1 สิ้นสุดโครงสร้างเทรนด์ขาลง หากราคาปิดได้สูงกว่า 71.800 จึงจะเป็นการยืนยันโครงสร้างระยะกลาง (H4) กลับมา
แนะนำ
- เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซื้อ)ที่กรอบ 58.754-60.349 / SL 57.500 เพื่อทำกำไรที่ 61.257/62.306/62.752/63.261/63.817/64.373
แนวรับ 58.785/54.041/51.486
แนวต้าน 62.817/65.680/68.356

ปฎิทินข่าว 10 เม.ย. 2568

บทวิเคราะห์ข่าว
- ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ US CPI y/y ซึ่งล่าสุด Fed แถลงจะพิจารณาปรับดอกเบี้ยลงเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับตัวเลขเงินเฟ้อ
– CPI y/y > 2.8% USD อ่อนค่าระยะสั้น น้ำมันจะบวกขึ้นระยะสั้น คาด Fed คงดอกเบี้ย เพื่อดูตัวเลขการจ้างงานประกอบการตัดสินใจต่อไป
– CPI y/y = 2.8 % USD ไม่เปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับราน้ำมัน
– CPI y/y < 2.5% USD แข็งค่าขึ้น ตรงข้ามกับน้ำมัน เพิ่มโอกาสที่ Fed ตัดสินใจลดดอกเบี้ย เนื่องเกรงภาวะเศรษบกิจถดถอยเพื่อกระตุ้นค่าใช้จ่าย - คาดปัจจัยจากข้อมูล CPI จะมีผลไม่นาน เนื่องจากมาตรายืดระยะเวลาจัดเก็บภาษีแบบตอบโต้ออกไป 90 วัน ยังคงเป็นแรงบวกให้กับ USD อยู่
- ติดตามตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิดการว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งจะมีผลต่อเมื่อตัวเลข มากกว่าหรือน้อยกว่า ในลักษณะที่ตัวเลขเปลี่ยนแปลงมาก
- ติดตามประกาศตัวเลขปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลัง ที่คาดว่ามีปริมาณการใช้น้อยลง ทั้งนี้มาตราการทรัมป์ช่วยให้การนำเข้าน้ำมันดิบ และการผลิตน้ำมันกลับมาอยู่ในจุดปรับสมดุลย์อีกครั้งหนึ่ง
Leave a Reply