กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 13 พ.ย. 2568

Day วานนี้ราคาน้ำมันปรับตัวร่วงลงแรง (ตามคาด) แต่ร่วงหนักต่ำกว่าแนวรับ 58.753 ที่เป็น low เดิม เป็นการร่วงลงต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ลงสู่บริเวณแนวรับ SRF H4 กรอบ 57.839-58.447 ตามภาพของ Hamonic Cypher H4 ปัจจัยบสำคัญมาจาก รายงานประจำเดือน OPEC ซึ่งระบุว่า อุปทานน้ำมันล้นตลาดในปีหน้า ซึ่งสอดคล้องกับ รายงาน IEA ประจำปี ที่รายงานอุปสงค์น้ำมัน,ก๊าซธรรมชาติพลังงานสะอาด กลับเป็นที่ต้องการในตลาดต่อเนื่องจนถึงปี 2050 การยุติ Government Shutdown เป็นการทำให้ USD กลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง ซึ่งยังเป็นปัจจัยกดดันราคานำมัน ปิดแท่งรายวันวานนี้ Bearish Marubozo

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) ปิดที่ระดับ 58.49 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 4.18%

รายงาน OPEC ระบุว่า อุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด ในปี 2026 .. ปัจจัยกดดัน ราคาน้ำมัน

  • 11 พ.ย. รายงาน OPEC ประจำปี ะบุว่า อุปทานน้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2026 จะล้นตลาดเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นการปรับมุมมองครั้งสำคัญจากเดิมที่คาดว่าจะเกิดภาวะอุปทานตึงตัว
  • อันเป็นผลจากการเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ ประกอบกับการผลิตที่สูงขึ้นจากผู้ผลิตนอกกลุ่ม นับเป็นการปรับมุมมองครั้งสำคัญจากที่เคยคาดว่าจะมีภาวะขาดแคลน โดยกลุ่ม OPEC+ ผลิตน้ำมันเฉลี่ย 43.02 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนต.ค. ลดลง 73,000 บาร์เรล/วันจากเดือนก.ย. แม้จะมีข้อตกลงเพิ่มกำลังการผลิต โดยการลดลงส่วนใหญ่เกิดจากคาซัคสถาน
  • ความต้องการน้ำมันของ OPEC+ ที่คาดไว้ในปี 2026 อยู่ที่ 43.0 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งหมายความว่า หากกลุ่มยังคงผลิตในระดับเดือนต.ค. ตลาดโลกจะมีอุปทานส่วนเกินราว 20,000 บาร์เรล/วัน

IEA รายงานอปุทานล้นตลาดชั่วคราวในปีหน้า (เช่นเดียวกับ รายงาน OPEC) แต่อุปสงค์ความต้องการพลังงานสะอาดปรับตัว่สูงขึ้น … กดดัน ราคาน้ำมัน

  • IEA คาดว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะ เพิ่มขึ้นจนถึงปี 2050 โดยประมาณการว่า จะอยู่ที่ราว 113 ล้านบาร์เรลต่อวัน (mb/d) ในปี 2050 อุปสงค์ก๊าซธรรมชาติ (รวม LNG) ก็ได้รับการปรับเพิ่มในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะในเอเชีย/ตลาดเกิดใหม่ ซึ่งจะเป็นแหล่งเติบโตหลัก
  • ตลาดอาจจะมี “oversupply” ชั่วคราว แต่ในระยะยาวด้วยการลดผลผลิตจากแหล่งเก่า, อุปสงค์ที่เติบโตอาจเกิด “ขาดแคลน” ของโครงการน้ำมันใหม่หากไม่มีการลงทุนเพิ่ม คาดราคาน้ำมันอาจจะอยูเ่หนือ $100 / บาร์เรล ในปี 2050
  • แม้พลังงานสะอาด (เช่น พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานลม, นิวเคลียร์) ยังคงเติบโตอย่างมาก แต่ยัง EA เตือนว่า “นโยบายที่มีอยู่จริง” ยัง ไม่เพียงพอ ที่จะส่งให้โลกบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกตามข้อตกลงสภาพภูมิอากาศ หากต้องการให้การเปลี่ยนผ่านพลังงาน (net-zero) เกิดจริง จำเป็นต้องมีโมเดล “Net Zero Emissions by 2050 (NZE)” ซึ่งจะเห็นอุปสงค์น้ำมันและก๊าซลดลงอย่างมา
  • IEA ยังพบว่า “การใช้พลังงานไฟฟ้า” จะเติบโตอย่างรวดเร็วในทุก scenario โดยเฉพาะในภาคการเดินทาง, อาคาร, อุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นตัวดึงการใช้พลังงานสะอาดและเพิ่มประสิทธิภาพ

สถานะการณ์ฺ Government Shutdown คลี่คลายแล้ว

  • ร่างกฎหมายผ่านงบประมาณชั่วคราว สามารถผ่านโหวตจากสภาผู้แทน สหรัฐ 222 : 209
    – มีเพียง สมาชิก พรรครีพับลิกัน(พรรคทรัมป์) 2 คนที่ลงนามคัดค้าน / 216 เห็นชอบ
    – มีเพียง สมาชิก พรรคเดโมแครด 6 คน เห็นชอบ / 207 คัดค้านอย่างหนัก เพราะไม่พอใจที่ไม่มีการต่ออายุเงินอุดหนุนโครงการประกันสุขภาพหรือโอบามาแคร์
    หลังจากนี้จะส่งให้ทรัมป์ เพื่อลงนาม บังคับใช้ ในเช้าวันนี้ (ตามเวลาประเทสไทย)
  • นักลงทุนติดตามตัวเลขเศรษฐกิจหลังจากนี้ คาดอาจออกมาในทิศทางที่เป็นลบ ทั้งหนด ในช่วง Shutdown ต่อเนื่อง 43 วัน
  • โฆษกทำเนียบขาว ระบุว่า รายงานการจ้างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนต.ค. มีแนวโน้มจะไม่ถูกเผยแพร่ เนื่องจากการปิดหน่วยงานรัฐ ทำให้สำนักสถิติแรงงานสหรัฐฯ และหน่วยงานสำคัญด้านสถิติอื่น ๆ ต้องหยุดจัดทำและเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจทุกประเภท ส่งผลให้ผู้กำหนดนโยบายขาดข้อมูลสำคัญในการประเมินภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ
  • นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า แม้ข้อมูลบางชุดสามารถย้อนเก็บและเผยแพร่ภายหลังได้ แต่มีสถิติหลายรายการเสี่ยงสูญหายถาวร โดย CPI และอัตราว่างงานประจำเดือนต.ค. ถูกมองว่าเป็นข้อมูลที่มีความเสี่ยงสูงสุดเนื่องจากกระบวนการเก็บข้อมูลเป็นแบบสำรวจภาคสนามที่ต้องทำให้ตรงตามรอบเวลา
  • นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า หน่วยงานด้านสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ควรให้ความสำคัญกับการจัดทำและเผยแพร่รายงานการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนพ.ย. ทันทีที่รัฐบาลกลางกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง เพื่อให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีข้อมูลล่าสุดประกอบการตัดสินใจในที่ประชุมเดือนธ.ค.

ยอดขายรถ EV ทั่วโลก พุุ่งแรง … ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน

  • Rho motion เผย ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า EV ทั่วโลก เติบโตขึ้น 23% ในเดือน ต.ค. ระดับ 1.9 ล้านคัน โดยยอดขายพุ่งสูงใน โซนยุโรป (เยอรมนี ฝรั่งเศส และอังกฤษ)และคาดว่าจะมีการเร่งซึ่อเพิ่มมากขึ้นในเดือน ธ.ค.ก่อนที่มีการใช้ภาษีใหม่ จีน – ยุโรป ในขณะที่ ประเทศจีนกลับยอดขายตกลง ปัจจัยหลักมาจากการยุติโครงการณื รถเก่าแลกรถใหม่ในจีน นอกจากนี้ จีนยังเผชิญปัญหา การผลิตส่วนเกิน และสงครามราคา ที่กินกำไรผู้ผลิตอย่างต่อเนื่อง

H4/H1  แม้ว่วราคาน้ำมันสามารถทะลุขึ้น เหนือ Channel Downtrend Day ได้ในวันอังคาร แต่ท้ายที่สุดไม่สามารถขึ้นไปทดสอบบริเวณ แนว Choch H4 ที่เป็นจุดสิ้นสุดโครงสร้างขาลงได้ วานนี้ราคาปรับตัว่ร่วงลงกลับเข้ามาในกรอบ Channel Downtrend Day เหมือนเช่นเคย และลงมาทำเป้าปลายปี Harmonic Cypher H4 ปรับตัวร่วงกลับลงมา ในระดับ Low .ใหมที่ตำจาก Low เดิม ซึ่งอาจจะได้เห็นการ Rebound สั้นๆ เพื่อลงต่อ เนื่องจาก ราคาอยู่ในระดับ Oversold H4-H1

คำแนะนำ

  • เปิดสถานซื้อ (รอสัญญาณขาย) ที่กรอบ 57.839-58.447 / SL 57.000 เพื่อทำกำไร 58.504/58.567/58.673/58.748/58.823/58.915
  • เปิดสถานขาย (รอสัญญาณขาย) ที่กรอบ 59.050-59.495 / SL 59.500 เพื่อทำกำไร 58.915/58.854/58.748/58.673/58.568/58.432/58.349/58.259/58.098/57.799

แนวรับ 58.098/57.335/56.763

แนวต้าน 59.482/60.642/61.212

ปฎิทินเศรษฐกิจ 13 พ.ย.2568

บทวิเคราะห์ + รายงานข่าว

  • American Petroleum Institute (API) รายงานประจำสัปดาห์
    – น้ำมันดิบ (Crude) สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น +1.3 ล้าน บาร์เรล / สต็อกที่ Cushing, Oklahoma ลดลง -0.043 ล้าน บาร์เรล
    – น้ำมันเบนซิน (Gasoline) ลดลง -1.4 ล้าน บาร์เรล
    – ดีเซล/ผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นอื่น (Distillates) เพิ่มขึ้น +0.944 ล้าน บาร์เรล
  • ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง เพิ่มขึ้นอยู่ บ่งชี้ อุปสงค์ในตลาดไม่ม่ากพอ หรือผลผลิตน้ำมัน อยู่ในระดับสูง แต่ปริมาณสต็อกน้ำมันเบนซิน ลงลงอย่างชัดเจน ภาพการเดินทาง ภายในยังคงอยู่ในทิศทางดี แต่ ภาพการขนส่ง – การบริการยังคงไม่ดีพอ จาก สต็อกน้ำมันดีเซล ที่เพิ่มขึ้น


by

Tags:

Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *