Category: education
-
วิธีใช้ Relative Strength Index (RSI) ในการเทรดให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
Relative Strength Index หรือ RSI เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมมากสำหรับการเทรดหุ้น ฟอเร็กซ์ และคริปโต เพราะมีความสามารถในการบอกจุดที่ซื้อหรือขายเกินไป ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับวิธีการใช้ RSI อย่างมีประสิทธิภาพในการเทรดและกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานเครื่องมือนี้ Relative Strength Index RSI คืออะไร? RSI คือเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้วัดความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอของราคาสินทรัพย์ โดยดูจากการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด ค่า RSI จะแสดงในรูปแบบตัวเลขระหว่าง 0-100 ซึ่งบ่งบอกถึงความแรงในการซื้อหรือขาย ประวัติและแนวคิดเบื้องหลัง RSI RSI ถูกพัฒนาโดยนักวิเคราะห์ชื่อ J. Welles Wilder ในปี 1978 โดยมีแนวคิดพื้นฐานคือการใช้ค่าความผันผวนของราคาในอดีตเพื่อคาดการณ์แนวโน้มของราคาต่อไป ทำให้ RSI กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในการวิเคราะห์ตลาด องค์ประกอบของ RSI RSI ประกอบด้วยองค์ประกอบหลักๆ คือค่าเฉลี่ยของช่วงราคาที่เพิ่มขึ้นและลดลงในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งนักเทรดมักใช้ค่ามาตรฐานที่ 14 วันในการคำนวณ RSI เพื่อดูความแข็งแกร่งของแนวโน้ม การคำนวณ RSI แม้ว่าเครื่องมือวิเคราะห์หลายๆ ตัวจะคำนวณ RSI…
-
วิธีอ่านสัญญาณซื้อขายจาก Bollinger Bands
Bollinger Bands เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมจากนักเทรดทั่วโลก เพราะสามารถช่วยในการคาดการณ์แนวโน้มของราคาสินทรัพย์และบอกถึงระดับราคาที่เป็นไปได้ว่าจะซื้อหรือขายได้อย่างแม่นยำ ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจว่า โบลินเจอร์แบนด์ คืออะไร และวิธีการอ่านสัญญาณซื้อขายจากเครื่องมือนี้อย่างถูกต้อง Bollinger Bands คืออะไร? BollingerBands เป็นเครื่องมือที่สร้างขึ้นโดย John Bollinger ในปี 1980 โดยเป็นการรวมการใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) กับค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) เพื่อช่วยระบุระดับราคาที่มีความเป็นไปได้ในการกลับตัวหรือแนวโน้มใหม่ ประวัติความเป็นมาของ Bollinger Bands John Bollinger นักวิเคราะห์ทางเทคนิคชื่อดัง ได้พัฒนาเครื่องมือนี้เพื่อตอบโจทย์การเทรดในตลาดที่มีความผันผวนสูง BollingerBands ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายและถูกใช้ในหลากหลายตลาด ทั้งหุ้น สกุลเงิน และสินค้าโภคภัณฑ์ องค์ประกอบของ Bollinger Bands BollingerBands ประกอบด้วยเส้นสามเส้นหลัก ได้แก่ เส้นกลาง (Moving Average) เส้นบน (Upper Band) และเส้นล่าง (Lower Band) โดย Upper และ…
-
การใช้ Moving Average หรือ Indicator EMA ประกอบการเทรด มีแนวทางอย่างไรบ้างแนะนำวิธีการใช้
การเทรดในตลาดการเงินนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งการใช้เครื่องมืออย่าง MovingAverage (MA) โดยเฉพาะ Exponential Moving Average (EMA) เข้ามาช่วยถือว่าเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการวิเคราะห์ราคาอย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการใช้ MA และ EMA ประกอบการเทรด พร้อมทั้งแนวทางการใช้อย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถนำไปปรับใช้ในการเทรดของตัวเองได้ทันที Moving Average คืออะไร? ความหมายของ Moving Average Moving Average (MA) เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้เทรดเดอร์มองเห็นทิศทางของแนวโน้มราคาในอดีต โดยค่าเฉลี่ยจะถูกคำนวณจากราคาของสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่งๆ และนำมาใช้ในการคาดการณ์แนวโน้มของราคาในอนาคต ทำไม MovingAverage ถึงเป็น Indicator ที่นิยมใช้ เหตุผลที่ MA เป็นที่นิยมใช้ในการเทรด เพราะมันช่วยทำให้เทรดเดอร์สามารถมองเห็นแนวโน้มของตลาดได้ง่ายขึ้น ช่วยลดความสับสนในเรื่องของการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงสั้นๆ ประเภทของ Moving Average Simple Moving Average หรือ (SMA) SMA คือการคำนวณค่าเฉลี่ยจากราคาของสินทรัพย์ในช่วงเวลาที่กำหนด โดย SMA มีความเรียบง่ายและเหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นเทรดเนื่องจากไม่ซับซ้อน Exponential Moving Average…
-
กฎสำคัญในการทำ Day Trading ให้ประสบความสำเร็จ
Day Trading คืออะไร? Day Trading คือการซื้อขายสินทรัพย์ภายในวันเดียวกัน โดยเน้นการหาผลกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ นักเทรดแบบ Day Trade จะปิดทุกสถานะก่อนสิ้นวันเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาในช่วงข้ามคืน ความแตกต่างระหว่าง Day Trading กับการเทรดประเภทอื่น DayTrading ต่างจาก SwingTrading หรือการลงทุนระยะยาว เนื่องจากต้องการการตัดสินใจที่รวดเร็วและแม่นยำในการเปิดและปิดสถานะภายในวันเดียว นักเทรดต้องมีความรู้และความเข้าใจในการใช้เครื่องมือทางเทคนิคเพื่อช่วยในการตัดสินใจ ข้อดีและข้อควรระวังของ Day Trading ข้อดีของ เดย์เทรด คือการสามารถทำกำไรได้เร็ว ไม่ต้องถือสินทรัพย์ข้ามคืน และสามารถใช้ประโยชน์จากความผันผวนของตลาด แต่ข้อเสียคือความเสี่ยงสูง และต้องการความเชี่ยวชาญและการติดตามตลาดอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา การเตรียมความพร้อมสำหรับ Day Trade ความสำเร็จใน เดย์เทรด เริ่มจากการเตรียมความพร้อมที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตลาด การศึกษาแนวโน้ม และการวางแผนที่รอบคอบ ความสำเร็จใน เดย์เทรด เริ่มจากการเตรียมความพร้อมที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตลาด การศึกษาแนวโน้ม และการวางแผนที่รอบคอบ การเลือกตลาดและสินทรัพย์ที่เหมาะสม การเลือกสินทรัพย์ที่มีความผันผวนและสภาพคล่องสูง เช่น หุ้น สกุลเงิน หรือคริปโต เป็นสิ่งสำคัญในการทำ Day Trade…
-
กลยุทธ์ Swing Trading ที่ประสบความสำเร็จ
Swing Trading ถือเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักเทรดที่ต้องการหาโอกาสทำกำไรจากความผันผวนของตลาดในช่วงเวลาที่ไม่ยาวเกินไป การทำความเข้าใจพื้นฐานและการเลือกใช้เครื่องมือให้ถูกต้องจะช่วยให้นักเทรดสามารถประสบความสำเร็จในระยะยาวได้ วันนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์ Swing Trade ที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในตลาดได้มากขึ้น Swing Trading คืออะไร? SwingTrade คือการซื้อขายหุ้น สินทรัพย์ หรือสกุลเงินในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ตั้งแต่ไม่กี่วันไปจนถึงไม่กี่สัปดาห์ ซึ่งแตกต่างจากการเทรดแบบ Day Trading ที่มักซื้อขายในวันเดียวกันหรือการลงทุนระยะยาวที่ถือครองสินทรัพย์หลายเดือนหรือปี ความแตกต่างระหว่าง Swing Trading กับการเทรดแบบอื่น การเทรดแบบ Swing นั้นเน้นการหาโอกาสในช่วงที่ตลาดมีการแกว่งตัว โดยไม่ต้องเฝ้าติดตามตลาดอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ต่างจาก Day Trading ที่ต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วภายในวันเดียว ข้อดีและข้อเสียของ Swing Trade ข้อดีคือช่วยให้คุณมีเวลาวิเคราะห์และตัดสินใจมากขึ้น ไม่ต้องเร่งรีบเหมือน Day Trading แต่ข้อเสียคือคุณต้องรับมือกับความผันผวนที่อาจทำให้เกิดการสูญเสียได้ในช่วงสั้นๆ พื้นฐานของกลยุทธ์ Swing Trade การเทรดแบบ Swing ต้องการการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แม่นยำและมีการวางแผนการซื้อขายที่ดีเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าพอใจ การวิเคราะห์เทคนิคใน สวิงเทรด การวิเคราะห์เทคนิคคือหัวใจของการทำกำไรจาก Swing Trade นักเทรดควรเข้าใจการใช้กราฟและเครื่องมือต่างๆ เพื่อช่วยคาดการณ์แนวโน้มและจุดกลับตัวของราคา ตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ควรรู้ MACD,…
-
กลยุทธ์การเทรดคู่เงิน EUR/USD ที่ประสบความสำเร็จ
คู่เงิน EURUSD ถือเป็นคู่เงินที่มีการเทรดมากที่สุดในโลก เหมาะสำหรับนักเทรดทุกระดับ ด้วยความสภาพคล่องสูง ค่าสเปรดต่ำ และข่าวสารที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้ EUR/USD กลายเป็นตัวเลือกหลักของนักเทรดทั่วโลก บทความนี้เราจะพาคุณไปเรียนรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์ที่สามารถนำไปใช้ในการเทรดคู่เงินนี้ให้ประสบความสำเร็จ คู่เงิน EURUSD คืออะไร? ความหมายและความสำคัญของคู่เงิน EURUSD คู่เงิน EUR/USD คือการจับคู่ระหว่างสกุลเงินยูโร (EUR) และดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่งเป็นสองสกุลเงินที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ตลาดการเงินจะเทรดคู่เงินนี้เพื่อทำกำไรจากความเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจหรือการเมืองของสองภูมิภาคนี้มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงิน EURUSD ค่าเงิน EUR/USD มักจะถูกขับเคลื่อนโดยปัจจัยเศรษฐกิจของทั้งยูโรโซนและสหรัฐฯ การวิเคราะห์ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถคาดการณ์แนวโน้มของค่าเงินในอนาคตได้ ปัจจัยเศรษฐกิจของยูโรโซน ปัจจัยเศรษฐกิจของยูโรโซน เช่น อัตราดอกเบี้ย การเติบโตทางเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ จะมีผลโดยตรงต่อค่าเงินยูโร ซึ่งจะส่งผลต่อราคาของคู่เงิน EUR/USD ในการเทรด ปัจจัยเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เช่นเดียวกันกับปัจจัยเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อค่าเงินดอลลาร์ โดยเฉพาะการประกาศนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งอาจสร้างแรงกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้ ข้อดีของการเทรดคู่เงิน EURUSD คู่เงินที่มีสภาพคล่องสูง เนื่องจาก EUR/USD เป็นคู่เงินที่ได้รับความนิยมสูงสุด ทำให้สภาพคล่องในตลาดสูงมาก ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับนักเทรดที่ต้องการเข้าและออกจากการซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว…
-
รูปแบบกราฟแท่งเทียน: ประเภท การใช้งาน และประวัติความเป็นมา
กราฟแท่งเทียนคืออะไร? กราฟแท่งเทียน เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญสำหรับนักเทรดและนักลงทุนในตลาดการเงิน กราฟชนิดนี้ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือที่แสดงราคาซื้อขาย แต่ยังสามารถบอกถึงความเชื่อมั่นและอารมณ์ของตลาดในช่วงเวลานั้น ๆ ผ่านทาง รูปแบบแท่งเทียน ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วง ความสำคัญของกราฟแท่งเทียนในตลาดการเงิน เมื่อพูดถึงกราฟแท่งเทียน มันไม่ใช่แค่เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคธรรมดา ๆ แต่มันคือแผนที่ที่นักเทรดใช้เพื่อนำทางในทะเลแห่งการลงทุน ด้วยความสามารถในการแสดงข้อมูลที่มากมายในแท่งเทียนเดียว นักเทรดสามารถเข้าใจแนวโน้มและจุดกลับตัวของตลาดได้อย่างแม่นยำ ประวัติความเป็นมาของกราฟแท่งเทียน ต้นกำเนิดในประเทศญี่ปุ่น กราฟแท่งเทียนมีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 โดยการใช้ในการซื้อขายข้าว มิยาโมโตะ มูเนฮิสะ (Munehisa Homma) เป็นคนแรกที่นำกราฟแท่งเทียนมาใช้ในการวิเคราะห์ราคา เขาค้นพบว่าสามารถใช้รูปแบบแท่งเทียนในการพยากรณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตได้ การแพร่ขยายเข้าสู่ตลาดตะวันตก กราฟแท่งเทียนถูกนำเข้าสู่โลกตะวันตกโดยสตีฟ นีสัน (Steve Nison) ในปี 1991 ผ่านหนังสือของเขาชื่อว่า “Japanese Candlestick Charting Techniques” ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักเทรดและนักลงทุน ประเภทของกราฟแท่งเทียน รูปแบบกราฟแท่งเทียนพื้นฐาน แท่งเทียนขาขึ้น (Bullish) แท่งเทียนขาขึ้นหมายถึงช่วงเวลาที่ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงแรงซื้อในตลาดที่มากขึ้น นักเทรดมักจะใช้แท่งเทียนขาขึ้นเพื่อระบุแนวโน้มขาขึ้นในอนาคต แท่งเทียนขาลง (Bearish) แท่งเทียนขาลงตรงกันข้ามกับแท่งเทียนขาขึ้น ซึ่งแสดงถึงแรงขายที่มากขึ้น เมื่อราคาเปิดสูงกว่าราคาปิด นักเทรดมักจะใช้เป็นสัญญาณของแนวโน้มขาลงในตลาด รูปแบบกราฟแท่งเทียนที่ควรรู้จัก Doji…
-
คำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับ Copy Trade
Copy Trade คืออะไร Copy Trade เป็นวิธีการลงทุนที่ให้คุณสามารถคัดลอกการซื้อขายของนักลงทุนมืออาชีพได้ โดยไม่ต้องมีความรู้ลึกซึ้งในตลาดการเงิน การใช้ Copy Trade เจ้าไหนดี ให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมตลาดแต่ไม่มีเวลาในการศึกษาและวิเคราะห์ตลาดเอง ความสำคัญของการเลือกโบรกเกอร์ที่ดี การเลือกโบรกเกอร์ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือจะช่วยให้คุณสามารถลงทุนได้อย่างปลอดภัยและมั่นคง ประโยชน์และความเสี่ยงของการ Copy Trade แม้ Copy Trade จะมีประโยชน์ในการลดความยุ่งยาก แต่ก็มีความเสี่ยงที่ควรระวัง เช่น การพึ่งพานักลงทุนคนอื่นมากเกินไปอาจทำให้คุณเสี่ยงต่อการขาดทุนหากนักลงทุนนั้นทำการซื้อขายผิดพลาด การเลือก Copy Trade เจ้าไหนดี ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกโบรกเกอร์ เมื่อเลือกโบรกเกอร์สำหรับ Copy Trade คุณควรพิจารณาถึงปัจจัยหลายประการ เช่น ค่าธรรมเนียม ความน่าเชื่อถือ ความง่ายในการใช้งาน และบริการลูกค้า รีวิวโบรกเกอร์ที่นิยมในตลาด ตลาดการเงินมีโบรกเกอร์หลายเจ้าที่น่าสนใจ เช่น Guze Markets, XM, และ Exness ที่มีบริการ Copy Trade ที่แข็งแกร่ง คุณควรทำการวิจัยและเปรียบเทียบเพื่อหาโบรกเกอร์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ ความสำคัญของความปลอดภัยในการเลือกโบรกเกอร์ ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะโบรกเกอร์ที่มีมาตรการความปลอดภัยที่ดีจะช่วยปกป้องเงินลงทุนของคุณจากการถูกโกงหรือถูกโจมตีจากภายนอก…
-
ความหมายของ Stop Loss
Stop Loss คือ การหยุดขาดทุน หรือคำสั่งที่เทรดเดอร์กำหนดไว้ล่วงหน้าเพื่อปิดการเทรดในกรณีที่ตลาดไม่เป็นไปตามคาดหวัง เมื่อราคาของสินทรัพย์ถึงจุดที่กำหนดไว้ คำสั่ง Stop Loss จะทำงานโดยอัตโนมัติ และปิดตำแหน่งการเทรดเพื่อป้องกันการสูญเสียเพิ่มเติม ความสำคัญของ Stop Loss ในการเทรด Stop Loss เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการจัดการความเสี่ยงสำหรับเทรดเดอร์ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือมืออาชีพ การใช้ Stop Loss ช่วยให้คุณไม่สูญเสียเงินทุนมากเกินไปในกรณีที่ตลาดผันผวนหรือมีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ประเภทของ Stop Loss Fixed Stop Loss Fixed Stop Loss เป็นการกำหนดจุดหยุดขาดทุนแบบตายตัว เมื่อราคาสินทรัพย์เคลื่อนที่ถึงจุดที่กำหนด คำสั่งจะทำงานทันที วิธีนี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการกำหนดความเสี่ยงอย่างชัดเจน Trailing Stop Loss Trailing Stop Loss เป็นการกำหนดจุดหยุดขาดทุนแบบเลื่อนตามราคาสินทรัพย์ที่เคลื่อนที่ขึ้น ตัวอย่างเช่น หากราคาสินทรัพย์เพิ่มขึ้น คำสั่ง Stop Loss จะเลื่อนไปในทิศทางที่ราคาสินทรัพย์เพิ่มขึ้น ทำให้สามารถล็อกกำไรได้ในกรณีที่ตลาดกลับตัว Time Stop Loss Time Stop…
-
money management สำคัญอย่างไรกับการเทรด Forex และทองคำ เริ่มต้นอย่างไร
คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมการเทรด Forex และทองคำบางครั้งถึงประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่บางครั้งก็ขาดทุนจนแทบหมดตัว? คำตอบหนึ่งที่นักเทรดส่วนใหญ่มีเหมือนกันคือการจัดการเงิน หรือ Money Management ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถตัดสินผลลัพธ์ของการเทรดของคุณได้อย่างชัดเจน ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงความสำคัญของ mm และวิธีเริ่มต้นสำหรับผู้ที่สนใจในโลกของการเทรด Forex และทองคำ Money Management คืออะไร? ความหมายของ Money Management MoneyManagement หรือการจัดการเงินในบริบทของการเทรด หมายถึงการวางแผนและควบคุมการใช้เงินทุนในบัญชีเทรดของคุณ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อรักษาทุนและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรให้มากที่สุด การจัดการเงินที่ดีจะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับความเสี่ยงและรักษาการทำงานในตลาดได้อย่างยั่งยืน ความสำคัญของ MoneyManagement ในการเทรด Forex และทองคำ การป้องกันการขาดทุนที่ไม่จำเป็น การขาดทุนเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในการเทรด แต่ด้วยการจัดการเงินที่ดี คุณสามารถจำกัดความเสียหายให้เหลือน้อยที่สุดได้ เช่น การใช้ Stop Loss เพื่อป้องกันไม่ให้บัญชีของคุณถูกขาดทุนจนเกินควบคุม การเพิ่มโอกาสในการทำกำไร นอกจากการป้องกันการขาดทุนแล้ว การจัดการเงินยังช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ด้วย การใช้เทคนิคการจัดการความเสี่ยงอย่างมีระบบจะช่วยให้คุณสามารถรับผลประโยชน์จากการเทรดที่ประสบความสำเร็จได้อย่างเต็มที่ ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการจัดการ MoneyManagement ขนาดของบัญชีการเทรด ขนาดของบัญชีเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการจัดการเงิน การเลือกขนาดบัญชีที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น หากบัญชีของคุณมีขนาดเล็ก การเสี่ยงในแต่ละครั้งควรจะถูกควบคุมให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดการขาดทุนที่เกินความสามารถของบัญชี การกำหนดความเสี่ยงต่อการเทรดแต่ละครั้ง ความเสี่ยงที่เหมาะสมในการเทรด Forex…