Mindblown: a blog about philosophy.
-
Over Trade คืออะไร? สัญญาณเตือนและวิธีป้องกัน
Over Trade เป็นปัญหาที่นักลงทุนหรือนักเทรดส่วนใหญ่อาจพบเจอเมื่อพวกเขาตัดสินใจเทรดบ่อยเกินไปในช่วงเวลาสั้น ๆ โดยขาดการวางแผนและการวิเคราะห์ที่รอบคอบ ผลลัพธ์ของการ Over Trade สามารถนำไปสู่การขาดทุนทางการเงิน ความเสี่ยงสูง และปัญหาทางจิตใจ เช่น ความเครียดและความผิดหวัง ดังนั้น การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ OverTrade และการป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ Over Trade คืออะไร? OverTrade คือการที่นักลงทุนหรือเทรดเดอร์ทำการซื้อขายหลักทรัพย์มากเกินไปในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ มักเกิดจากความโลภ ความเครียด หรือการต้องการเพิ่มผลกำไรอย่างรวดเร็ว โดยการตัดสินใจเทรดอาจขาดการวิเคราะห์ที่เหมาะสมหรือไม่คำนึงถึงแผนการลงทุนที่ตั้งไว้ ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้นและกำไรที่ไม่ยั่งยืน ผลกระทบทางการเงินจาก OverTrade เมื่อคุณ OverTrade ผลลัพธ์ทางการเงินที่พบได้ทั่วไปคือการขาดทุนสะสม เนื่องจากการเทรดมากเกินไปจะทำให้เกิดค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่การเปิดหลายสถานะในเวลาสั้น ๆ โดยไม่มีการวางแผนชัดเจน อาจทำให้พอร์ตการลงทุนเสี่ยงและไม่สามารถควบคุมได้ การใช้ Stop Loss และ Take Profit เพื่อหลีกเลี่ยง OverTrade การตั้ง Stop Loss และ Take Profit เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการป้องกันการ OverTrade โดยทำให้เราสามารถควบคุมการขาดทุนได้และไม่พยายามไล่ตามตลาดอย่างไร้ทิศทาง…
-
GDP คืออะไร? ทำไมตัวเลข GDP จึงมีความสำคัญในตลาด Forex
GDP คือ ? Gross Domestic Product หรือ GDP คือ ค่ารวมของสินค้าและบริการทั้งหมดที่ผลิตภายในประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง โดยการคำนวณ GDP จะสามารถบอกได้ถึงสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ ว่ามีความเจริญก้าวหน้าเพียงใด การวัดตัวเลข GDP นี้ถือเป็นเครื่องมือที่นักเศรษฐศาสตร์ รัฐบาล และนักลงทุนต่าง ๆ ใช้เพื่อเข้าใจภาพรวมของเศรษฐกิจของประเทศ คำนิยามของ GDP GDP เป็นตัวชี้วัดความสามารถในการผลิตของประเทศ โดยจะรวมทุกสินค้าและบริการที่ผลิตขึ้นภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตภายในภาคเอกชน ภาครัฐบาล หรือจากภาคครัวเรือน ตัวเลข GDP ที่สูงแสดงให้เห็นถึงความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่ตัวเลขที่ต่ำหรือเติบโตช้าสามารถบ่งบอกถึงปัญหาทางเศรษฐกิจได้ ประเภทของ GDP: Nominal GDP vs Real GDP Nominal GDP คือการคำนวณ GDP โดยไม่คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้า ซึ่งหมายความว่ามีการรวมอัตราเงินเฟ้อเข้ามาด้วย ในทางตรงกันข้าม Real GDP จะถูกปรับค่าเงินเฟ้อออก ทำให้สามารถแสดงให้เห็นถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริงเมื่อเทียบกับปีก่อน ๆ ดังนั้น Real GDP…
-
กิจวัตรประจำวันของเทรดเดอร์ Forex ที่ประสบความสำเร็จ
การเป็น เทรดเดอร์ Forex ที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่เพียงแค่การมีทักษะในการวิเคราะห์ตลาดที่ยอดเยี่ยม แต่ยังขึ้นอยู่กับการจัดการเวลา การวางแผน การรักษาสุขภาพ และการพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ กิจวัตรประจำวันที่มีระบบจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในระยะยาว นี่คือภาพรวมของกิจวัตรประจำวันของเทรดเดอร์ Forex ที่ประสบความสำเร็จ การเริ่มต้นวันใหม่อย่างมีเป้าหมาย ทุกวันที่ดีของเทรดเดอร์เริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน เป้าหมายเหล่านี้อาจจะเป็นทั้งเป้าหมายการเทรดหรือการพัฒนาตนเอง การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เทรดเดอร์มีทิศทางและโฟกัสที่ดีในการเทรด การวางแผนการเทรดและการวิเคราะห์ตลาด หนึ่งในขั้นตอนสำคัญในกิจวัตรประจำวันของ เทรดเดอร์ Forex ที่ประสบความสำเร็จคือการวางแผนการเทรดในแต่ละวัน การตรวจสอบกราฟ การวิเคราะห์แนวโน้ม และการวางแผนสำหรับการเข้าออกการเทรดเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ การเช็คข่าวสารและปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเช็คข่าวสารและปัจจัยทางเศรษฐกิจที่สำคัญในแต่ละวัน เช่น การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ หรือข่าวสำคัญที่อาจส่งผลต่อตลาด จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว การจัดการความเสี่ยงและพอร์ตโฟลิโอ การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง การกำหนดขนาดของการเทรด การตั้งจุดตัดขาดทุน และการกระจายความเสี่ยงล้วนเป็นปัจจัยที่ช่วยให้การเทรดมีความปลอดภัยและยั่งยืน การใช้ Money Management เพื่อเพิ่มผลตอบแทน การใช้เทคนิค Money Management เพื่อควบคุมการลงเงินในแต่ละการเทรด จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการสร้างกำไร การกำหนดจำนวนเงินที่เทรดแต่ละครั้งและการบริหารจัดการกำไรขาดทุนเป็นขั้นตอนที่สำคัญ การวิเคราะห์ผลลัพธ์การเทรดและการปรับปรุงแผน เทรดเดอร์ที่ดีจะไม่ลืมที่จะทบทวนการเทรดของตัวเองหลังจากสิ้นสุดวัน วิเคราะห์ว่าการตัดสินใจในแต่ละครั้งถูกต้องหรือไม่ หากพบข้อผิดพลาดก็จะทำการปรับปรุงแผนและเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น การรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจ การมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอช่วยลดความเครียดและส่งเสริมสมาธิในการทำงาน การพักผ่อนและการออกกำลังกาย การพักผ่อนให้เพียงพอและการออกกำลังกายเป็นส่วนสำคัญในการรักษาสมดุลของร่างกาย เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จจะให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มพลังงานและลดความเครียดจากการเทรด…
-
Myfxbook คืออะไร? การใช้งานเพื่อพัฒนากลยุทธ์การเทรด
การเทรด Forex เป็นตลาดการเงินที่มีความซับซ้อนและการสร้างกลยุทธ์ที่เหมาะสมสามารถทำให้นักเทรดประสบความสำเร็จได้ แต่การวิเคราะห์และติดตามผลการเทรดเป็นกระบวนการที่ยุ่งยาก นั่นเป็นที่มาของ Myfxbook ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยนักเทรดในการจัดการและพัฒนากลยุทธ์การเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย Myfxbook มีฟีเจอร์หลากหลายที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามและวิเคราะห์ผลการเทรดได้แบบเรียลไทม์ ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้ถึง Myfxbook คืออะไร และวิธีการใช้งานเพื่อพัฒนากลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสม Myfxbook คืออะไร? Myfxbook เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ออกแบบมาเพื่อให้นักเทรดสามารถติดตามผลการเทรด วิเคราะห์ข้อมูล และเปรียบเทียบผลลัพธ์การเทรดของตนเองกับนักเทรดคนอื่น ๆ ทั่วโลกได้ มันทำงานได้โดยการเชื่อมต่อกับบัญชีเทรดที่ใช้งานผ่านโปรแกรม MetaTrader 4 (MT4) หรือ MetaTrader 5 (MT5) นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สำคัญเช่น การคัดลอกการเทรด (Copy Trading) ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถเรียนรู้และประยุกต์ใช้กลยุทธ์จากผู้ที่ประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น ประวัติความเป็นมาของ Myfxbook My fxbook เปิดตัวครั้งแรกในปี 2009 โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้นักเทรดสามารถติดตามการเทรดและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างง่ายดาย ในระยะแรกๆ My fxbook เริ่มต้นด้วยการให้บริการฟรีสำหรับการติดตามผลการเทรด และได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น ระบบการคัดลอกเทรด (Copy Trading) และการเปรียบเทียบโบรกเกอร์…
-
วิธีการหาจุดแนวรับแนวต้านที่มีประสิทธิภาพสำหรับมือใหม่
การเข้าใจ แนวรับแนวต้าน เป็นสิ่งสำคัญในการวิเคราะห์กราฟราคา โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นเทรด หลักการของแนวรับแนวต้านสามารถช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับความผันผวนของตลาดและตำแหน่งที่เหมาะสมในการเข้าและออกจากตลาด การเข้าใจแนวรับแนวต้านอย่างถูกต้องจะช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และยังเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการเทรดอีกด้วย แนวรับแนวต้านคืออะไร? แนวรับ (Support) คือระดับราคาที่ราคาสินทรัพย์มีแนวโน้มที่จะหยุดการลดลง เนื่องจากความต้องการ (Buyers) มากขึ้น เมื่อราคาลงมาถึงระดับแนวรับ ผู้ซื้อจะเริ่มเข้ามาซื้อสินทรัพย์ ส่งผลให้ราคายกขึ้น แนวต้าน (Resistance) คือระดับราคาที่ราคาสินทรัพย์มีแนวโน้มที่จะหยุดการเพิ่มขึ้น เนื่องจากการขาย (Sellers) มากขึ้น เมื่อราคาขึ้นมาถึงระดับแนวต้าน ผู้ขายจะเริ่มปล่อยสินทรัพย์ ส่งผลให้ราคาลดลง แนวรับแนวต้านเหล่านี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค เพราะช่วยบอกให้ทราบถึงทิศทางของตลาด และบอกให้รู้ถึงความต้องการของผู้ซื้อและผู้ขายในตลาดในช่วงเวลาหนึ่งๆ ความสำคัญของแนวรับแนวต้านในการวิเคราะห์ทางเทคนิค การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นวิธีที่ใช้ข้อมูลจากราคาย้อนหลังในการพยากรณ์ทิศทางราคาที่จะเกิดขึ้น แนวรับและแนวต้านช่วยในการบอกสัญญาณเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน เมื่อนักเทรดเห็นแนวรับ แนวต้านในกราฟราคา พวกเขาสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการวางแผนการซื้อขายเพื่อเข้าออกตลาดอย่างแม่นยำ ทำไมมือใหม่ควรรู้จักแนวรับแนวต้าน? มือใหม่ที่เริ่มเข้าสู่การเทรดต้องการเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าใจการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ได้ง่ายขึ้น แนวรับและแนวต้านเป็นเครื่องมือที่ง่ายต่อการทำความเข้าใจ และยังช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนมือใหม่ในการวิเคราะห์ทิศทางของตลาด เมื่อนักเทรดสามารถระบุจุดเหล่านี้ได้ พวกเขาก็สามารถใช้ประโยชน์จากการซื้อหรือขายที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร วิธีหาจุดแนวรับแนวต้านที่มีประสิทธิภาพ การหาจุดแนวรับและแนวต้านอาจไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใช้ความแม่นยำและการฝึกฝน การวิเคราะห์เหล่านี้ต้องการการใช้เครื่องมือหลายประเภทที่ทำให้การตัดสินใจทางเทคนิคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ใช้เส้นกราฟและเครื่องมือวิเคราะห์ การใช้กราฟเป็นวิธีการเบื้องต้นในการระบุแนวรับแนวต้าน การดูกราฟแท่งเทียนหรือกราฟเส้นจะช่วยให้นักเทรดเห็นชัดเจนว่าราคามีการเคลื่อนไหวอย่างไร การวาดเส้นตรงบริเวณที่ราคามีการหยุดลงหรือเด้งกลับหลายครั้งจะแสดงถึงแนวรับและแนวต้านที่สำคัญได้ การวาดเส้นแนวรับแนวต้านบนกราฟราคาหุ้น เมื่อต้องการวาดเส้นแนวรับแนวต้าน นักเทรดจะดูว่าราคามีการหยุดหรือตีกลับที่ระดับใดมากที่สุด โดยเลือกใช้จุดต่ำสุดหรือจุดสูงสุดที่ราคาวิ่งมาถึง การวาดเส้นแนวรับจะเริ่มจากจุดต่ำสุดที่ราคาหยุดและกลับขึ้น ส่วนเส้นแนวต้านจะวาดจากจุดสูงสุดที่ราคาหยุดและกลับลง…
-
แนวโน้มราคา GBPUSD ปี 2024: วิเคราะห์และคาดการณ์ทิศทาง
ค่าเงินปอนด์อังกฤษเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (GBPUSD) นับเป็นหนึ่งในคู่เงินสำคัญในตลาดการเงินโลก การเคลื่อนไหวของ GBPUSD ในปี 2024 มีแนวโน้มที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจทั่วโลก นโยบายการเงิน และเหตุการณ์สำคัญที่อาจเกิดขึ้นในทั้งสองประเทศนี้มีผลต่อการคาดการณ์ในอนาคต การวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มราคา GBP/USD เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้เข้าใจถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของคู่เงินนี้ ความสำคัญของ GBPUSD ในตลาดการเงินโลก คู่เงิน GBP/USD ถือว่าเป็นตัวแทนของเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดสองประเทศในโลก นั่นคือ สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ซึ่งหมายความว่าการเคลื่อนไหวของ GBP/USD มักจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองในทั้งสองประเทศ นักลงทุนในตลาดเงิน Forex มักจะพิจารณาคู่เงินนี้เป็นตัวเลือกสำคัญในการเก็งกำไรและการลงทุนระยะยาว การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการเงิน การขึ้นลงของอัตราดอกเบี้ย การเติบโตทางเศรษฐกิจ ตลอดจนการพัฒนาทางการค้าและการเมืองโลก ล้วนมีผลกระทบต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของ GBP/USD การทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อ GBPUSD ในปี 2024 ในปี 2024 มีหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงิน GBP/USD ทั้งจากสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศและปัจจัยภายนอก นโยบายการเงินของธนาคารกลางในทั้งสองประเทศจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดแนวโน้มและทิศทางของค่าเงิน นโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของค่าเงินปอนด์ การประกาศนโยบายการเงินต่างๆ เช่น การปรับขึ้นหรือลดอัตราดอกเบี้ย มีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินในระดับที่มีนัยสำคัญ การปรับอัตราดอกเบี้ยและการส่งผลต่อ…
-
กลยุทธ์การลงทุน XAUUSD ประจำวันที่ 30 ก.ย. 2567
D1 / H4 เป็นมุมมองขาขึ้น แต่ยังไม่มีสัญญาณการกลับตัว จึงเป็นไปได้ที่ราคาอาจย่อตัวลงมาและดีดตัวขึ้นอีกเพื่อสร้างสัญญาณการกลับตัว H1 ราคาชนกรอบเทรนไลน์ขาขึ้นที่ระดับ 2678 – 2685 ณ ปัจจุบันราคาวิ่งอยู่ในกรอบ Sideway Down ที่กรอบราคา 2666 – 2643 คำแนะนำ เปิดสถานะซื้อ (ดูสัญญาณซื้อ) ที่กรอบแนวรับ 2648-2643 /SL 2640 เพื่อทำกำไรที่เป้า 2661 / 2670 เปิดสถานะขาย (ดูสัญญาณขาย) ที่กรอบแนวต้าน 2661 -2670 / SL 2675 เพื่อทำกำไร ที่เป้า 2648 / 2643 /2630 เปิดสถานะขาย (ดูสัญญาณขาย) ที่กรอบแนวต้าน 2678 -2685 / SL 2690 เพื่อทำกำไร ที่เป้า 2666…
-
กลยุทธ์การลงทุน GBPUSD ประจำวันที่ 30 ก.ย.67
D1 อยู่ในเทรนด์ขาขึ้น ณ ปัจจุบันมีสัญญาณการกลับตัว H4 อยู่ในเทรนด์ขาขึ้น สัญญาณกลับกลับตัวถูกทำลายไปแล้ว จึงมีโอกาสที่ราคาจะกลับขึ้นไปทดสอบ กรอบราคา 1.343 – 1.348 เพื่อสร้างสัญญาณใหม H1 ณ ปัจจุบันราคาอยู่ในจุดชนกรอบเทรนด์ไลน์ อยู่ในกรอบไซด์เวย์ 1.332 – 1.342 แนะนำ เสี่ยงเปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซื้อ)ที่กรอบ 1.332 -1.331 SL 1.320 TP 1.34 / 1.344 เสี่ยงเปิดสถานะขาย(รอสัญญาณขาย) ที่กรอบราคา 1.342 – 1.343 SL 1.35 TP 1.33 / 1.32 เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย)ที่กรอบ 1.344 -1.348 SL 1.350 TP 1.331 / 1.326 / 1.316 แนวรับ…
-
กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 30 ก.ย.67
D1 โครงสร้างขาลง กำลังขี้นมาทดสอบแนวรับที่ 61.8% ซึ่งเป็นโน Supply Day ซึ่งไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ H4 /H1 วิ่งเป็นไซด์เวย์ภายในกรอบราคา 73.310 – 65.421 แนะนำ เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย) ที่กรอบ 70.11 -70.60 SL 71.5 ทำกำไรที่ 67.68 / 66.39 /65.421 แนวรับ 67.66 / 66.68/ 65.42 แนวต้าน 70.34 / 71.46 / 72.20
-
กลยุทธ์การลงทุน XAUUSD ประจำวันที่ 27 ก.ย. 2567
D1 / H4 เป็นมุมมองขาขึ้น แต่ยังไม่มีสัญญาณการกลับตัว จึงเป็นไปได้ที่ราคาอาจย่อตัวลงมาและดีดตัวขึ้นอีกเพื่อสร้างสัญญาณการกลับตัว H1 ราคาชนกรอบเทรนไลน์ขาขึ้นที่ระดับ 2678 – 2685 ณ ปัจจุบัน ราคามีโอกาสปรับย่อตัวลึก เพื่อดีดขึ้นไปต่อ คำแนะนำ เปิดสถานะซื้อ (ดูสัญญาณซื้อ) ที่แนวรับ 2637-2622 /SL 2620 เพื่อทำกำไรที่เป้า 2665 / 2670 / 2685 แนวรับ 2649 / 2637 /2522 แนวต้าน 2670/2685/2700 ปฏิทินข่าว วันที่ 27 กันยายน 2567 บทวิเคราห์ข่าว Core PCE Price ค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ซึ่งจะประกาศในคืนนี้ เป็นข่าวที่ต้องให้ความสนใจ เนื่องจาก การประชุม FMOC เมื่อคราวก่อน ส่งสัญญาณมาว่า จะมีการพิจารณา PCE ในเรื่องการปรับลดดอกเบี้ยในครั้งหน้า…
Got any book recommendations?