กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 18 พ.ย. 2568

Day วานนี้ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 1050 จุด ตลาดมีแรงซื้อในช่วงเช้าหลังจากเสาร์-อาทิตย์มีรายงาน รัสเซียอาจระงับการส่งออกน้ำมันผ่านท่าเรือ Novorossiisk หลังการโจมตีจากยูเครน แต่ท้ายที่สุด มีรายงานว่าท่าเรือดังกล่าวอาจกลับมาเปิดใช้ได้ตามปกติ ภายในอีกวัน-สองวัน ส่งผลให้ราคาปรับตัวย่อลงมา และพยายามลงมาจุดเดิม ที่ 59.170 จนถึงเช้าวันนี้ ปิดแท่ง Bearish with long shadow หากวันนีปิดแท่ง Bearish คาดราคาปรับตัวร่วงลงต่อ ตาม PA : Rising Star

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) ปิดที่ระดับ 59.91 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.3%

ท่าเรือ Novorossiysk กลับมาเปิดได้อีกครั้ง … ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน

• ท่าเรือ โนโวรอสซีสค์ เป็นท่าเรือส่งออกน้ำมันสำคัญของรัสเซียในทะเลดำ ได้ถูกโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธของยูเครน ส่งผลให้การโหลดน้ำมันถูกระงับเป็นเวลา 2 วัน โดยส่งออกได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (คิดเป็นราว 2.2 ล้าน บาร์เรล/วัน หรือประมาณ 2 % ของอุปทานโลก) / ล่าสุด การโหลดน้ำมันที่โนโวรอสซีสค์กลับมาเดินหน้าต่อได้แล้วตามแหล่งข่าวอุตสาหกรรมและข้อมูลของ ­LSEG

ตลาดจับตามาตราการคว่ำบาตร 2 บริษัทส่งออกน้ำมันยักษ์ใหญ่ รัสเซีย หลัง 21 พ.ย.

• U.S. Treasury Department (กระทรวงการคลังสหรัฐ) รายงานว่า มาตรการคว่ำบาตรที่ประกาศเมื่อ 22 ตุลาคม 2025 ต่อสองบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย ได้แก่ Rosneft และ Lukoil โดยห้ามบริษัท หรือบุคคลใดๆ เกี่ยวข้องและทำธุรกรรมกับ 2 บริษัทนี้ ภายใน 21 พ.ย. มิเฉ่นนั้น จะเสี่ยงต่อการถูกตัดออกจากระบบการเงินดอลลาร์ (dollar-based financial system) ของสหรัฐ
• สถาบันการเงินว่า ราว 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ของศักยภาพส่งออกทางทะเลของรัสเซีย หรือคิดเป็นเกือบหนึ่งในสามของศักยภาพส่งออกทางทะเล ถูก “กักไว้” ในเรือแท็งก์ที่รอระบาย เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านการล้างทางการค้าภายใต้การคว่ำบาตร
• Lukoil ได้ยื่นขอขยายระยะเวลาภายใต้ใบอนุญาตทั่วไป (general licence) เพื่อดำเนินธุรกรรมกับผู้ซื้อ/ขายต่างประเทศภายในช่วงเวลาที่กำหนดก่อนวันที่ 21 พ.ย.
• Rosneft และ Lukoil ถือเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของรัสเซีย — Rosneft ผลิตได้ประมาณ 3.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2024 และ Lukoilประมาณ 2 % ของการผลิตโลกโดยรวม ซึ่งหากหลัง 21 พ.ย. ยังคงมีมาตราการควำ่บาตรจริงและตึงเครียดอาจส่งผล ในอุปทานที่น้อยลงในระยะยาวเช่นกัน

USD(DXY) กลับขึ้นมาแข็งค่า จากปัจจัยการอ่อนค่าของ เยน(ญี่ปุ่น) และ โอกาส Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าเพิ่มสูงขึ้น…. ปัจจัยกดดัน น้ำมัน

• Fed Watch tool ปรับคาดการณ์ 54.9% ที่เฟดคงอัตราดอกเบีย3.75-4.00 ในการประชุมครัั้งหน้า 10 ธ.ค. หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายแสดงมุมมองออกมาในทิศทางเดียวกัน นักลงทุนจับตาที่ การจ้างงานนอกภาคการเกษตร เดือน ก.ย. และจำนวนผุ้ขอรับสวัสดิการณ์ว่างงานรายสัปดาห์ในวันพุร่งนี้ 19 พ.ย. (หลังการเกิด Government Shutdown ที่ยาวนาน 42 วัน)
• คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ สมาชิก Fed เปิดเผยว่า บริษัทสหรัฐ เริ่มหารือเกี่ยวกับการปลดพนักงานบ่อยขึ้น ขณะที่เตรียมรับมือกับอุปสงค์ที่อ่อนตัวลงและผลผลิตที่จะเพิ่มขึ้นจากการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เขายกขึ้นสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไป ท่ามกลางความเห็นที่แตกต่างภายในเฟดเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงิน โดยวอลเลอร์เรียกร้องให้ เฟดให้ความสำคัญกับตลาดแรงงานมากขึ้น
• ในฝั่งเงินเฟ้อ ที่เป็นปัจจัยในการตัดสินใจดอกเบี้ยของเฟด ณ ปัจจุบัน แรงกดดันจากประชาชนที่กังวลเรื่องเงินเฟ้อเพิ่มสูง โดยเฉพาะในช่วง Shutdown ส่งผลให้ทรัมป์ เตรียมพบ ผู้ดำเนินกิจการและซัพพลายเออร์ของเครือร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด McDonald’s เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลในการกดต้นทุนค่าครองชีพ สุดสัปดาห์ที่ผานมา รัมป์ ประกาศยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าอาหารมากกว่า 200 รายการ รวมถึงสินค้าพื้นฐานอย่างกาแฟ เนื้อวัว กล้วย และน้ำส้ม ท่ามกลางความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคชาวอเมริกันต่อค่าครองชีพและราคาสินค้าอาหารที่สูงขึ้น โดยการยกเว้นภาษีรอบใหม่ ซึ่งมีผลย้อนหลังตั้งแต่เที่ยงคืนวันพฤหัสบดี
• ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งปี 2024 ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะลดค่าครองชีพของชาวอเมริกัน และยังยืนยันว่า มาตรการลดภาษีและการส่งเสริมการผลิตภายในประเทศของรัฐบาล จะช่วยเพิ่มรายได้จริงของประชาชนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แม้ล่าสุดจะยอมรับว่า ผลของนโยบายดังกล่าวอาจต้องใช้เวลา
• จับตา รายงานผลประกอบการการลงทุน NVidia ในวันพูธ 19 พ.ย. ประเมินความยั่งยืนธุรกิจ AI หรืออาจะเกิดภาวะฟองสบู่ AI ซึ่งจะส่งผลให้มีการซื้อ USD ในฐานสินทรัพย์ปลอดภัย

เศรษฐกิจญี่ปุ่นชะลอตัวอย่างหนัก ส่งผลให้ JPY อ่อนค่าลง … ปัจจัยบวกต่อ USD กดดันราคาน้ามัน

• เศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาส 3/2025 หดตัว โดยข้อมูลเบื้องต้นชี้ว่า GDP ลดลงประมาณ -1.8% แบบแอนนูไลซ์ (annualised) เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า / รายงานของบริษัทวิเคราะห์ระบุว่าแนวโน้มหยุดชะงักของการเติบโตเกิดจากการส่งออกที่ชะลอตัวและกำลังซื้อภายในประเทศที่ไม่แข็งแรง ลดความหวังในการขึ้นอัตราดอกบี้ย ของ BOJ ในเร็วๆนี้
• ความต่างของอัตราผลตอบแทน (yield) ระหว่างสหรัฐฯ กับญี่ปุ่น และ carry trade
  เมื่ออัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ อยู่สูงกว่าญี่ปุ่นมาก นักลงทุนจะยืมเยน (ต้นทุนต่ำ) แล้วนำไปซื้อสกุลเงินหรือสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ทำให้มีแรงขายเยน — ซึ่งเป็นหนึ่งในแรงกดดันเยนอ่อน
• สำนักงานบริการทางการเงินของญี่ปนุ FSA กำลังพิจารณา ให้คริปโตเคอเรนซี่ 105 สกุล ที่มีการซื้อขายในญีปุ่น เป็นผลิตภัณท์ทางการเงิน ซึ่งทำให้ต้องอยู่ภายใต้กฎเกณท์ การซื้อขาย หรือ inside trading + ปรับลดกำไร (จากการซื้อขาย) ภาษี 20 % + อนุญาติให้ธนาคาร,บริษัทประกันภัย เสนอขายคริปโต ให้กับลูกค้าได้

H4/H1 ราคาทองคำยัคงเคลื่อนไหวออกข้างในลักษณะ Sideway Down (ลด low) ยังไม่สามารถยืนเหนือจุด Chooch H4 61.212 ซึง่เป็นจุดสินสุดโตรงสร้างขาลงได้ คาดน่าจะเคลื่อนไหวออกขางไปเรือยๆจนกระทั่้งรอปัจจัยใหม่ๆเข้ามาในตลาด

คำแนะนำ

• เปิดสถานุะขาย (รอสัญญาณขาย) ที่กรอบ 59.580-59.767/ SL 60.000 เพื่อทำกำไร 59.384/59.311/59.272/59.179/59.087/58.876/58.786
• เปิดสถานซื้อ (รอสัญญาณขาย) ที่กรอบ58.331-58.752 / SL 85.000 เพื่อทำกำไร 58.022/59.182/59.263/59.458/59.653

แนวรับ 58.098/57.335/56.763

แนวต้าน 59.781/60.642/61.212

ปฎิทินเศรษฐกิจ 18 พ.ย.2568

บทวิเคราะห์ข่าว

• ถ้อยแถลงคริสโตเฟอร ์ วอลเลอร์ สนับสนุนให้มีการลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25 % ในการประชุมของ Federal Open Market Committee (FOMC) ธันวาคมนี้ เนื่องจากเขามองว่า ตลาดแรงงานสหรัฐฯ กำลังอ่อนตัว และอยู่ในระดับ “near stall speed” (ใกล้หยุดชะงัก)
  – อัตราเงินเฟ้อ น่าจะใกล้เป้า FED ที่2.0% แต่ตลาดแรงงานอ่อนแอ
  – หากเสียงในการตัดสินใจของคณะ FOMC เกิดการแบ่ง 7-5 หรือใกล้เคียงกันมากๆ อาจทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในทิศทางนโยบายการเงินลดลงได้
  – แม้จะมีการปิดรัฐบาลสหรัฐฯ (43 วัน) ที่ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจบางชุดล่าช้า แต่ข้อมูลจากภาคเอกชนและรัฐอื่นๆ ยังคงให้ภาพที่ “ใช้การได้” ในการตัดสินใจต่อเนื่อง
• ถ้อยแถลงทรัมป์ “ทรัมปต้องการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและลดภาระค่าครองชีพคนอเมริกัน / อัตราเงินเฟ้อ พุ่ง 9.1% ในสมัยรัฐบาลก่อน และลดลงมา 3.0% และกำลังจะลดลงไปอีก / ขอบคุณ Mcdonald ที่ช่วยลดราคาให้ผู้บริโภค