Mindblown: a blog about philosophy.
-
น้ำมันพุ่ง ทองบิน หลังสงครามตะวันออกกลางปะทุ
นักลงทุนแห่เข้าซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ลดลงในเอเชีย ขณะที่ราคาทองคำยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยซื้อขายใกล้เคียงกับระดับแข็งค่าที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับยูโร เศรษฐกิจมหภาคยังหนุนดอลลาร์ด้วย โดยตลาดงานของสหรัฐฯ ที่มีความยืดหยุ่นสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน และแนวโน้มเงินเฟ้อของเขตยูโรสนับสนุนให้ธนาคารกลางยุโรปผ่อนคลายนโยบายในเดือนนี้ ดัชนี Nikkei .N225ของญี่ปุ่น ร่วงลง 1.5% เมื่อเวลา 0022 GMT ขณะที่ดัชนี KOSPI .KS11ของเกาหลีใต้ร่วงลง 1.3% และดัชนี.AXJO ของออสเตรเลีย ร่วงลง 0.3% ดัชนี MSCI ที่กว้างที่สุดของหุ้นเอเชียแปซิฟิก. MIAP00000PUS ลดลงประมาณ 0.5% ตลาดหุ้นฮ่องกง Hang Seng HSIยังไม่เปิดทำการหลังจากหยุดยาวในวันอังคาร ตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ปิดทำการเนื่องในวันหยุดยาว 1 สัปดาห์ ส่วนการซื้อขายในไต้หวันถูกระงับเนื่องจากพายุไต้ฝุ่น ดัชนีหุ้น S&P 500 ของสหรัฐในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าEScv1ร่วงลง 0.16% หลังจากดัชนีเงินสด.SPXร่วงลง 0.9% เมื่อคืนที่ผ่านมา “ในห่วงโซ่ของความผันผวนของตลาดที่อาจเกิดขึ้นได้นั้น ภูมิรัฐศาสตร์มักจะมีความสำคัญเหนือกว่าเศรษฐกิจ รายได้ขององค์กร หรือการตอบสนองของธนาคารกลาง เนื่องจากผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ขาดความรู้ด้านการกำหนดราคาความเสี่ยงเกี่ยวกับเหตุการณ์เหล่านี้” คริส เวสตัน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Pepperstone…
-
กลยุทธ์การลงทุน XAUUSD ประจำวันที่ 1 ต.ค. 2567
D1 / H4 เป็นมุมมองขาขึ้น แต่ยังไม่มีสัญญาณการกลับตัว จึงเป็นไปได้ที่ราคาอาจย่อตัวลงมาและดีดตัวขึ้นอีกเพื่อสร้างสัญญาณการกลับตัวในอนาคต H1 ราคาชนกรอบเทรนไลน์ขาขึ้นที่ระดับ 2678 – 2685 ณ ปัจจุบันราคาวิ่งอยู่ในกรอบ Sideway Down ที่กรอบราคา 2666 – 2643 คำแนะนำ เปิดสถานะขาย (ดูสัญญาณขาย) ที่กรอบแนวต้าน 2650 -2656 / SL 2670 เพื่อทำกำไร ที่เป้า 2630 / 2623 /2615 เปิดสถานะขาย (ดูสัญญาณขาย) ที่กรอบแนวต้าน 2661 -2667 / SL 2670 เพื่อทำกำไร ที่เป้า 2630 /2623 / 2615 แนวรับ 2630 / 2625 /2615 แนวต้าน 2661/…
-
กลยุทธ์การลงทุน GBPUSD ประจำวันที่ 1 ต.ค. 67
D1 อยู่ในเทรนด์ขาขึ้น ณ ปัจจุบันมีสัญญาณการกลับตัว H4 อยู่ในเทรนด์ขาขึ้น สัญญาณกลับกลับตัวถูกทำลายไปแล้ว จึงมีโอกาสที่ราคาจะกลับขึ้นไปทดสอบ กรอบราคา 1.343 – 1.348 เพื่อสร้างสัญญาณใหม H1 ณ ปัจจุบันราคาอยู่ในจุดชนกรอบเทรนด์ไลน์ อยู่ในกรอบไซด์เวย์ 1.332 – 1.342 แนะนำ เสี่ยงเปิดสถานะขาย(รอสัญญาณขาย) ที่กรอบราคา 1.342 – 1.343 SL 1.350 TP 1.337 / 1.335 / 1.330 แนวรับ 1.335 / 1.350 / 1.326แนวต้าน 1.342/1.350 /1.358
-
กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 1 ต.ค.67
D1 โครงสร้างขาลง กำลังขี้นมาทดสอบแนวรับที่ 61.8% ซึ่งเป็นโน Supply Day ซึ่งไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ H4 /H1 วิ่งเป็นไซด์เวย์ภายในกรอบราคา 70.00 – 67.62 แนะนำ เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย) ที่กรอบ 69.253 -70.00 SL 71.5 ทำกำไรที่ 67.68 / 66.39 /65.421 แนวรับ 68.25 / 67.61 / 66.35 แนวต้าน 69.25 / 70.00 / 71.00
-
แนวโน้มราคาน้ำมันโลกและผลกระทบต่อการเทรดในตลาด Forex
ราคาน้ำมันโลกมีผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลก ตลาดน้ำมันเป็นหนึ่งในตลาดที่มีความผันผวนสูงที่สุด โดยราคาได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัย ทั้งการผลิต การส่งออก ความต้องการในระดับโลก และเหตุการณ์ทางการเมือง การเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันโลกนี้ยังส่งผลโดยตรงต่อการ เทรดน้ำมัน ซึ่งเทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จากความผันผวนนี้ในการทำกำไร แต่ก็ควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง ภาพรวมของตลาดน้ำมันโลก การเคลื่อนไหวของราคาน้ำมัน ราคาน้ำมันมีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงและบ่อยครั้งตามปัจจัยต่างๆ ทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคา ในขณะที่ปัจจัยอื่นๆ เช่น การผลิต การเมือง และสถานการณ์ในภูมิภาคต่างๆ ก็ส่งผลโดยตรงต่อการเคลื่อนไหวของราคา ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาน้ำมัน มีหลายปัจจัยที่กำหนดราคาน้ำมัน เช่น การเติบโตทางเศรษฐกิจโลก การบริโภคพลังงานในประเทศที่เป็นผู้ใช้พลังงานรายใหญ่ และการผลิตน้ำมันจากประเทศที่เป็นผู้ผลิตหลัก นอกจากนี้ เหตุการณ์สำคัญเช่น สงคราม การประท้วง หรือการขัดแย้งทางการเมืองก็สามารถทำให้ราคาน้ำมันผันผวนได้ การผลิตและการส่งออกน้ำมัน ประเทศที่เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ เช่น ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย มีอิทธิพลต่อการกำหนดปริมาณการผลิตน้ำมันในโลก การที่มีการเพิ่มหรือลดการผลิตของประเทศเหล่านี้สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงราคาในตลาดโลกได้อย่างรวดเร็ว บทบาทของ OPEC องค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) เป็นกลุ่มประเทศที่ควบคุมการผลิตและส่งออกน้ำมัน OPEC มีหน้าที่ในการควบคุมปริมาณน้ำมันในตลาดเพื่อลดความผันผวนของราคา โดยการทำข้อตกลงเกี่ยวกับการลดหรือเพิ่มการผลิตในช่วงเวลาที่จำเป็น ความต้องการน้ำมันในโลก ความต้องการใช้น้ำมันเป็นสิ่งที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเติบโต เช่น จีนและอินเดีย…
-
บัญชีทดลองและบัญชีจริง: ความแตกต่างที่คุณควรรู้
การเทรดออนไลน์เป็นวิธีหนึ่งในการสร้างรายได้ที่หลายคนสนใจ แต่ก่อนที่คุณจะก้าวเข้าสู่โลกแห่งการเทรดด้วยเงินจริง สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจกับประเภทของบัญชีที่คุณสามารถใช้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “บัญชีทดลอง”หรือ ทดลองเทรดฟรี และ “บัญชีจริง” ซึ่งทั้งสองประเภทมีจุดประสงค์และคุณสมบัติที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ในบทความนี้ เราจะอธิบายความแตกต่างระหว่างบัญชีทดลองและบัญชีจริง พร้อมกับเคล็ดลับการเตรียมตัวเพื่อให้คุณพร้อมสำหรับการเทรดที่ประสบความสำเร็จ 1. ทดลองเทรดฟรี : ทำความรู้จักกับบัญชีทดลอง บัญชีทดลอง หรือที่รู้จักกันว่า “บัญชีเดโม” เป็นบัญชี ทดลองเทรดฟรี ที่โบรกเกอร์ให้บริการสำหรับการทดลองเทรดโดยใช้เงินเสมือนจริง นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเทรดมือใหม่ในการฝึกฝนทักษะและทำความรู้จักกับแพลตฟอร์มการเทรดโดยไม่ต้องเสี่ยงกับเงินจริง บัญชีทดลองคืออะไร? บัญชีทดลองเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับผู้ที่เริ่มต้นในการเทรดออนไลน์ มันช่วยให้นักเทรดสามารถเรียนรู้การใช้งานแพลตฟอร์ม ทดสอบกลยุทธ์ และฝึกทักษะการตัดสินใจในการซื้อขายสินทรัพย์ต่าง ๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการขาดทุน วิธีการเปิดบัญชีทดลอง การเปิดบัญชีทดลองทำได้ง่ายดายและรวดเร็ว เพียงลงทะเบียนกับโบรกเกอร์ที่คุณเลือก โบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะเสนอเงินเสมือนที่ใช้ในการเทรดในสภาพแวดล้อมจำลอง คุณสามารถฝึกฝนได้ทุกเมื่อ จนกว่าจะมั่นใจในทักษะและกลยุทธ์การเทรดของคุณ 2. การเทรดในบัญชีจริง: ความเสี่ยงและโอกาส เมื่อคุณพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่การเทรดด้วยเงินจริง คุณจะต้องทำความรู้จักกับ บัญชีจริง ซึ่งเป็นบัญชีที่ใช้เงินของคุณในการซื้อขายสินทรัพย์ การเทรดในบัญชีจริงอาจมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงกว่า แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นโอกาสที่ดีในการสร้างกำไรจริง บัญชีจริงคืออะไร? บัญชีจริงคือบัญชีที่นักเทรดใช้เงินทุนของตนเองเพื่อทำการซื้อขายสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น หุ้น, ค่าเงิน, สินค้าโภคภัณฑ์ และอื่น ๆ…
-
เงินบาทแข็งค่าดีหรือไม่? ความเสี่ยงและโอกาสสำหรับนักลงทุนและการเทรด
การแข็งค่าของสกุลเงินในประเทศถือเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการวิเคราะห์เศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้น ผู้เทรดเงินตราต่างประเทศ หรือผู้ประกอบการส่งออกและนำเข้า ทุกคนต่างต้องเผชิญกับผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงิน แล้ว เงินบาทแข็งค่า ดีหรือไม่? คำถามนี้จึงไม่ได้มีคำตอบที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับมุมมองและสถานการณ์เฉพาะตัวของแต่ละภาคส่วน ทั้งนี้ บทความนี้จะเจาะลึกถึงโอกาสและความเสี่ยงจากเงินบาทที่แข็งค่าสำหรับนักลงทุนและนักเทรด รวมถึงแนวทางการปรับตัวที่เหมาะสมเพื่อรองรับผลกระทบในระยะสั้นและยาว เงินบาทแข็งค่าคืออะไร? การแข็งค่าของเงินบาท หมายถึงสถานการณ์ที่ค่าเงินบาทเพิ่มมูลค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ โดยปกติแล้วสถานการณ์เช่นนี้มักเกิดขึ้นจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเกินดุลบัญชีเดินสะพัด หรือการเพิ่มขึ้นของการลงทุนจากต่างประเทศในประเทศไทย ซึ่งทำให้มีความต้องการเงินบาทสูงขึ้น อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างมีนัยสำคัญคืออัตราดอกเบี้ยในประเทศที่สูงกว่าประเทศอื่น ทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจนำเงินเข้ามาลงทุน ปัจจัยที่ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่า เงินบาทอาจแข็งค่าขึ้นจากหลากหลายปัจจัย เช่น นโยบายการเงินและการคลังที่มั่นคง อัตราเงินเฟ้อต่ำ รวมถึงการเกินดุลการค้า ซึ่งไทยมีการส่งออกสินค้าประเภทเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมในระดับสูงเป็นปัจจัยหนุน ทั้งนี้ ความต้องการเงินบาทจากต่างประเทศในช่วงที่เศรษฐกิจโลกเติบโตทำให้เงินทุนไหลเข้าประเทศ ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งตัวขึ้น บทบาทของนโยบายการเงินและเศรษฐกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทผ่านนโยบายการเงิน โดยการปรับขึ้นหรือลงของอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ การสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในประเทศยังเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมค่าเงินไม่ให้เกิดความผันผวนเกินไปจนกระทบต่อเศรษฐกิจ เงินบาทแข็งค่ากับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ค่าเงินบาทที่แข็งค่าเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงสถานะทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของประเทศไทยในช่วงหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ความแข็งค่าของเงินบาทอาจมีผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในตลาดโลก โดยเฉพาะเมื่อสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคอ่อนค่าลง นอกจากนี้ ตลาดการเงินระหว่างประเทศยังมีบทบาทสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาท การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักของไทย เช่น จีน ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ก็มีผลกระทบต่อค่าเงินบาทเช่นกัน การเปลี่ยนแปลงในตลาดการเงินระหว่างประเทศ…
-
การใช้กราฟแท่งเทียนกลับตัวร่วมกับแนวรับแนวต้าน
การเทรดในตลาดการเงิน ไม่ว่าจะเป็นฟอเร็กซ์ หุ้น หรือทองคำ มีเครื่องมือหลายอย่างที่ช่วยให้เราวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในเครื่องมือที่นิยมใช้มากที่สุดคือ “กราฟแท่งเทียน” โดยเฉพาะ “แท่งเทียนกลับตัว” ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม การใช้กราฟแท่งเทียนกลับตัวร่วมกับ “แนวรับแนวต้าน” สามารถช่วยให้นักลงทุนวางแผนการเทรดได้แม่นยำยิ่งขึ้น และลดความเสี่ยงในการตัดสินใจผิดพลาด แท่งเทียนกลับตัวคืออะไร แท่งเทียนกลับตัว (Reversal Candlestick) เป็นกราฟที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของทิศทางราคาที่ชัดเจน หากราคาอยู่ในช่วงขาขึ้น (Uptrend) แต่แท่งเทียนกลับตัวปรากฏขึ้น นั่นหมายความว่าราคากำลังจะเปลี่ยนทิศทางเข้าสู่ช่วงขาลง (Downtrend) และในทำนองเดียวกัน หากตลาดกำลังเป็นขาลง แต่พบแท่งเทียนกลับตัว ก็เป็นสัญญาณว่าราคากำลังจะพลิกกลับสู่แนวโน้มขาขึ้น ตัวอย่างของแท่งเทียนกลับตัวที่เราควรรู้จักได้แก่: การทำความเข้าใจแท่งเทียนเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นของการวางแผนการเทรดที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อนำมาใช้ร่วมกับแนวรับแนวต้าน ประเภทของแท่งเทียนกลับตัว การแยกประเภทของแท่งเทียนกลับตัวจะช่วยให้เรารู้ว่าสัญญาณที่เห็นนั้นเป็นสัญญาณซื้อ (Bullish Reversal) หรือสัญญาณขาย (Bearish Reversal) ซึ่งมีความสำคัญต่อการตัดสินใจเทรด ดังนี้: การเรียนรู้และจดจำลักษณะของแต่ละประเภทของแท่งเทียนจะช่วยให้เราเข้าใจสภาวะตลาด และทำให้เราสามารถวางแผนได้ดีขึ้น วิธีการอ่านกราฟแท่งเทียนในตลาด Forex ในตลาด Forex การอ่านกราฟแท่งเทียนเป็นหนึ่งในทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่ง หากคุณสามารถอ่านกราฟและตีความแท่งเทียนได้อย่างถูกต้อง คุณจะสามารถวิเคราะห์แนวโน้มและจับจังหวะที่เหมาะสมในการเทรดได้ง่ายขึ้น โดยทั่วไปแล้ว กราฟแท่งเทียนมี 4 ข้อมูลที่สำคัญที่เราต้องให้ความสำคัญคือ: การเปรียบเทียบข้อมูลเหล่านี้ในแต่ละแท่งเทียนจะช่วยให้เราวิเคราะห์ทิศทางและแรงซื้อขายของตลาด นอกจากนี้…
-
5 ประเภทของ Liquidity Provider ที่นักลงทุนควรรู้จัก
Liquidity Provider คืออะไร? Liquidity Provider คือผู้ให้บริการสภาพคล่องในตลาดการเงิน โดยพวกเขาจะทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อให้มีสภาพคล่องในตลาดตลอดเวลา หากไม่มี Liquidity Provider ตลาดการซื้อขายสินทรัพย์อาจมีปัญหาด้านสภาพคล่องและความผันผวนสูง เนื่องจากขาดแคลนผู้ซื้อหรือผู้ขายที่พร้อมจะดำเนินธุรกรรมในทุกเวลา บทบาทของ Liquidity Provider ในตลาดการเงิน Liquidity Provider ทำหน้าที่เติมเต็มคำสั่งซื้อหรือขายที่เกิดขึ้นในตลาดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยให้การซื้อขายสินทรัพย์ต่างๆ สามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ LiquidityProvider ยังช่วยลดความผันผวนของราคาเนื่องจากสามารถรองรับคำสั่งซื้อขายขนาดใหญ่ได้ ทำไม Liquidity Provider ถึงสำคัญสำหรับนักลงทุน? นักลงทุนที่ทำการซื้อขายในตลาดการเงินจะต้องพึ่งพา Liquidity Provider เพื่อให้สามารถเข้าถึงสภาพคล่องได้อย่างรวดเร็วและมีราคาที่เหมาะสม การมี Liquidity Provider ที่ดีจะทำให้ราคาซื้อขายไม่ผันผวนเกินไปและช่วยให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้มากขึ้น ประเภทของ Liquidity Provider 1. Tier 1 Liquidity Providers Tier 1 Liquidity Providers เป็นผู้ให้บริการสภาพคล่องระดับสูงสุด โดยส่วนใหญ่จะเป็นธนาคารขนาดใหญ่และสถาบันการเงินระดับโลก เช่น Goldman Sachs, JP Morgan…
-
คู่มือสอนเทรด Forex สำหรับผู้เริ่มต้น ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้
การเทรด Forex หรือการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เป็นหนึ่งในตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดและมีความนิยมสูงมากสำหรับนักลงทุนทั่วโลก หากคุณเป็นมือใหม่บทคว่ทนี้มีแนวทางการเรียนรู้หรือ สอนเทรด Forex ตั้งแต่เริ่มต้น และแนวทางที่เป็นพื้นฐานเพื่อให้คุณมีความเข้าใจและเตรียมพร้อมในการเทรด Forex คืออะไร? คำจำกัดความและความหมายของ Forex Forex (Foreign Exchange) หมายถึงการซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศ โดยการทำกำไรจะมาจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดการเงินทั่วโลก ซึ่งการซื้อขายสามารถเกิดขึ้นได้ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ ทำไมการเทรด Forex ถึงเป็นที่นิยม? ตลาด Forex มีความยืดหยุ่นสูงเนื่องจากเป็นตลาดการเงินที่เปิดตลอดเวลา การใช้เงินลงทุนเริ่มต้นที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดอื่น ๆ และการเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับการวิเคราะห์เทคนิคและปัจจัยพื้นฐานทำให้การเทรดง่ายขึ้น สอนเทรด Forex ตั้งแต่เริ่มต้น ขั้นตอนแรกในการเทรด Forex การเลือกโบรกเกอร์ การเลือกโบรกเกอร์เป็นขั้นตอนสำคัญ โบรกเกอร์จะเป็นตัวกลางในการซื้อขาย คุณควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตและได้รับการควบคุมจากหน่วยงานการเงินที่เชื่อถือได้ เช่น FCA (UK) หรือ CySEC (Cyprus) การเปิดบัญชีเทรด หลังจากเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเปิดบัญชีเทรด โดยทั่วไปจะมีการเปิดบัญชีแบบทดลอง (Demo) และบัญชีเงินจริง (Live) การเริ่มต้นด้วยบัญชีทดลองเป็นสิ่งที่แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นเพื่อฝึกฝนการเทรดโดยไม่ต้องเสี่ยงกับเงินจริง…
Got any book recommendations?