Day โครงสร้างเทรนด์ขาขึ้น วานนี้ราคาน้ำมันยังคงเคลื่อนตัวออกข้างในกรอบแคบๆ เพียง 12xx จุด ติดต่อกัน 5 วัน หลังจากที่ราคาปรับตัวร่วงลงมาสูแนวรับ Support H4 กรอบ 65.171-66.503 เดิมที่ให้ไว้ ปิดแท่ง Bearish Pin Bar
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดตลาดที่ 65.11 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลงขึ้น 0.6%
ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในวันจันทร์ หลังนักลงทุนประเมินความเสี่ยงในตะวันออกกลางและการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันของ OPEC+ ในเดือนส.ค.
OPEC+ เตรียมประกาศเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนส.ค. … กดดัน ราคาน้ำมัน
- OPEC+ ประกาศเพิ่มกำลังการผลิตอีกครั้งในปริมาณที่ 411,000 บาร์เรลต่อวัน หากอนุมัติ ปริมาณการผลิต รวม เท่ากับ 1.78 ล้านบาร์ต่อวัน (1.5% ของอุปสงค์ความต้องการน้ำมันทั่วโลก)
- วัตถุประสงค์ กลับมาครองส่วนแบ่งตลาดให้ได้มากขึ้น
- เนื่องจากในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีบางประเทศผลิตเกณฑ์โควต้าของประเภท ภายหลัง OPEC+ ปรับเพิ่มกำลังการผลิตให้กับประเทศสมาชิกที่เคารพกฎ การผลิตให้เท่ากับประเทศที่ผลิตเกินกำหนด ซึ่งบางประเทศอาจต้องใช้เวลาที่นานขึ้น เพื่อจะผลิตให้เข้าตามมาตราฐานเดิมกำหนด
สหรัฐ-อิหร่าน การขึ้นโต๊ะเจรจา “นิวเคลียร์” ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ … นักลงทุนยังคงประเมินความเสีย่งทีจะเกิดขึ้น
- อิหร่านออกมาเตือนว่าไม่มั่นใจในข้อตกลงหยุดยิงกับอิสราเอล โดยระบุว่าหากถูกโจมตีอีก จะตอบโต้ทันที
- หรัฐฯ ยังคงสนับสนุนอิสราเอลอย่างแข็งขัน โดยมีการขู่ตอบโต้ทางนิวเคลียร์ต่ออิหร่าน หากสถานการณ์บานปลาย
- สหรัฐ อนุญาตเจรจาแบบอ้อม (indirect talks) กับอิหร่าน หลังจากข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว อิหร่าน – อิสลาเอล บรรลุขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ทรัมป์ยังขู่ อิหร่าน ที่จะยกเลิกแผนผ่อนปรน “มาตราการคว่่ำบาตรอิหร่าน หากอิหร่านยังคงเดินหน้าโครงการณ์พัฒนานิวเคลียร์ต่อ”
- ปฏิบัติการ “Operation Midnight Hammer” เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. โดยสหรัฐ ใช้ระเบิด Bunker Buster ทำลายโครงสร้างนิวเคลียร์ 3 แห่งในอิหร่าน แต่พบว่า “ไม่ได้เป็นการทำลายล้างแบบสิ้นเชิง” แค่เป็นการทำให้อิหร่านหยุดชะงัก การพัฒนานิวเคลียร์
- ในขณะที่ IAEA, เตือนว่าอิหร่านยังสามารถผลิตยูเรเนียมเสริม (enriched uranium) ได้อีกภายใน “ระยะเวลาไม่กี่เดือน” แม้หลังถูกโจมตี และคาดว่า อิหร่นมีการย้าย ยูเรเนียออกไปก่อนการโจมตีเกิดขึ้น
USD อ่อนค่าหนัก … ราคาน้ำมันทำได้แค่ทรงตัว
- ดัชนีดอลลาร์ปิดลบเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน พร้อมกับปิดตลาดในช่วง H1 ด้วยการร่วงลง -10.8% ถือเป็น H1 ที่ร่วงลงมากที่สุดในนับตั้งแต่ 1973
- ความกังวลดังกล่าวเกิดขึ้น หลังทรัมป์ เดินหน้าโจมตีพาวเวลล์ (ประธนาคารกลาง FED) พร้อมกับระบุว่าเขาจะไม่แต่งตั้งใครก็ตามที่ไม่สนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ย ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟด และเขาจะ “ยินดี” หากพาวเวลล์ลาออกก่อนที่หมดวาระในเดือนพ.ค.ปีหน้า Fed Watch Tool ปรับเพิ่มโอกาสทีจะลดดอกเบี้ยใน วันที่ 30 ก.ค. เป็น 22.4% (จาก 20.3%ในวันก่อนหน้า) ทรัมปยังเดินห่า กดดัน โดยได้ส่ง รายงาน ดอกเบี้ยธนาคารทั่วโลก ให้ เจอโรมพร้อมเขียนด้วยลายมือ ระบุ ” อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ควรอยู่ระหว่าง 0.5% (ของญี่ปุ่น) และ 1.75% (ของเดนมาร์ก)” และโพสใน truth Social พสต์ลงโซเชียลมีเดียว่า “คุณควรลดอัตราดอกเบี้ยลงมากเลยนะ เรากำลังสูญเสียเงินเป็นแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ”
- USD ยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากร่างกฎหมายลดหย่อนภาษีและการใช้จ่ายครั้งใหญ่ของทรัมป์ OBBB ได้รับมติผ่านร่าง วุฒิสภา ซึ่งอาจทำให้หนี้สาธารณะ (U.S. Debt) เพิ่มขึ้น 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า
- นโยบายภาษี OBBB : Opportunity Business and Budget Balance Act “One Big Beautiful Bill Act ที่ลดภาษี (รายได้สหรัฐ หายไป) มูลค่า 4.5 ล้านดอกล่าร์ ผ่านมติ วุฒิสภา 51 – 49
– ลดภาษีเงินได้ นิติบุคคล เหลือ 15% (จาก 21%)
– ปรับโครงสร้างภาษีบุคคลธรรมดา เพิ่มเครดิตภาษีคนมีรายได้น้อย
– ลดภาษีกำไรจากการลงทุน / ลดภาษีธุรกิจขนาดเล็ก - ทั้งนี้ 4 ก.ค. จะเข้าสู่ สภาผู้แทนราษฎร์ เพื่อลงคะแนนอีกคร้ง ก่อนส่งให้ทรัมป์ลงนาม
สงครามการค้ากลับมาเริ่มต้นอีกคร้้งในช่วงเวลาที่ใกล้ Deadline 9 ก.ค. …. กดดัน USD และ น้ำมัน
- ญี่ปุ่น – สหรัฐ : ทรัมป์ ขู่จะขึ้นอัตราภาษีใหม่กับญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่นไม่เต็มใจที่จะนำเข้าข้าวจากสหรัฐ ในขณะที่ที่ปรึกษาเศรษฐกิจระดับสูงกล่าวว่า ทำเนียบขาวมีเป้าหมายที่จะสรุปข้อตกลงกับประเทศคู่ค้าหลังผ่านพ้นวันหยุด 4 ก.ค. โดยการสร้างความตึงเครียดครั้งล่าสุดของทรัมป์กับญี่ปุ่น เกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์กว่า ๆ ก่อนถึงกำหนดเส้นตายวันที่ 9 ก.ค. ที่อัตราภาษีจะกลับมามีผลบังคับใช้
- แคนาดา – สหรัฐ : เตรียมกลับมาเริ่มเจรจาการค้าอีกครั้ง หลังจากที่ มาร์ค คาร์นีย์ นายกรัฐมนตรีแคนาดา ได้โทรศัพท์หา ทรัมป์ เพื่อแจ้งให้ทราบแคนาดายกเลิกภาษีบริการดิจิทัลที่มุ่งเป้าไปที่บริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐแล้ว
- EU – สหรัฐ : อียูยอม เก็บภาษีทั่วไป 10% สำหรับสินค้าส่งออกจำนวนมากของกลุ่มประเทศสมาชิก และกับ การที่สหรัฐ ยอมลดอัตราภาษีสำหรับภาคส่วนสำคัญ เช่น ยา, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, เซมิคอนดักเตอร์ และอากาศยานพาณิชย์ และข้อยกเว้นเพื่อลดภาษี 25% สำหรับรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ รวมถึงภาษี 50% สำหรับเหล็กและอลูมิเนียม
H4 /H1 : สิ้นสุดโครงสร้างเทรนด์ขาขึ้น ราคาน้ำมันร่วงลงต่ำกว่าจุด Choh H4 ที่ 68.000 ราคาน้้ำมันยังคงเคลื่อนตัวออกข้าง ติดต่อกัน 5 วันที่กรอบ ราคาวิ่งชนแนวรับที่กรอบ 65.270-65.911 และปรับตัวร่วงลง บริเวณ64.070-62.437 กรอบแคบๆ (ตามคาด)
- เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซื้อ )ที่กรอบ 64.070-62.437/ SL 62.000 เพื่อทำกำไรระยะสั้น 66.906/67.231/67.7405
- เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย)ที่กรอบ 67.405-68.697/ SL 69.000 เพื่อทำกำไรที่ 69.846/65.869/64.810/63.010
แนวรับ 62.437/60.473/59.626
แนวต้าน 70.231/72.158/75.966

ปฎิทินข่าว 1 ก.ค. 2568

บทวิเคราะห์ข่าว
- ติดตามถ้อยแถลง เจอโรม พาวเวล์ ประธานธนาคารกลาง สหรัฐ ที่มีขึ้นใน the ECB Forum ประเทศโปรตุเกส ติดตามท่าทีหลัง ทรัมปโจมตีอย่างหนักในช่วงคืนที่ผ่านมา หากยังคงมีถ้อยแถลงทีเป็นการยืนยันจะไม่ลดดอกเบี้ย สะส่งผลทำใหราคา USD ดีดขึ้น และกดดัน ราคาน้ำมันลงได้
- ติดตามประกาศตัวเลข ดัชนีผุ้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ภาคการผลิต หากตัวเลขออกมาดี ระดับ 50% จะถือเป็นมุมมองบวกกับเศรษฐกิจ และ USD ตลอดจน ราคาน้ำมัน
Leave a Reply