กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 2 ต.ค. 2568

Day ราคาน้ำมันปรับตัวร่วงอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่ 3 แตะระดับต่ำกสุดในรอบ 16 สัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก จากสถานการณ์ชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ และแรงกดดันจากความคาดหวังว่า OPEC+ จะเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนพ.ย. และประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ADP วานนี้ ยังสะท้อนการหดตัวของภาคแรงงาน แต่ยังไม่ถึงบริเวณแนวรับ 61.415-60.534 ที่ให้ไว้ ราคา rebound ขึ้นมาเล็กน้อย ราคายังคงไม่สามารถทะลุลงปิดแท่ง ต่ำกว่า Choch Day ที่ราคา 61.192 และหาวันนี้สามารถปิดแท่งรายวันต่ำกว่าราคาดังกล่าวได้ ก็จะสามารถยืนยันการเป็นเทรนด์ขาลงของราคาน้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) ปิดที่ 61.78 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.9%

ผลการประชุม OPEC+ Meeting เน้นยัำการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันตามโควต้าที่แต่ละประเทศตกลงไว้ ไม่ได้เพิ่มอย่างบ้าคลั่งตามข่าวลือ … ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน

• การประชุมครั้งที่ 62 ของ JMMC จัดในรูปแบบ VDO Conference วานนี้ย้ำถึง สมาชิกต้องปฏิบัติตามข้อตกลงการผลิตน้ำมันอย่างเต็มที รวมถึงการลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมสำหรับสมาชิกที่ผลิตเกินโควตาในอดีต
• เลขาธิการ OPEC ได้รับ “แผนการชดเชย (compensation plans)” ที่ปรับปรุงใหม่จาก 6 ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย อิรัก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต คาซัคสถาน และโอมาน เพื่อชดเชยการผลิตเกินโควตาในช่วงที่ผ่านมา โดนประเทศที่ต้องชดเชยมากที่สุดคือ คาซัคสถาน ตามมาด้วยอิรัก, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และรัสเซีย
• ทาง OPEC ได้ปฏิเสธข่าวลือที่ว่า OPEC+ จะเพิ่มกำลังผลิตขึ้นถึง 500,000 บาร์เรล/วัน ในการประชุมครั้งนี้ เดิมได้ตกลงเพิ่มโควตาการผลิตรวม 137,000 บาร์เรล/วัน สำหรับเดือนตุลาคม แต่ประเมินว่าการผลิตจริงอาจต่ำกว่าจำนวนดังกล่าว

ADP – Nonfarm ตอกย้ำสัญญาณแรงงานอ่อนแรง… ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน

• การจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ จากสถาบัน ADP ลดลง 32,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังปรับฤดูกาล ถือเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2023 สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า จะเพิ่มขึ้น 45,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ ตัวเลขเดือนส.ค. ยังถูกปรับลดจากการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น 54,000 ตำแหน่ง มาเป็นการลดลง 3,000 ตำแหน่ง ยิ่งตอกย้ำสัญญาณว่าตลาดแรงงานกำลังอ่อนแรงลง ตอกย้ำโอกาสที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมปลายเดือน ตุลาคม

EIA Report ให้ผลต่างกับ API ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสูงขึ้น … ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน

• 1 ต.ค. รายงาน EIA ปริมาณน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้น 416.50 ล้านบาร์เรล ในขณะที่การผลิตน้ำมันภายในประเทศ ปรับเพิ่มขึ้น 4000 บาร์เรลต่อวัน แม้ว่าจะมีปริมาณนำเข้าน้ำมันที่ลดลง เช่นเดียวกับการส่งออกจน้ำมันที่ลดลงเช่นกัน

Government Shutdown วานนี้วันแรก อาจยังไม่ส่งผลกระทบต่อ USD มากนักเว้นแต่ จะยืดเยื้อออกไปหลายวัน ….ปัจจัยกดดันราคา USD(DXY) และ ราคาน้ำมันหากมีการยิดเยื้อออกไป

• ร่างงบประมาณไม่ผ่านที่ประชุม วุฒิสภา สภาคองเกส ภายในวันที่ 30 ก.ย. โดยการชัตดาวน์ที่เริ่มต้นตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน หลังพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงงบประมาณได้ และจะดำเนินต่อไปจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะรวบรวมเสียงเพียงพอเพื่อผ่านแผนการจัดสรรงบประมาณ ส่งผลให้ ไม่มีงบประมาณในวันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป เกิด Government Shutdown ในหลายหน่วยงาน มีพนักงานถึงครึ่ง จากทั้งหมด 85,907 ถูกคำสั่งพักงาน ส่งผลให้การดำเนินงานหลายอย่างต้องหยุดชะงักลง
• การหยุดทำงานเป็นคร้งแรก หลังจากปี 2018-2019 ซึ่งหากไม่สามารถ บรรลุแผนงบประมาณชั่วคราวได้ภายในวันพรุ่งนี้ อาจทำให้ สำนักงานสถิติแรงงาน (BLS) ไม่สามาุรถ เผยแพร่รายงานการจ้างงาน นอกภาคการเกษตร ในช่วงค่ำวันพรุ่งนี้ได้
• Russell Vought ผอ. งบประมาณ เตรียมเดินหน้าปลดพนักงานรัฐบาลกลางจำนวนมากอย่างรวดเร็ว สะท้อนว่าพรรครีพับลิกันกำลังใช้ยุทธวิธีแข็งกร้าวเพื่อกดดันให้พรรคเดโมแครตยอมอ่อนข้อและยุติภาวะชัตดาวน์รัฐบาล ซึ่งบางหน่วยงานของรัฐบาลจะเริ่มกระบวนการเลิกจ้างเจ้าหน้าที่ภายใน 1–2 วัน ในขณะที่โฆษกทำเนียบขาว รางงานว่า อาจเกิดการเลิกจ้างภายใน 2 วันอย่างแน่นอน
• Government Shutdown ส่งผลให้การจ่ายเงินอุดหนุนแก่เกษตรกรและการเข้าถึงเงินกู้ภาคการเกษตรจากรัฐบาลต้องหยุดชะงัก ถือเป็นแรงกดดันเพิ่มเติมต่อผู้ผลิตที่กำลังเผชิญราคาพืชผลตกต่ำ หนี้สินพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสงครามการค้าท่ามกลางฤดูกาลเก็บเกี่ยวช่วงปลายปี
• Fitch Ratings หนึ่งในบริษัท จัดอันดับความน่าเชื่อถือด้านการเงินของโลก เผยว่า การชัตดาวน์ของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ จะไม่ส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศในระยะสั้น แค้ตะกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจจะขึ้นอยู่กับขอบเขตและระยะเวลาของการชัตดาวน์

H4/H1 โครงสร้างราคายังเป็นการเคลื่อนไหวแบบ Sideway กรวยปากเปิด ราคามีการสร้าง High ใหม่ สูงจากเดิม และ มีการสร้าง Low ที่ตำลงจากเดิมเช่นกัน หากราคาปิดตำกว่า 61.415 ซึ่งเป็นจุด Choch H4 ถือว่าสิ้นสุดโครงสร้างขาขึ้นระยะสั้น

คำแนะนำ

• เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย) ทีกรอบ 62.406-62.847 / SL 63.200 เพื่อทำกำไรที่ 62.300/62.100/61.984/61.781/61.500/61.430/61.310
• เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซื้อ) ทีกรอบ 61.192-60.534 / SL 60.000 เพื่อทำกำไรที่ 61.457/61.585/61.960/62.181/62.462

แนวรับ 61.958/61.392/61.010

แนวต้าน 63.974/64.468/65.205

ปฎิทินเศรษฐกิจ 2 ต.ค. 2568

บทวิเคราะห์ข่าว

• ติดตามประกาศ ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการณ์ว่างงานรายสัปดาห์ คาดออกมามาขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้วเล็กน้อย ซึ่งหาออกมามากกว่า หรือเท่ากับคาดการณ์ จะส่งผลกดดัน USD และ ราคาน้ำมัน ซึ่งสะท้อนเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัว