Day วานนี้ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เปิดตลาดราคาสามารถยืนเหนือแนวรับ 57.404-57.027 ทรงตัวเคลื่อนไหวในแนวบวก เข้าสู่แนวต้านที่ให้ไว้ ระดับ 58.314-58.693 ปิดแท่ง Bullish Doji ราคาน้ำยังคงแก่วงตัว แม้ว่า ช่วงเช้าวาน รายงาน API Report น้ำมันดิบลดลง 1.90 ล้านบาร์เรล (บวกต่อน้ำมัน) แต่ในช่วงค่ำ EIA Report รายงานน้ำมันดิบคงคลังเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล (ลบต่อน้ำมัน) ก็ยังคงไม่สามารถยืนยันสถานะอปุทานได้อย่างชัดเจน เช่นเดียวกับ สถานะการณ์การเจรจาสันติภาพ ระหว่างรัสเซีย- ยูเครน ซึ่งยังไม่มีผลสรุปออกมาชัดเจน มีแตทีทาการยอมรับสนธิสัญญา ที่ต้องปรับแก้ไขกันทั้ง 2 ฝ่าย แต่ปัจจัยการอ่อนค่าของ USD(DXY) อันเนื่องจากโอกาสที่ เฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า ยิ่งเป็นปัจจัยหนุนน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) ปิดที่ 58.65ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 1.21%
นักลงทุนติดตามการเจรจาสันติภาพ รัสเซีย- ยูเครน …
- 26 พ.ย.Yuri Ushakov ที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศของ ปูติน เผยรัสเซียได้รับสำเนาข้อตกลงสันติภาพ ล่าสุดจากสหรัฐแล้ว และได้ยอมรับในข้อตกลงบางส่วน แต่ส่วนอื่นๆต้องหารือเพิ่มเติม และยังไม่ได้หารือเป็นภายใน
- 25 พ.ย. ทรัมป์ เผยว่า ได้สั่งการให้คณะเจรจารัดบสูงของสหรัฐ เข้าพบ รัสเซีย และ ยูเครน เพิ่มเติม เร่ง หาทางยุติสงคคราม โดย แผนสันติภาพ 28 ข้อ ต่างฝายต่างมีจุดเห็นต่างเพียงไม่กี่ข้อ (อาจจะปรับลดบางข้อ จาก 28 ข้อ เหลือ 19 ข้อ)
ข้อกำหนดที่ยากสำหรัยยูเครน
– การยอจำกดักองกำลัง 600,000 นาย (ยุโรปเสนอ 800,000 นาย)
– ยูเครนจะไม่เข้าเป็นสมาชิก Nato และ Nato จะต้องไม่รับรองยูเครนในอนาคต และไม่ประจำกองกำลังในยูเครน
– การยอดให้รัสเซียได้ดินแดนที่ยึดครองได้ Crimea / Donetsk / Luhansk จะถือเป็นการให้รางวัลรัสเซียซึ่งเป็นประเทศที่รุกราน
– หลักประกันความมั่นคง ดูคลุ่มเคลือ โดยยูเครน เสนอว่า “หากรัสเซียกลับมารุกราน จะต้องมี Coordinated response + Sanctions กลับคืน” - แม้ว่า 25 พ.ย. สถานะการณ์การสู้รับยังคงรุนแรง ต่อเนื่องรัสเซีย ยิงขีปนาวุธและโดรน โจมตี เครียฟ มีผู้เสียชีวิต 7 ราย นอนกจากนี้ยังโจมตี Zaporizhzhia โครงสร้างพื้นฐาน และบ้านเรือนหลายหลัง ทาง ยูเครน มีการตอบโต้ เข้าไปยังเป้าหมาย ฐานทหาร โรงซ่อมอากาศยาน โรงงานอุตสาหกรรมในรัสเซีย
รายงานปริมาณน้ำมันคงคลัง API และ EIA ให้ผลรายงานที่ตรงข้ามกัน
- 26 พ.ย. American Petroleum Institute (API) รายงานปริมาณน้ำมันคงคลังรายสัปดาห์ ลดลง-1.9 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า
- 26 พ.ย. EIA รายงานปริมาณน้ำมันคงคลังประจำสัปดาห์ในช่วงค่ำ
– น้ำมันดิบ เพ่ิมขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล (มากกว่าคาดการณ์) รวม 426.9 ล้านบาร์เรล สาเหตุจาการนำเข้าน้ำมันดิบสุทธิที่เพิ่มขึ้น
– น้ำมันเบนซนิ เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล รวม 209.9 ล้านบาร์เรล
– น้ำมันกลั่น (ดีเซล และน้ำมันทำความร้อน ) เพ่ิมขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล รวม 112.2 ล้านบาร์เรล
– น้ำมันดิบคงคลัง(ส่งมอบ) ลดลง 68000 บาร์เรล สะท้อนอุปทานตลาดสหรัฐอิ่มตัว ..กดดันราคาน้ำมัน
Fed Watch tool คาดลดดอกเบี้ยประชุมครั้งหน้า … ปัจจัยบวกต่อน้ำมัน
- FED Watch tool เพิ่มโอกาสลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งหน้า เป็น 84.9% (เพิ่มจากวันพุธที่ 84.9%) จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแย่เกินคาด และการชะลอตัวของแรงงาน ยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการที่ เฟด จะลดดอกเบี้ยเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
– 26 พ.ย ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการณ์ว่างงาน 216K ลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 6000 ราย แต่ตัวเลยยังคงถือว่าอยู่ในระับสูงต่อสัปดาห์ สะท้อนการจ้างงานยังคงชะลอตัว - MIT รายงาน สหรัฐ ใช้ แรงงาน 11.7% จาก AI แทนคน ซึ่งคิดเป็นมูลค่าค่าแรงที่หายไป 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุม ด้านการเงิน สุขภาพ และ การบริการ / แต่งานกลุ่มสาขา สาธารณะสุข และขนส่ง ยังคงมีความจำเป็นต้องใช้คนจริง มาทำงานในขณะนี้
– นอกจากนี้ยังรวมถึงสัญญาณการลดดอกเบี้ยจากสมาชิก FED
– 25 พ.ย. Miran กล่าวว่า ปัจจุบันนโยบายดอกเบี้ยระยะสั้น (short-term rate) ของเฟด “เข้มข้น (restrictive)” เกินไปสำหรับภาวะเศรษฐกิจ ควร “ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม” เพื่อบรรเทาความเสี่ยงต่อการจ้างงานและการว่างงาน
– 24 พ.ย.-ถุ้อยแถลงของ Christopher Waller ผู้ว่าการเฟด ว่าแรงงานที่อ่อนแอเป็นเหตุผลให้สนับสนุน “cut ดอกเบี้ย” ในการประชุมธันวาคม นอกจากนี้ยังมีคาดการณ์ 65% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือน ม.ค.ด้วย - ความเป็นไปได้ที่เควิน แฮสเซตต์ (Kevin Hassett) ที่ปรึกษาเศรษฐกิจทำเนียบขาว จะขึ้นเป็นประธาน เฟด คนใหม่ ยังซ่อนความกังวลว่า แนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยที่เขาสนับสนุนอยู่นั้น อาจกดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐให้อ่อนลง
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น ซึ่งสอดคล้องใกล้ชิดกับความคาดหวังต่อทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย มีการขยับลงสั้น ๆ เมื่อตลาดเริ่มให้น้ำหนักแฮสเซตต์มากขึ้น ก่อนจะดีดตัวกลับในเวลาต่อมา
การค้า สหรัฐ – จีน กลับมาดีขึ้น … ปัจจัยบวกต่อ น้ำมัน
- 26 พ.ย. สหรัฐ ประกาศว่า จะขยายเวลายกเว้นภาษีศุลกากร (tariff exclusions) สำหรับ “สินค้าบางกลุ่ม” ที่นำเข้าจากจีน ออกไปอีก 1 ปี โดยสิทธิ์ยกเว้นนี้รวมถึง “อุปกรณ์สำหรับการผลิตพลังงานโซลาร์ (solar-energy products)” ด้วย
- การตัดสินใจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ “ข้อตกลงสงบศึกทางการค้า (trade truce / trade deal)” ระหว่าง Donald J. Trump (ประธานาธิบดีสหรัฐฯ) และ Xi Jinping (ประธานาธิบดีจีน) ที่เพิ่งบรรลุเมื่อต้นเดือน พ.ย. 2025
- ก่อนหน้านี้ สินค้าจากจีนหลายประเภท — โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี — ถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรตามมาตรา “Section 301” เนื่องจากข้อกล่าวหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและการโอนย้ายเทคโนโลยีโดยจีน
- การยกเว้นภาษีที่ขยายออกไป ครอบคลุม “14 หมวดหมู่ของอุปกรณ์ที่ใช้ผลิตสินค้าพลังงานแสงอาทิตย์ (solar-energy manufacturing equipment)” และอีก “164 หมวดหมู่ของสินค้าทางอุตสาหกรรมและการแพทย์ (industrial & medical goods)” เช่น มอเตอร์ไฟฟ้า, อุปกรณ์ตรวจวัดความดันเลือด, ชิ้นส่วนปั๊ม, auto-air compressor, แผงวงจร (printed circuit boards) เป็นต้น
H4/H1 โครงสร้าง H4 ยังคงเป็นเทรนด์ขาลง ทันทีที่ราคาปรับตัวร่วงลงระดับล 57.027 เริ่มปรากฎสัญญาณกลับตัว Bullish Divergence H4มีโอกาสที่กราคจะ Rebound ขึ้น ทั้งนี้หากราคาน้ำมันยืนเหนือ 60.816 ได้ จะเป็นจุด Choch สิ้นสุดโครงสร้างเทรนด์ขาลง ในขณะที่ H1 เป็นการเคลื่อนไหวออกข้า ในรูปแบบสามเหลี่ยม Triangle เพื่อเลือกข้าง
คำแนะนำ
- ปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซ์้อ) 57.586 – 57.888 /SL 57.500 เพื่อทำกำไร 58.025/58.161/58.388/58.548/58.708/58.775/58.906/59.226
แนวรับ 57.592/57.027/56.477
แนวต้าน 58.694/59.019/60.465


Leave a Reply