กลยุทธ์การลงทุน GBPUSD ประจำวันที่ 1 พ.ค.2568

Day โครงสร้างเทรนด์ขาขึ้น ราคาปรับตัวร่วงลงหลังจากขึ้นไปทดสอบ High ที่ 1.34433 ปิดจบแท่ง Bearish Marubozo จากปัจจัยแข็งค่าของ USD ที่แม้ประกาศผลออก Advance GDP – 0.3 % แต่มุมมองนักลงทุนคาดว่า Fed น่าจะมีการประกาศดอกเบี้ยลดลงในเดือน มิ.ย. – ธ.ค. 3 ครั้ง ส่งผลให้ USD แข็งค่าขึ้นชั่วคราว กดดัน GBP ในขณะตลาดดัชนีอเมริกา ปิด + ทั้ง 3 ตลาด

30 เม.ย. ดัชนี FTSE 100 ของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนปิดที่ระดับ 8,091.6 จุด ลดลง 0.26% ราคาร่วงลงวันแรก หลังจากการขึ้นอย่างต่อเนื่อง 12 วัน

ประกาศตัวเลข Advance GDP Q1-2025 วานนี้ – 0.3 % … บ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว แต่ USD แข็งค่าขึ้น

• ประกาศตัวเลข Advance GDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวม)ไตรมาส ที่ 1 ปี 2025 -0.3% สะท้อนเศรษฐกิจหดตัว ซึ่งถือครั้งแรกในรอบ 3 ปี (หากไตรมาศที 2 ติดลบอีก สหรัฐจะเข้าสู่โหมด เศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิค Technical Recession) ผลกระทบจากนโยบายการค้าที่ไม่แน่นอนของทรัมป์ และความตึงเครียดระหว่าง สหรัฐ-จีนซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมันใจการลงทุนและบริโภค
• เศรษฐกิจชะลอตัวเป็นผบลบต่อการจ้างงานและเงินเฟ้อที่สูงขึ้น : ประกาศตัวเลข ADP Nonfarm วานนี้อยู่ที่ 62K (เดือนที่แล้ว 147K) ทั้งนี้ต้องติดตามตัวเลข Nonfarm(ประกาศโดยภาครัฐ)ในวันพรุ่งนี้เพื่อยืนยันตัวเลขอีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่ Core PCE Price Index 0.0% สะท้อนเศรษฐกิจชะลอตัว
• ตลาดคาดการณ์ FED จะรีบประกาศลดดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ โดยเริ่มจากเดือน มิ.ย. – ธ.ค. เพื่อเป็นการกระตุ้นภาคเศรษฐกิจในสหรัฐ ส่งผลให้ USD (DXY) แข็งค่าขึ้นในระยะสั้น (นักลงทุนถือ USD ชั่วคราวในฐานะ Save Haven ที่มีดอกเบี้ย ณ ขณะนี้) เพื่อรอความชัดเจนเนื่องจากตลาดยังเผชิญกับความเสี่ยง สงครามการค้ากับจีน และนโยบายภาษีทรัมป์เช่นกัน

ทรัมป์เริ่มผ่อนคลายนโยบายภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ

• 1 พ.ค. ถ้อยแถลง โดนัล ทรัมป์ เนื่องในครบรอบ 100 วันดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 เน้นการลงทุนภายในประเทศ (นโบบายภาษีใหม่ในประเทศเพื่อสนับสนุนนักลงทุน) และให้ประชาชนอเมริการ “อดทน”และกล่าวโทษรัฐบาลก่อน กับปัญหา GPD หดตัว – 0.3% อีกทั้งยังขู่บริษัทผลิตยา หากไม่ย้อยฐานผลิตมาในประเทศอเมริลกา อีกทั้งยังส่งเสริมการผลิตภายในลดการนำเข้า ฟื้นฟูอุตสาหกรรมถ่านหินและการยกเลิกข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมการจ้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศ
• ยกเว้นภาษีสำหรับรายได้จากค่าทิป รายได้ล่วงเวลา และสวัสดิการประกันสังคม: ทรัมป์เสนอให้ยกเว้นภาษีสำหรับรายได้จากทิป รายได้ล่วงเวลา และสวัสดิการประกันสังคม เพื่อเพิ่มรายได้สุทธิให้กับแรงงานและผู้สูงอายุ .
• ขยายเวลากฎ Tax Cuts and Jobs Act (TCJA) ที่จะหมดอายุในปี 2025 ว่าด้วย ลดภาษีบริษัทเหลือ 21% (จาก 35%) / ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา /มาตราการหักค่าใช้จ่ายแบบเร่งด้วน สำหรับนักลงทุนใหม่/ปรับลดภาษีบางรายการ เช่นค่าธรรมเนียมนายหน้า,ค่าจดจำนองที่ดิน
• ยกเลิกเก็บภาษีสำหรับคนที่มีรายได้ต่ำกว่า $200,000/ปี แต่ให้ เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าต่างประเทศมาชดเชย

ความไม่แน่นอน นโยบายภาษีสหรัฐ & สงครามการค้า สหรัฐ-จีน…ส่งสัญญาณการเจรจาการค้า

• สื่อจีนระบุ “รัฐบาลทรัมป์ได้ติดต่อจีนเพื่อริเริ่มการเจรจาการค้า วานนี้” ในขณะที่่จีนรอความชัดเจนว่าที่ปรึกษาคนใดของ ทรัมป์ ซึ่งต้องเป็นผู้มีอิทธิพลต่อนโยบายค้าและเข้าเจรจากับจีนเท่านั้น
• ทรัมป์เริ่มอ่อนท่าทีทางเศรษฐกิจ ประกาศมาตรการบรรเทาภาษีนำเข้ารถยนต์-ชิ้นส่วนรถยนต์ โดยยกเว้นภาษีซ้ำซ้อน (เหล็ก-อะลูมิเนียม) และเปิดให้บริษัทขอคืนภาษีได้ 3.75% ของมูลค่ารถที่ผลิตในสหรัฐฯ ปีแรก และ 2.5% ในปีต่อไป เพื่อจูงใจการลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ.
• การเลื่อนกำหนดขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในบางรายการ: โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อรอการเจรจาต่อรองรอบใหม่กับจีน ซึ่งเป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้าในระยะสั้น
• ข้อตกลงยกเว้นภาษีซ้ำซ้อนกับคู่ค้าเอเชีย: มีการหารือเบื้องต้นกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกี่ยวกับการลดภาษีซ้ำซ้อนที่กระทบต่อการส่งออกสินค้าที่ผลิตร่วม เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักรกล

H4/H1 โครงสร้างเป็นเทรนด์ขาขึ้น H4 ณ ปัจจุบันราคาย่อตัวลงมาทางเทคนิคที่ระดับ 88.6% (ฺBearish Divergence) ทั้งนี้จุด CHOCH H4 (จุดเปลี่ยนโครงสร้างที่ราคา 1.32518) / H1 ราคาเคลื่อนที่ลงมาในระดับ 1.32764 ปรากฎ Bullish Divergence มีโอกาสที่ราคาจะ Rebound ขึ้น

คำแนะนำ

• เปิดสถานะซื้อ(รอสัญญาณซื้อ) ที่กรอบ 1.32748-1.32938 / SL 1.32000 เพื่อทำกำไรที่ 1.32997/1.33050/1.33170/1.33244
• เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย) ที่ราคา 1.33236-1.33476/ SL 1.33500 เพื่อทำกำไรระยะสั้น 1.33200/1.33170/1.33050

แนวรับ 1.32518/1.31982/1.31699

แนวต้าน 1.33494/1.33827/1.34363

ปฎิทินข่าว วันที่ 1 พฤษภาคม 2568

บทวิเคราะห์ข่าว

• ติดตามประกาศ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ-ภาคการผลิต คาดจะหดตัวเหลือ 48.0% ซึ่งหดตัวตำกว่าเดือนที่แล้วซึ่งราคา GBP ปรับตัวขึ้นสำหรับข่าวนี้ในช่วงตลาดเปิด ดังนั้น หาก ผลประกาศออกมา น้อยกว่า 48% จะส่งผลให้ GBP ปรับค่าสูงขึ้นอีก แต่หากออกมา เท่าเดิม 49.0 หรือ มากกว่าเดิม จะส่งผลให้ราคา GBP ปรับตัวร่วงลงได้