Mindblown: a blog about philosophy.

  • กลยุทธ์การลงทุน XAUUSD ประจำวันที่ 28 ต.ค. 2567

    กลยุทธ์การลงทุน XAUUSD ประจำวันที่ 28 ต.ค. 2567

    D1 ยังคงเป็นเทรนด์ขาขึ้น สร้าง ATH ที่ราคา 2758 ปรากฎสัญญาณ Bearish Divergence H4 โครงสร้างเทรนด์ขาขึ้นระยะสั้น หลังราคาดีดตัวขึ้น มีการเทขายทำกำไรสลับเข้ามาในระดับสูง H1 ราคาวิ่งเป็น Sideway ในกรอบ 2747 -2717 เปิดตลาดเอเซียมีแรงเทขาย อันเนื่องมาจาก ความต้องการ USD และ Bond สูงขึ้น คำแนะนำ แนวรับ 2717.00 / 2707.44 /2795.00 แนวต้าน 2747.21 /2758.83 /2765.00

  • กลยุทธ์การลงทุน GBPUSD ประจำวันที่ 28 ต.ค. 67

    กลยุทธ์การลงทุน GBPUSD ประจำวันที่ 28 ต.ค. 67

    D1 สิ้นสุดเทรนด์ขาขึ้น Day1 ราคาปิดต่ำกว่า 1.300 H4 อยู่ในเทรนด์ขาลง ราคาเคลื่อนที่ชนกรอบเทรนด์ไลน์ขาลง และเกิดสัญญาณกลับตัว Bearish Divergence ราคาร่วงลงมาปิดที่ระดับต่ำกว่า low เดิม 1.294 H1 อยู่ในเทรนด์ขาลงเคลื่อนที่อยู่ในกรอบ Sideway ที่กรอบ 1.29420- 1.29984 มีโอกาสเคลื่อนที่ขึ้นเพื่อลงตอ ในระดับ Quasimodo level คำแนะนำ แนวรับ 1.29355 /1.29108 /1.28712 แนวต้าน 1.29763 /1.30006 /1.30350

  • กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 28 ต.ค.67

    กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 28 ต.ค.67

    D1 โครงสร้างเทรนด์ขาลง ไม่สามารถปิดเหนือราคาที่ 78.011ได้สำเร็จ เปิดตลาดมีการเทขาย – 4% อันเนื่องมาจากมีความต้องการ USD มากในช่วงเปิดทำการตลาดเอเซีย H4 โครงสร้างเทรนด์ขาขึ้นระยะสั้นสิ้นสุดลง ราคาไม่สามารถผ่านช่วงกรอบ Supply (FVG H4) ที่กรอบราคา 73.620 – 72.165 ขึ้นไปได้ ประกอบกับเกิดสัญญาณ Bearish Divergence เกิดแรงเทขายอย่างต่อเนื่อง ราคาปรับขึ้นที่ระดับ Quasimodo Level 78.6 % และร่วงลง (ตามคาด) ปัจจุบันราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ Demand H4 (69.580 -68.735) และมีโอกาสที่จะร่วงลงต่อ เพื่อทดสอบแนวรับ ที่กรอบราคา67.626 – 66.911 H1 โครงสร้างราคาเป็นเทรนด์ขาลง มีการทำ QM Pattern ร่วงลง ณ ปัจจุบัน ยังคงมี Momentum ฝั่งขายอยู่ จึงมีโอกาสที่ราคาจะร่วงลงต่อ คำแนะนำ…

  • กลยุทธ์การลงทุน XAUUSD ประจำวันที่ 25 ต.ค. 2567

    กลยุทธ์การลงทุน XAUUSD ประจำวันที่ 25 ต.ค. 2567

    D1 ยังคงเป็นเทรนด์ขาขึ้น สร้าง ATH ที่ราคา 2758 ปรากฎสัญญาณ Bearish Divergence H4 โครงสร้างเทรนด์ขาขึ้นระยะสั้น มีโอกาสสร้างแพทเทรินกลับตัว Quasimodo เพื่อลงต่อ H1 สิ้นสุดโครงสร้างเทรนด์ขาขึ้นระยะสั้น ราคาวิ่งเป็น Sideway ในกรอบ 2742 -2721 วิ่งชนกรอบ QM Level ที 2739.89 -2747.76 และมีโอกาสอ่อนตัวลงต่อ คำแนะนำ แนวรับ 2709.88 / 2702.00 / 2695.43 แนวต้าน 2733.00 / 2739.00 /2747.00 บทวิเคราะห์ข่าว ติดตามสถานะการณ์การสู้รบในตะวันออกกลาง ส่งผลกับราคาทองคำซื้อเป็น Save Haven Currency ในสถาวะตลาดตึงเครียส แนะนำให้ปิดสถานะการซื้อ-ขาย ในวันนี้เพื่อป้องกันข่าวที่จะเกิดในเสาร์-อาทิตย์

  • กลยุทธ์การลงทุน GBPUSD ประจำวันที่ 25 ต.ค. 67

    กลยุทธ์การลงทุน GBPUSD ประจำวันที่ 25 ต.ค. 67

    D1 สิ้นสุดเทรนด์ขาขึ้น Day1 ราคาปิดต่ำกว่า 1.300 H4 อยู่ในเทรนด์ขาลง เคลื่อนที่ในกรอบเทรนด์ไลน์ขาลง H4 และปรากฎสัญญาณการกับตัวยอย่างต่อเนื่อง เคลื่อนที่ลงมาทดสอบแนวรับ Demand Day H1 อยู่ในเทรนด์ขาลงเคลื่อนที่อยู่ในกรอบ Sideway ที่กรอบ 1.29874 – 1.29498 เกิดสัญญาณการกลับตัว Bearish Divergence คำแนะนำ แนวรับ 1.29480 / 1.29355 /1.29009 แนวต้าน 1.29476 / 1.30012 /1.30209

  • กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 25 ต.ค.67

    กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 25 ต.ค.67

    D1 โครงสร้างเทรนด์ขาลง ไม่สามารถปิดเหนือราคาที่ 78.011ได้สำเร็จ และยังคงมีแรงขายระหว่างวันอย่างต่อเนื่อง H4 โครงสร้างเทรนด์ขาขึ้นระยะสั้นสิ้นสุดลง ราคาไม่สามารถผ่านช่วงกรอบ Supply (FVG H4) ที่กรอบราคา 73.620 – 72.165 ขึ้นไปได้ ประกอบกับเกิดสัญญาณ Bearish Divergence เกิดแรงเทขายอย่างต่อเนื่องและสามารถปิดราคาต่ำกว่า 70.594 มีโอกาสที่ราคาจะร่วงลงต่อได้อีก H1 โครงสร้างเทรนด์ขาขึ้นถูกทำลาย เกิดสัญญาณการกลับตัว Bearish Divergence ราคาร่วงลงปิดต่ำกว่า 70.594 มีโอกาสเกิด Quasimodo Pattern ได้ที่กรอบราคา 72.234 -71.797 คำแนะนำ แนวรับ 70.311 /69.809 / 69.572 แนวต้าน 71.384 / 72.012 / 72.38 บทวิเคราะห์ข่าว ราคาน้ำมันร่วงลงอย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องมาจากสต์อกน้ำมันดิบสูงมากเกินขาด 5.5 M (คาดการณ์ 0.9 M…

  • ทำความเข้าใจบัญชี Cent: วิธีเริ่มต้นการเทรดด้วยเงินทุนเล็ก ๆ แต่กำไรไม่น้อย

    ทำความเข้าใจบัญชี Cent: วิธีเริ่มต้นการเทรดด้วยเงินทุนเล็ก ๆ แต่กำไรไม่น้อย

    การเทรดในตลาด Forex กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือมืออาชีพต่างก็มองหาวิธีที่จะทำกำไรในตลาดการเงินนี้ หนึ่งในวิธีที่น่าสนใจและเหมาะสมกับผู้ที่มีเงินทุนจำกัดคือการเปิด บัญชี Cent ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถเริ่มต้นการเทรดด้วยเงินทุนเล็ก ๆ แต่ยังสามารถทำกำไรได้ไม่น้อย ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับบัญชี Cent รวมถึงวิธีการเริ่มต้นเทรดและเทคนิคสำคัญที่ช่วยให้การลงทุนในตลาด Forex ของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น บัญชี Cent คืออะไร บัญชี Cent คือประเภทของบัญชีเทรดที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถเริ่มต้นเทรดด้วยจำนวนเงินที่น้อยมาก ๆ โดยไม่ต้องเสี่ยงกับการลงทุนจำนวนมาก แต่ยังคงสามารถเข้าถึงตลาด Forex ได้เหมือนกับบัญชีเทรดแบบมาตรฐาน ความแตกต่างหลักของบัญชี Cent คือการคำนวณยอดเงินในบัญชีจะใช้หน่วย “เซนต์” แทนที่จะเป็นหน่วย “ดอลลาร์” ซึ่งทำให้คุณสามารถเทรดได้ด้วยเงินทุนเพียงไม่กี่ดอลลาร์ ข้อดีของการใช้บัญชี Cent 1. ลดความเสี่ยงในการลงทุน การเทรดด้วยบัญชี Cent ช่วยให้นักลงทุนสามารถลดความเสี่ยงได้อย่างมาก เนื่องจากเงินที่ใช้ในการเทรดเป็นจำนวนเล็กน้อย หากคุณเป็นนักเทรดมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ การเริ่มต้นด้วยเงินทุนน้อย ๆ ในบัญชี Cent จะช่วยลดความกดดันและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความผิดพลาด 2. ฝึกฝนและเพิ่มความมั่นใจ บัญชี Cent ช่วยให้นักเทรดได้ฝึกฝนทักษะและเทคนิคในการเทรดอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก เมื่อคุณมีความชำนาญมากขึ้น…

  • มาร์จิ้นในการเทรด: เครื่องมือที่ช่วยเพิ่มโอกาสหรือความเสี่ยง?

    มาร์จิ้นในการเทรด: เครื่องมือที่ช่วยเพิ่มโอกาสหรือความเสี่ยง?

    การเทรดในตลาดการเงินมีหลากหลายวิธี หนึ่งในเครื่องมือที่มีความนิยมและเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากก็คือ มาร์จิ้นในการเทรด มาร์จิ้นไม่ใช่เพียงแค่ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงตำแหน่งการซื้อขายที่ใหญ่ขึ้นได้ด้วยเงินที่น้อยลง แต่ยังมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงมาก มันจึงเป็นคำถามที่สำคัญว่า มาร์จิ้นในการเทรดเป็นเครื่องมือที่เพิ่มโอกาส หรือเพียงแค่เพิ่มความเสี่ยงในการลงทุน? มาร์จิ้นในการเทรดคืออะไร? มาร์จิ้น (Margin) คือการกู้ยืมเงินเพื่อใช้ในการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยที่นักลงทุนไม่ต้องใช้เงินของตนเองทั้งหมดในการทำธุรกรรม เมื่อนักลงทุนต้องการซื้อขายหลักทรัพย์ เช่น หุ้น พวกเขาสามารถใช้เงินมาร์จิ้นในการเข้าถึงปริมาณการลงทุนที่สูงขึ้นกว่าที่เงินทุนตนเองจะทำได้ ส่งผลให้นักลงทุนมีโอกาสทำกำไรสูงขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นก็สูงมากตามไปด้วย การทำงานของมาร์จิ้น: เปิดตำแหน่งการซื้อขายด้วยเงินที่กู้ยืม การทำงานของมาร์จิ้นเริ่มต้นจากการเปิดบัญชีมาร์จิ้นกับโบรกเกอร์ นักเทรดต้องฝากเงินเป็นหลักประกัน (Collateral) ซึ่งมักเรียกว่า Initial Margin จากนั้นโบรกเกอร์จะยืมเงินส่วนที่เหลือให้นักเทรดเพื่อเพิ่มขนาดของตำแหน่งการซื้อขาย สิ่งที่นักลงทุนควรทราบคือ เมื่อใช้มาร์จิ้น โอกาสทำกำไรอาจจะสูงขึ้น แต่ในทางกลับกัน ความเสียหายที่เกิดขึ้นหากการลงทุนไม่เป็นไปตามที่คาดก็จะเพิ่มขึ้นด้วย เลเวอเรจ (Leverage) กับมาร์จิ้น: ความสัมพันธ์ที่สำคัญ เลเวอเรจ (Leverage) คือสิ่งที่ช่วยให้มาร์จิ้นทำงานได้ เลเวอเรจเป็นการใช้เงินกู้ยืมจากโบรกเกอร์เพื่อเพิ่มปริมาณการลงทุน โดยอัตราส่วนเลเวอเรจมักแสดงเป็นตัวเลขเช่น 2:1, 5:1 หรือแม้แต่สูงถึง 100:1 ซึ่งหมายความว่าในอัตรา 100:1 คุณสามารถควบคุมสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงกว่าทุนที่คุณลงทุนถึง 100 เท่า ดังนั้นเลเวอเรจจึงช่วยให้มาร์จิ้นทำงานเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร แต่ในขณะเดียวกันมันก็เพิ่มความเสี่ยงทางการเงินอย่างมหาศาลเช่นกัน มาร์จิ้นเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างไร?…

  • MACD คืออะไร? อธิบายแบบง่ายๆ สำหรับมือใหม่หัดเทรด

    MACD คืออะไร? อธิบายแบบง่ายๆ สำหรับมือใหม่หัดเทรด

    MACD หรือ Moving Average Convergence Divergence คือหนึ่งในเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่นักลงทุนทั่วโลกนิยมใช้ โดยเฉพาะนักเทรดที่ต้องการศึกษาพฤติกรรมของตลาดและตัดสินใจในการซื้อขายหุ้นหรือตราสารการเงินอื่นๆ MACD นั้นสามารถช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจแนวโน้มของตลาดได้อย่างชัดเจนมากขึ้น โดยใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม MACD คืออะไร MACD ย่อมาจาก Moving Average Convergence Divergence เป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้เพื่อบ่งบอกแนวโน้มของตลาด โดยเฉพาะการบอกว่าตลาดกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด เครื่องมือนี้ถูกพัฒนาขึ้นในปี 1979 โดย Gerald Appel เพื่อใช้วัดความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สองชุด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถเห็นสัญญาณการซื้อและขายได้ง่ายขึ้น MACD ประกอบด้วยสององค์ประกอบหลัก คือ เส้น MACD และ เส้นสัญญาณ (Signal Line) โดยมีวิธีการคำนวณที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา ทำให้ MACD กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ง่ายต่อการเรียนรู้สำหรับมือใหม่ ส่วนประกอบของ MACD การจะเข้าใจ MACD อย่างลึกซึ้งนั้น ต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจส่วนประกอบหลักๆ ของมัน ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่: 1. เส้น MACD…

  • ทำไมสเปรด คือปัจจัยสำคัญที่นักเทรดมือใหม่ควรเข้าใจในการเริ่มต้นซื้อขาย

    ทำไมสเปรด คือปัจจัยสำคัญที่นักเทรดมือใหม่ควรเข้าใจในการเริ่มต้นซื้อขาย

    การเทรดในตลาดการเงิน เช่น ตลาดฟอเร็กซ์ (Forex) หรือหุ้น อาจดูซับซ้อนและท้าทายสำหรับนักเทรดมือใหม่ หนึ่งในคำศัพท์ที่คุณอาจพบเจอและควรทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้คือ “สเปรด” สเปรดไม่เพียงแค่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการซื้อขาย แต่ยังส่งผลต่อกำไรและขาดทุนของคุณในระยะยาว หากคุณกำลังเริ่มต้นการเทรด การทำความเข้าใจสเปรดจะเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ช่วยให้คุณตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สเปรดคืออะไร สเปรดคือความแตกต่างระหว่างราคาซื้อ (Bid) และราคาขาย (Ask) ของสินทรัพย์ที่คุณต้องการซื้อขาย โดยทั่วไป ราคาซื้อคือราคาที่คุณสามารถขายสินทรัพย์ได้ และราคาขายคือราคาที่คุณสามารถซื้อได้ ความต่างของราคาทั้งสองนี้คือ “สเปรด” ซึ่งมักจะถูกวัดเป็น “pip” หรือเปอร์เซ็นต์เล็กน้อยของการเคลื่อนไหวของราคาในตลาดฟอเร็กซ์ การทำความเข้าใจว่าสเปรดคืออะไรเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมันส่งผลโดยตรงต่อการคำนวณกำไรและขาดทุนจากการซื้อขายของคุณ สเปรดยิ่งกว้าง (สูง) ยิ่งทำให้คุณต้องจ่ายมากขึ้นเพื่อทำกำไรในแต่ละการซื้อขาย ซึ่งหมายความว่าการเลือกคู่เงินหรือสินทรัพย์ที่มีสเปรดต่ำอาจช่วยให้คุณลดค่าใช้จ่ายในการซื้อขาย ประเภทของสเปรด นักเทรดควรทำความเข้าใจว่าสเปรดมีอยู่สองประเภทหลัก: ทำไมสเปรดถึงสำคัญสำหรับนักเทรดมือใหม่ สำหรับนักเทรดมือใหม่ การทำความเข้าใจสเปรดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะสเปรดเป็นค่าใช้จ่ายพื้นฐานในการทำธุรกรรม หากไม่รู้จักคำนวณค่าใช้จ่ายเหล่านี้ คุณอาจประสบปัญหากับการทำกำไร นอกจากนี้ การรู้ว่าสเปรดส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อขายของคุณยังช่วยให้คุณสามารถเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมและบริหารจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น สเปรดต่ำกับกลยุทธ์การซื้อขายสั้นๆ หากคุณเป็นนักเทรดที่ชื่นชอบการซื้อขายแบบสั้นๆ (Scalping) การมองหาสินทรัพย์ที่มีสเปรดต่ำจะช่วยให้คุณทำกำไรได้มากขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ เนื่องจากคุณไม่ต้องจ่ายค่าสเปรดที่มากเกินไปในแต่ละครั้งที่คุณเปิดหรือปิดตำแหน่ง สเปรดสูงกับการซื้อขายระยะยาว ในขณะที่การซื้อขายแบบระยะสั้นอาจต้องการสเปรดต่ำ การซื้อขายระยะยาว (Position Trading) อาจจะไม่ต้องกังวลกับสเปรดมากเท่าใดนัก เนื่องจากเป้าหมายของคุณคือการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในระยะยาว ปัจจัยที่มีผลต่อสเปรด…

Got any book recommendations?