กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 15 ต.ค. 2568

Day ;วานนี้ราคาน้ำมันทดสอบแนวต้านที่ให้ไว้  59.096-59.421 ก่อนจะปรับตัวร่วงลง (ตามคาด) เข้าสูแนวรับ 57.364 ก่อนจะRebound ขึ้นเล็กน้อย ปัจจัยการ่อ่อนค่ายังคงมีอย่างสม่ำเสมอหลังIEA ประกาศเตือน ภาวะน้ำมันล้นตลาดในปี 2026 ทั้งจากการเพิ่มลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ เพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาด และการเพิ่มกำลังการผลิตทั้ง สหรัฐ WTI และ Brent ในแคนาดา ปิดแท่งรายวัน Bearish Marubozo

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) ปิดที่ $ 58.70 ต่อบาร์เรล ลดลง 1.3%

EIA รายงาน อาจเกิดภาวะ อุปทานล้นตลาดในปี 2026 ในระยะยาว … ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน

  • สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ได้เผยแพร่รายงานประจำเดือนตุลาคม 2025 วานนี้ 14 ต.ค.
    – อุปทานน้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2026 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มกำลังการผลิตของประเทศผู้ผลิตน้ำมันทั้งในกลุ่ม OPEC+ และประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่ม เช่น สหรัฐฯ แคนาดา บราซิล และกายานา
    – ความต้องการน้ำมันจะเพิ่มขึ้นเพียง 710,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2025 และคาดว่าจะเติบโตในอัตราใกล้เคียงกันในปี 2026 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
    – การเพิ่มขึ้นของอุปทานน้ำมันที่สูงกว่าความต้องการอาจนำไปสู่ภาวะน้ำมันล้นตลาดถึง 3.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2026 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
    – IEA เตือนว่าความคืบหน้าในการพัฒนาพลังงานสะอาดยังคงล่าช้า แม้ว่าจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2024 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงพลังงานในอนาคต
  • ผู้บริหารจากบริษัทน้ำมันชั้นนำ เช่น ExxonMobil และ TotalEnergies คาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันจะปรับตัวเข้าสู่ภาวะสมดุลในระยะกลางถึงยาว โดยอ้างอิงจากการลดลงของการลงทุนในโครงการน้ำมันที่ไม่เป็นทางการและความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจเกิดใหม่

ความตึงเครียดการค้า สหรัฐ- จีน กลับมาอีกครั้ง … ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน

  • แม้ว่า 13 ต.ค.มีข่าวว่าทรัมป์ วางแผนพบ สี จิ้งผิง ในงานประชุม APEC ที่จัดปลายเดือน ต.ค. นี้ เพื่อผ่อนคลายความกังวล เรื่องภาษี กับจีน แต่คืนที่ผ่านมา ประกาศ
    “เล็ง ที่จะพิจารรา ระงับการค้า “น้ำมันปรุงพิช และสินค้า ประเภทอื่นๆ ”จากจีน โดยแนวคิดดังกล่าวเป็นมาตราการตอบโต้จีน ที่จีน ปฎิเสธ การซื้อ “ถั่วเหลือง”จาก สหรัฐ ซึ่งทรัมป์ ถือว่า เป็น ปฎิปักษ์ ด้านเศรษฐกิจและสร้างความเดือดร้อนให้กับ เกษตรกร สหรัฐ โดยเจตนา
  • ฝั่งจีน 12 ต.ค. จีน ได้ออกแถลงการณ์ ไม่เห็นด้วยกับการที่สหรัฐ ขึ้นภาษีนำเข้า สินค้าจากจีน 100% (เริ่ม 1 พ.ย.) อันเนื่องจาก “จีนเพิ่มมาตราการการเข้าถึงแร่หายาก” ซึ่งจีนมองว่าเป็นเรื่องที่สมควรและยุติธรรม การเพิ่มมาตราการจำกัดการส่งออกแร่หายากจากจีนเข้มงวดขึ้น ต้งแต่การ ออกกฎควบคุมบริษัทส่งออกจีน ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว จนมีการปรับเพิ่มข้อบังคับอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้
  • EU และสหรัฐ เตรียมจัดประชุม VC หารือ รับมือ วิกฤตแร่หายาก รับมือกับการควบคุมจำกัดแร่หายากของจีน
  • สัปดาห์ที่ผานมา จีนมีออกมาตราการตอบโต้สหรัฐโดยทันที่ ในเรื่องการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเรือ ที่เทียบท่า โดยจีนปรับค่าธรรมเนียมเรือสหรัฐ เพิ่มขึ้น $56 / ตันสุทธิ ซึ่งก่อนหน้า 1 วันสหรัฐ ปรับขึ้น ค่าธรรมเนียมเรือจีน เพิ่มขึ้นเป็ฯ $50 / ตันสุทธิ แต่เดิม ต่างฝ่ายต่างไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวมาก่อน

H4/H1 โครงสร้างยังเป็น downtrend อย่างต่อเนื่อง เป้าหมายการลงอยู่ที่ระดับ 56.488-55.617 เริ่มปรากฎสัญญาณ Bullish Divergence H4 ในทันที่ที่ราคาปรับตัวสร้าง Low ใหม่ แนะนำ รอราคา Rebound และเปิดสถานะขายจึงจะได้เปรียบกว่า

คำแนะน

  • เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย)ที่กรอบ59.904-59.117 / SL 60.000 เพื่อทำกำไรที่ 58.721/58.558/58.475/58.276/57.794/57.625/57.364

แนวรับ 57.381/56.908/56.488

แนวต้าน 59.117/59.904/60.493

ปฎฺิทินเศรษฐกิจ 15 ต.ค.2568

บทวิเะคราะห์ข่าว

  • ติดตามตัวเลข ดัชนีการเติบโตธุรกิจภาคการผลิต รัฐนิวยอร์ค หากตัวเลขออกมามากมากกว่าคาดการณ์สะท้อนการเติบโตการผลิต รัฐนิวยอร์คขยายตัว ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมันเล็กน้อย

by

Tags:

Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *