Day ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นมา หลังจากที่ศุกร์ที่ผ่านมาราคาปรับตัวร่วงลงอย่างหนัก การทรงตัวขึ้นยังคงเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ราคาปรับตัวขึ้นชนบริเวณแนวต้านที่ให้ไว้ 59.392-59.935 ก่อนปรับตัวร่วงลงไป (ตามคาด) แต่ยังถือว่าปิดแท่งรายวันในลักษณะ Bullish Hammer ที่สูงขึ้นกว่าวันศุกร์ที่ผ่านมา ปัจจัยส่งผลบวกกลับมาต่อน้ำมัน หลัง ทรัมป์ ประกาศแผน จะพบกับ สีจิ้งผิง ของจีน ภายในเดือน ต.ค. ช่วยคลายความกังวลในเรื่องสงครามการค้า ระหว่าง จีน – สหรัฐ หลังจากทรัมป์ขู่ขึ้นภาษี 100% ในวันศุกร์ที่ผานมาก OPEC+ ปรับเปลียนคาดการณ์ อุปสงค์ ในปี 2026 มีความใกล้เคียงกับอุปทานและกำลังการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นยังคงเป็นแรงกดดันราคาน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) ปิดที่ $ 59.49 ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1%
ทรัมป์เตรียมนัดพบสิ จิ้งผิง ภายในต.ค.ลดแรงกดดันความตึงเครียดสงครามภาษี… ปัจจัยบวกต่อน้ำมัน
- 13 ต.ค. สก็อตต์ เบสเซนต์ กล่าวว่า แม้จะมีความตึงเครียดทางการค้าเพิ่มขึ้น แต่การพบกันระหว่างทรัมป์กับสีจิ้นผิงในปลายเดือนตุลาคมที่เกาหลีใต้ ยัง “อยู่ในแผน” คาดว่าจะเป็นการประชุม เอเปก APEC ย้ำว่า มีการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่าง 2 ฝ่ายตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา” หลังจากที่จีนไม่ได้ตอบสนองต่อคำถามของรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับการตัดสินใจควบคุมการส่งออกแร่หายากเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นที่มาของการที่ทรัมป์ตัดสินใจในการขู่ขึ้นภาษี 100%
- 12 ต.ค. จีนออกแถลงการณ์ “มาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายาก Rare Earth เป็นการกระทำที่ชอบธรรม เพื่อปกป้องความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะทางทหาร”.ซึ่งจีน มีการ ออกใบอนุญาติส่งออกให้กับริษัทผู้ผลิตในสหรัฐ ที่ผ่านเกณท์ ได้รับอนุญาติ จากทางจีน เท่านั้น / หลังจากนั้น ทรัมป์ มีท่าทีที่ผ่อนปรน โพส“ ไม่ต้องกังวลเรื่องจีน สีจิ้งผิล ไม่ต้องการใช้จีนเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ไม่ต่างไปจากผม”
- 10 ต.ค. ทรัมป์ ขู่ประกาศเก็บภาษี 100% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีน เพื่อตอบโต้ การควบคุมแร่หากยากของจีน รวมภาษีนำเข้า 130% เริ่ม 1 พ.ย. หรืออาจเร็วกว่า ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของจีน / ตัวแทนการค้าสหรัฐ USTR พยายามติดต่อจีน เพือเจรจาเรื่องมาตราการควบคุมแร่หายาก แต่จีน ชะลอการตอบรับโทรศัพท์ ล่าสุด สหรัฐ ยกระดับ Entity List (บัญชีดำ) เพื่อควบคุมบริษัทจีน ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและความมั่นคง
- คาดว่าสหรัฐจะมีการควบคุม ด้านเทคโนโลยี IT และ ชิป ที่จะขายให้กับจีนมากขึ้น ส่งผลให้หุ้น IT สหรัฐปรับตัวร่วงลง และดึง ให้ ตลาดทั้ง Nasdaq / Down Jone และ S&P ปรับตัวร่วงลง /ประเทศ สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ถูกกดดันให้ จัดหาแร่หายาก เพื่อลดการพึ่งพาจีน
OPEC ชื้อ อุปทาน-อุปสงค์ในปี 2026 ใกล้เคียงกัน เตรียมปรับกำลังการผลิต… ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน
- 13 ต.ค. รายงาน OPEC+ เดือนต.ค. ระบุว่า ปริมาณอุปทานน้ำมันทั่วโลกในปี 2026 มีแนวโน้มใกล้เคียงกับอุปสงค์มากกว่าที่เคยประเมินก่อนหน้านี้ โดยมุมมองถูกปรับจากรายงานก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะเกิดภาวะขาดแคลน (deficit) ขนาดใหญ่ในปีดังกล่าวในเดือนกันยายนที่ผ่านมา OPEC+ ได้เพิ่มการผลิตขึ้นถึง 630,000 บาร์เรลต่อวัน ทำให้ระดับการผลิตทั้งหมดของ OPEC+ แตะที่ประมาณ 43.05 ล้านบาร์เรล/วัน
- OPEC+ ตัดสินใจ เร่งกำลังการผลิตให้เร็วขึ้นในปลายปี 2025 เป็นต้นไป ยังคึงต้องการ รักษาส่วนแบ่งตลาด โดยเฉพาะตลาดนอก OPEC เช่น สหรัฐ บราซิล กายอานา ที่มีการเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง
- ตลาดมองว่าอาจะเกิดภาวะ น้ำมันล้นตลาด Oversupply ได้ ราคาน้ำมันถูกกดดันให้เคลื่อนไหวในกรอบล่าง
เจรจาหยุดยิง Phase I อิสราเอล-ฮามาส เป็นไปได้ด้วยดี … ปัจจัยกดดัน ราคาน้ำมัน
- 13 ต.ค. ทรัมป เรียกร้องให้ผู้นำโลก (กว่า 20 ประเทศ) ที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเรื่องอนาคตของฉนวนกาซา สนับสนุนให้ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส ซึ่งนำโดยสหรัฐฯ กลายเป็น “สันติภาพที่ยั่งยืน” พร้อมยกย่องว่า ข้อตกลงดังกล่าวคือจุดเริ่มต้นใหม่ของภูมิภาคที่เผชิญสงครามมานาน ทรัมป์กล่าวว่า “วันนี้ เป็นครั้งแรกในความทรงจำของทุกคน เรามีโอกาสครั้งเดียวในชีวิตที่จะทิ้งความขัดแย้งและความเกลียดชังในอดีตไว้ข้างหลัง เราจะร่วมกันสร้างสันติภาพที่ยิ่งใหญ่ มั่นคง และยั่งยืน” หลังจากที่วานนี้ ฮามาส มีการปล่อยตัวประกัน อิสราเอล 20 คนที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อแลกกับตัวประกันปาเลสไตน์ ที่ปล่อยตัวตามมาอีกหลายร้อนคน ตามข้อตกลง Phase I
- ข้อตกลง Phase I ที่ทำขึ้นในวัน 9 ต.ค. ซึ่งรวมไปถึงข้อตกลงหยุดยิง ในฉนวนกาซ่าอีกด้วย ข้อตกลงดังกล่าวรวมถึงการถอนกองกำลังบางส่วนของอิสราเอลออกจากฉนวนกาซา ไปยังเส้นที่ตกลงกันไว้ แม้มีการประกาศหยุดยิง แต่ในช่วงก่อนการบังคับใช้จริง ยังคงมีการยิงและปฏิบัติการทางทหารบางจุดในฉนวนกาซาอยู่ อิสราเอลได้ประกาศหยุดปฏิบัติการหลักใน กาซาซิตี้ (Gaza City) เพื่อรองรับการเริ่มต้น
- 12 ต.ค. ฮามาสปะทะกลุ่มติดอาวุธ คู่อริ ในกาซาซิตี้ ผุ้เสียชีวิต 27 ราย
H4/H1 ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวในกรอบ Channel Downtrend Day และ H4 มีการสร้าง Low ในระดับที่ตำกวาเดิม แม้วานนี้ราคาจะทรงตัวขึ้นอย่างจำกัดบริเวณแนวต้านที่ให้ไว้ 59.392-59.935 ต่อก็ไม่สามารถยืนขึ้นเหนือ 59.935 ได้ ยังคงมีแรงเทขายออกมา (ตามคาด)
คำแนะนำ
- เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย)ที่กรอบ 59.096-59.421 / SL 60.500 เพื่อทำกำไรที่ 59.013/58.540/58.247/57.774/57.437/54.236/57.008
- เเปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย)ที่กรอบ 60.493-59.773 / SL 61.500 เพื่อทำกำไรที่ 59.624/59.556/59.439/59.355/59.234/59.013/58.540/58.247/57.774/57.437/54.236/57.008
แนวรับ 57.364/56.946/56.488
แนวต้าน 59.106/59.773/60.493

ปฎิทินเศรษฐกิจ 14 ต.ค.2568

บทวิเคราะห์ข่าว
- ติดตามถ้อยแถลง เจอโรมพาวเวล์ในคืนนี้ หากส่งสัญญาณเกี่ยวกับการประชุมคร้งหน้า วันที่ 25 ต.ค. ในเรื่องแนวคิดในการปรับ – คง อัตราดอกเบี้ย จะส่งผลความผันผวนต่อ USD และน้ำมันในฐานะสินทรัพย์จับคู่
Leave a Reply