Mindblown: a blog about philosophy.

  • กลยุทธ์การลงทุน GBPUSD ประจำวันที่ 18 พ.ย. 2567

    กลยุทธ์การลงทุน GBPUSD ประจำวันที่ 18 พ.ย. 2567

    Week เทรนด์ขาขึ้นถูกทำลาย ปิดเป็นแท่งแดง Marubozo Bearish ยังคงไม่ปรากฎสัญญาณการกลับตัวใดๆ ปิดจบแท่งที่ 1.25990 ซึ่งสามารถทะลุแนวรับ Week (Demand H4) ลงมาได้ D1 ราคายังคงเป็นเทรนด์ขาลง ปิดจบด้วยแท่งแดงมีไส้บนล่าง Bearish with Shadow ราคาลงมาทดสอบ แนวรับ Demand Week ที่กรอบราคา 1.25977 – 1.24413 และดีดขึ้นทันที ปรากฎสัญญาณกลับตัวเฉพาะ Macd เช้านี้มีการดีดของราคาในช่วงเช้า H4 ราคาเคลื่อนที่ในเทรนด์ขาลง หลุดกรอบ Sideway ที่กรอบราคา 1.27168 -1.26326 เริ่มปรากฎสัญญาณการกลับตัว Bullish Divergence (MACD + RSI) มีโอกาสที่จะวิ่งกลับเข้าไปในกรอบ H1 พยายามทรงตัวเพื่อเข้าในกรอบ Sideway 1.27168 -1.26326 ประกอบกับแรงซื้อทางเทคนิค (Bullish Divergence RSI) ราคาเริ่มใกล้จุดเคลียรสัญญาณ…

  • กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 18 พ.ย.2567

    กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 18 พ.ย.2567

    Week / Day ราคาปิดอาทิตย์ทีแล้ว ด้วยแท่งแดงเต็มแท่ง (Marubozu Close Bearish) แรงขายยังคงมีอย่างต่อเนื่องตลอดอาทิตย์ ราคงลงมาทดสอบที่แนวรับ day ที่กรอบราคา 67.184 -66.618 เริ่มปรากฎสัญญาณกลับตัว Bearish Divergence (MACD) แต่ไม่แนะนำให้เข้าซื้อ เพราะสัญญาณอาจถูกทำลายได้หากวันนี้ปิดจบด้วยแท่ง Bearish H4 โครงสร้างเป็นเทรนด์ขาลง มีการเคลื่อนที่ในกรอบ Sideway Down ที่กรอบราคา 69.268 -66.873 ปรากฎสัญญาณการกลับตัว Bullish Divergence (RSI + MACD)ราคามีปรับตัวสูงขึ้นทันทีที่ลงมาแตะระดับ H1 ราคาเคลื่อนที่ในกรอบ Sideway Down ราคามีการหลุดกรอบไซด์เวย์เดิม 69.244 -67.475 เช้านี้ปรากฎสัญญาณ Bullish Divergence (Macd + RSI) ราคาเคลื่อนที่ใกล้จุดเคลียรสัญญาณ ซึงหากราคาไม่สามารถกลับเข้ากรอบไซด์เวย์ 69.244 -67.475 ได้ มีโอกาสที่จะร่วงกลับไปจุดเดิม แนะนำ…

  • CHFJPY: การวิเคราะห์เชิงเทคนิคหลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจาก BOJ ในปี 2024

    CHFJPY: การวิเคราะห์เชิงเทคนิคหลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจาก BOJ ในปี 2024

    ในปี 2024 ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มสภาพคล่องในตลาดการเงิน การเคลื่อนไหวนี้ได้สร้างผลกระทบสำคัญต่อตลาดเงินตราระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคู่เงิน CHFJPY ที่มีความผันผวนสูง บทความนี้จะนำเสนอการวิเคราะห์เชิงเทคนิคของคู่เงินดังกล่าว รวมถึงแนวโน้มและกลยุทธ์การลงทุนที่ควรพิจารณา ความสำคัญของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจาก BOJ ต่อคู่เงิน CHFJPY ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นนโยบายที่ BOJ ใช้เพื่อตอบสนองต่อภาวะเงินฝืดและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การลดอัตราดอกเบี้ยทำให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อคู่เงิน CHFJPY โดยเพิ่มความน่าสนใจในฝั่งของฟรังก์สวิสที่มีบทบาทเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย การวิเคราะห์เชิงเทคนิคของคู่เงิน CHFJPY แนวรับและแนวต้านสำคัญ ในการวิเคราะห์เชิงเทคนิค แนวรับและแนวต้านเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการพิจารณาทิศทางราคา ปัจจุบัน แนวรับที่สำคัญของ CHFJPY อยู่ที่ระดับ 150.50 และแนวต้านอยู่ที่ประมาณ 153.30 หากราคาสามารถทะลุแนวต้านนี้ไปได้ มีโอกาสที่จะเห็นการเคลื่อนไหวขึ้นต่อเนื่อง ดัชนี RSI และ MACD ในการพยากรณ์ราคา การใช้ดัชนีความแข็งแรงสัมพัทธ์ (RSI) เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยบ่งบอกถึงภาวะการซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป ปัจจุบัน RSI ของ CHFJPY อยู่ที่ระดับประมาณ 65 แสดงถึงแนวโน้มการซื้อที่เริ่มมีแรงผลักดัน นอกจากนี้ MACD…

  • Fed คืออะไร? บทบาทและหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐในปี 2025

    Fed คืออะไร? บทบาทและหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐในปี 2025

    ธนาคารกลางสหรัฐ หรือที่รู้จักในชื่อ “Fed” มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐและเป็นส่วนสำคัญในเศรษฐกิจโลก บทบาทที่สำคัญของ Fed ในปี 2025 จะยังคงเน้นไปที่การจัดการนโยบายการเงินเพื่อส่งเสริมการจ้างงานและรักษาราคาที่เสถียร นอกจากนี้ยังต้องรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจในยุคที่มีความผันผวนและความเสี่ยงทางการเงินสูงขึ้น มาเรียนรู้เพิ่มเติมถึงบทบาทหน้าที่ของ Fed ที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจในอนาคตกัน Fed คืออะไร? ธนาคารกลางสหรัฐ ( Fed ) เป็นสถาบันที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยมีเป้าหมายหลักในการส่งเสริมการจ้างงานสูงสุด รักษาระดับราคาให้มั่นคง และควบคุมอัตราดอกเบี้ยให้มีความเหมาะสม ความสำคัญของ Fed ยังรวมไปถึงการดูแลระบบการเงิน การควบคุมสถาบันการเงิน การให้บริการทางการเงินแก่รัฐบาลกลาง และการเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาและรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินสหรัฐ  หน้าที่และบทบาทของ Fed ในปี 2025 นโยบายการเงินเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ หนึ่งในหน้าที่สำคัญของ Fed คือการกำหนดนโยบายการเงินซึ่งรวมถึงการควบคุมอัตราดอกเบี้ยและการกำหนดอัตราส่วนสำรองเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ การตัดสินใจปรับขึ้นหรือลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed มีผลโดยตรงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ การลงทุน และการใช้จ่ายของประชาชน  ในปี 2025 Fed ยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการจ้างงานสูงสุดโดยการสร้างสภาวะที่เอื้อต่อการจ้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจ การเพิ่มโอกาสในการทำงานช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตและเพิ่มความมั่นคงของครัวเรือน ทำให้การบริโภคในระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง การควบคุม อัตราเงินเฟ้อ เป็นหนึ่งในบทบาทหลักที่สำคัญ Fed จะกำหนดนโยบายเพื่อควบคุมไม่ให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มสูงเกินไป อัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถลดกำลังซื้อของประชาชนและส่งผลต่อการวางแผนทางการเงินในระยะยาว ดังนั้น…

  • หลักการ Dow Theory เครื่องมือวิเคราะห์ที่ทรงพลังสำหรับเทรดเดอร์ปี 2025

    หลักการ Dow Theory เครื่องมือวิเคราะห์ที่ทรงพลังสำหรับเทรดเดอร์ปี 2025

    Dow Theory เป็นทฤษฎีการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายและเป็นรากฐานของการศึกษาตลาดหุ้นและการเคลื่อนไหวของราคา โดยทฤษฎีนี้เกิดขึ้นจาก Charles Henry Dow ซึ่งแนะนำว่าตลาดสะท้อนข้อมูลทั้งหมดที่มีผลต่อราคาอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ Dow Theory ยังชี้ว่าแนวโน้มหลักมักประกอบด้วย 3 ระยะสำคัญ คือ ระยะการสะสม (Accumulation) ระยะเกิดแนวโน้ม (Participation) และระยะการกระจาย (Distribution) ในปี 2025 Dow Theory ยังคงเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับการวิเคราะห์กราฟและเหมาะกับนักลงทุนที่สนใจทั้งตลาดหุ้นและตลาดคริปโต Dow Theory: เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่นักลงทุนต้องรู้จัก Dow Theory เป็นทฤษฎีการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ถือว่าเป็นพื้นฐานสำคัญในโลกการเงินและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย โดย Charles Henry Dow ผู้ก่อตั้ง ได้วางรากฐานความเข้าใจเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาที่สะท้อนข้อมูลทุกอย่างในตลาด รวมถึงแนวโน้มราคาที่เกิดขึ้นเป็นระยะในตลาดหุ้นและคริปโต ในปี 2025 นี้ นักลงทุนยังคงสามารถใช้ Dow Theory เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์แนวโน้มราคาและการเคลื่อนไหวของตลาด ความสำคัญของ Dow Theory ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค การทำความเข้าใจ Dow Theory จะช่วยให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มในตลาดได้ดียิ่งขึ้น โดย…

  • 5 ขั้นตอนการวิเคราะห์คลื่น Elliott Wave เพื่อการเทรดที่มีประสิทธิภาพ

    5 ขั้นตอนการวิเคราะห์คลื่น Elliott Wave เพื่อการเทรดที่มีประสิทธิภาพ

    ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับทฤษฎีคลื่น Elliott Wave ทฤษฎีคลื่น Elliott Wave หรือ “Elliott Wave Theory” คือแนวคิดที่ใช้ในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาในตลาดการเงิน โดยเชื่อว่าราคาจะเคลื่อนไหวในรูปแบบคลื่นซ้ำๆ ที่ประกอบด้วย “คลื่นเร่ง” 5 คลื่นในทิศทางเดียวกับเทรนด์หลัก และ “คลื่นปรับ” 3 คลื่นในทิศทางตรงข้ามกับเทรนด์หลัก การเข้าใจรูปแบบคลื่นเหล่านี้ช่วยให้นักลงทุนคาดการณ์ทิศทางตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ขั้นตอนที่ 1: ระบุรูปแบบคลื่น การเริ่มต้นวิเคราะห์คลื่นเอลเลียตจำเป็นต้องรู้จักรูปแบบหลัก 2 ประเภท ได้แก่ คลื่นเร่ง (Motive Wave) ซึ่งประกอบด้วย 5 คลื่น และ คลื่นปรับ (Corrective Wave) ที่ประกอบด้วย 3 คลื่น ซึ่งทั้งสองรูปแบบนี้ช่วยให้เราวิเคราะห์แนวโน้มและจุดกลับตัวของราคาได้ ขั้นตอนที่ 2: การนับคลื่นตามโครงสร้าง 5-3 เมื่อระบุรูปแบบได้แล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการนับคลื่นตามโครงสร้างที่เป็นลักษณะ 5-3 ของทฤษฎีเอลเลียต การนับคลื่นช่วยให้มองเห็นภาพรวมของแนวโน้มและช่วยให้เราทำนายช่วงที่ตลาดจะเกิดการกลับตัวได้ ขั้นตอนที่ 3: วิเคราะห์การปรับตัวของคลื่นด้วยฟีโบนัชชี การใช้…

  • FOMC คืออะไร ทำไมเทรดเดอร์ต้องให้ความสำคัญกับการประชุมนี้?

    FOMC คืออะไร ทำไมเทรดเดอร์ต้องให้ความสำคัญกับการประชุมนี้?

    FOMC หรือ Federal Open Market Committee คือคณะกรรมการของธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) ที่มีหน้าที่ในการกำหนดนโยบายการเงิน ซึ่งรวมถึงการควบคุมอัตราดอกเบี้ยและการปรับปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ การประชุมนี้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดการเงิน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจของเทรดเดอร์ทั่วโลก บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักว่า FOMC คืออะไร ทำไมการประชุมนี้ถึงมีผลต่อตลาด และเทรดเดอร์ควรเตรียมตัวอย่างไรเพื่อใช้ข้อมูลในการวางแผนการลงทุน FOMC คืออะไร? FOMC หรือคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ FOMC ย่อมาจาก Federal Open Market Committee ซึ่งเป็นคณะกรรมการของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ที่ทำหน้าที่กำหนดทิศทางนโยบายการเงินของประเทศ โดยเฉพาะการควบคุมอัตราดอกเบี้ยและการดำเนินนโยบายการเงินแบบเปิด (Open Market Operations) ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมและการเคลื่อนไหวของตลาดการเงิน บทบาทของ FOMC ในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยเป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักที่ FOMC ใช้เพื่อควบคุมเศรษฐกิจ เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการลงทุนในช่วงเศรษฐกิจซบเซา หรือลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจในช่วงที่มีภาวะเงินเฟ้อ การตัดสินใจเหล่านี้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของค่าเงิน การลงทุนในตลาดทุน และภาคธุรกิจ ทำไมการประชุม FOMC ถึงมีผลต่อตลาดการเงิน? การประชุม FOMC และการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจ…

  • จับตาการเคลื่อนไหวของ GBPAUD: ผลกระทบจากรายงาน GDP ล่าสุดของออสเตรเลียและสหราชอาณาจักร

    จับตาการเคลื่อนไหวของ GBPAUD: ผลกระทบจากรายงาน GDP ล่าสุดของออสเตรเลียและสหราชอาณาจักร

    ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกถึงคู่เงิน GBPAUD ซึ่งเป็นคู่เงินระหว่างปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) และดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) โดยมุ่งเน้นการวิเคราะห์ที่เกิดขึ้นจากรายงาน GDP ล่าสุดของทั้งสองประเทศ รวมถึงผลกระทบที่สำคัญต่อทิศทางและการเคลื่อนไหวของคู่เงินนี้ ภาพรวมของคู่เงิน GBPAUD GBPAUD คืออะไร GBPAUD เป็นคู่สกุลเงินระหว่างปอนด์ของสหราชอาณาจักรและดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งได้รับความนิยมในตลาดฟอเร็กซ์ โดยเฉพาะในกลุ่มนักเทรดที่มุ่งหวังในการทำกำไรจากความผันผวนของค่าเงินสองสกุลนี้ การวิเคราะห์พื้นฐานคู่เงิน GBPAUD ปัจจัยพื้นฐานเช่นนโยบายการเงิน อัตราดอกเบี้ย และข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอย่าง GDP ของทั้งสหราชอาณาจักรและออสเตรเลีย มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาคู่เงินนี้อย่างมีนัยสำคัญ ผลกระทบจากรายงาน GDP ของออสเตรเลียและสหราชอาณาจักร รายงาน GDP ของออสเตรเลีย ภาพรวมเศรษฐกิจออสเตรเลีย GDP ของออสเตรเลียเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญที่บ่งบอกถึงสุขภาพทางเศรษฐกิจ โดยหาก GDP ของประเทศเติบโตในอัตราที่สูง จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ AUD แข็งค่าขึ้น ผลกระทบของ GDP ออสเตรเลียต่อค่าเงิน AUD ตัวเลข GDP ที่สูงกว่าคาดการณ์จะส่งผลให้ค่าเงิน AUD แข็งค่า เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ ขณะที่ตัวเลขที่ต่ำกว่าคาดจะส่งผลในทางตรงกันข้าม รายงาน GDP…

  • ปัจจัยขับเคลื่อน GBPJPY: ความเชื่อมโยงระหว่างเศรษฐกิจอังกฤษและญี่ปุ่น

    ปัจจัยขับเคลื่อน GBPJPY: ความเชื่อมโยงระหว่างเศรษฐกิจอังกฤษและญี่ปุ่น

    คู่เงิน GBPJPY ซึ่งประกอบด้วยปอนด์สเตอร์ลิงอังกฤษ (GBP) และเยนญี่ปุ่น (JPY) เป็นหนึ่งในคู่เงินที่ได้รับความสนใจสูงในตลาดฟอเร็กซ์ เนื่องจากมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับเศรษฐกิจสองประเทศที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง บทความนี้จะพิจารณาปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนอัตราแลกเปลี่ยนของ GBPJPY ซึ่งมีทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของทั้งสองฝ่าย ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่มีผลต่อ GBPJPY การเคลื่อนไหวของคู่เงิน GBPJPY นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยทางเศรษฐกิจหลายประการในทั้งสองประเทศ การวิเคราะห์ปัจจัยเหล่านี้ช่วยให้เราเข้าใจว่าทำไม GBPJPY ถึงมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงเวลา 1. ดัชนี GDP และการเติบโตทางเศรษฐกิจ ดัชนี GDP หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญสำหรับทั้งสองประเทศ หากเศรษฐกิจของอังกฤษเติบโตสูงเมื่อเทียบกับญี่ปุ่น ค่าเงิน GBP มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเมื่อเทียบกับ JPY ตรงกันข้ามหากเศรษฐกิจญี่ปุ่นแข็งแกร่งขึ้น ค่าเงินเยนอาจได้รับอิทธิพลและส่งผลให้ GBPJPY ปรับตัวลดลง 2. อัตราเงินเฟ้อ อัตราเงินเฟ้อเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีอิทธิพลสูงต่อคู่เงิน GBPJPY การเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อทั้งในญี่ปุ่นและอังกฤษสามารถทำให้คู่เงินนี้ปรับตัวได้ทันที เช่น เมื่ออัตราเงินเฟ้อในญี่ปุ่นต่ำกว่าอังกฤษ ผู้ลงทุนอาจเลือกใช้ GBP ในการลงทุนมากขึ้น ส่งผลให้ GBP แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับ JPY นโยบายการเงินและผลกระทบที่มีต่อ GBPJPY ธนาคารกลางของทั้งสองประเทศมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายการเงินที่ส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนของ GBPJPY…

  • เปรียบเทียบการใช้ Price Action กับ Indicator  อะไรเหมาะกับคุณ?

    เปรียบเทียบการใช้ Price Action กับ Indicator  อะไรเหมาะกับคุณ?

    ความหมายของ Price Action และ indicator ตัวชี้วัดทางเทคนิค การวิเคราะห์ Price Action และการใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคเป็นสองวิธีที่ได้รับความนิยมในการเทรด นักลงทุนมักใช้เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมของตลาดและคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต แต่ทั้งสองมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ซึ่งนักเทรดควรเข้าใจเพื่อเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของตนเอง Price Action คืออะไร? Price Action เป็นการวิเคราะห์พฤติกรรมของราคาโดยไม่ใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ซับซ้อน นักเทรดจะใช้ข้อมูลจากกราฟราคาเพื่อตัดสินใจ โดยดูรูปแบบของแท่งเทียน แนวรับ-แนวต้าน และการเปลี่ยนแปลงของราคาในช่วงต่าง ๆ เพื่อหาจุดเข้าและออกที่เหมาะสม ข้อดีของการใช้ Price Action ตัวชี้วัดทางเทคนิค ( indicator ) คืออะไร? ตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators) เป็นเครื่องมือที่นักเทรดใช้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลราคาในอดีตและคาดการณ์แนวโน้มอนาคต เช่น Moving Averages, RSI และ MACD โดยเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้นักเทรดเห็นแนวโน้มของตลาดอย่างชัดเจน ข้อดีของการใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค ( indicator ) เปรียบเทียบการใช้ Price Action กับตัวชี้วัดทางเทคนิค ความเรียบง่ายและความยืดหยุ่น Price Action…

Got any book recommendations?