Day โครงสร้างเทรนด์ขาลง วานนี้ราคาน้ำมันทรงตัวในกรอบแคบ 1700 จุด แต่สามารถแทงทะลุ Supply H4 บริเวณแนวต้านกรอบ 63.447-64.164 ขึ้นไปก่อนย่อตัวลง (แนวต้านโดยทำลาย) มีโอกาสที่ราคาจะขึ้นต่อ ปัจจัยสำคัญ มาจากท่าทีของ โดนัล ทรัมป์ ช่วยทำให้ บรรยากาสสงครามทางการค้าเบาบางลง
สัญญา West Texas Intermediate (WTI) งวดส่งมอบเดือนพ.ค. ปิดที่ $63.54 ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.81%
ทรัมป์เริ่มถอย นโยบายภาษี(บางรายการ) ,กลับลำ ไม่มีแผนปลด “พาวเวล”
- รัฐมนตรีการคลังสหรัฐเผย สงครามการค้า จีน-สหรัฐ อาจจะคลื่คลายในอนาคตอันใกล้ ขณะทีทรัมป์ ยืนยันจะคุยกับ สีเจิ้นผิง เท่านั้นในการเจรจาการค้า อีกทั้งยังส่งสัญญาณจะไม่ขึ้นภาษีจีนถึง 145% แต่จะไม่ลดลงถึง 0 % และจะไม่มีมาตราการไม้แข็งกับจีน ส่งผลให้ดัชนีสหรัฐปิดบวกทุกกระดาน Don Jones +2.66% / S&P500 + 2.51% /Nasdaq +2.71%
- การพิจารณาปรับลดภาษีนำเข้าจากจีนของทรัมป์ มาจากความกังวลในเรื่องราคาสินค้าปลีกปรับตัวสูงและการขาดแคลนสินค้าที่จำเป็น หลังจากทรัมป์ เจรจากับผู้ค้าปลีกรายใหญ่ Walmart/ Home Depot/ Lowe’s / Target ในวันจันทร์ที่ผ่านมา และพบว่า บริษัทค้าปลีกปัจจุบันนำเข้าสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นจากจีน สูงถึง 60%ของสินค้าที่วางขายทั้งหมด ในขณะที่บริษัท Lowe’s และ Home Depot แทบจะไม่มีสินค้าที่ผลิตในอเมริกาเลย ทั้งนี้มาตราการภาษีกับจีน ส่งผลให้เกิดการชะลอการนำเข้าสินค้าในช่วงกลางปีนี้ด้วยและจะส่งผลให้เกิดภาวะ Short Supply ในเดือน มิ.ย.นี้เป็นต้นไป
- ทรัมป์ส่งสัญญาณ อาจชะลอหรือยกเว้นการขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ ข้อตกลง USMCA(เก็บภาษีนำเข้า 25% นำเข้ารถยนต์เริ่มใช้ 3 เม.ย./ชิ้นส่วนรถยนต์ เริ่มใช้ 3 พ.ค.) หลังจากผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐเตือนภาษีดังกล่าวส่งผลให้ ราคารถยนต์ สูงขึ้น-ยอดขายลดลง และทำให้มีการปลดพนักงานในอุตสาหกรรมนี้
- 23 เม.ย. ทรัมป์กลับลำ กล่าว ไม่มีเป้าหมายที่จะปลดเจอโรมพาวเวลาก่อนครบวาระในมิ.ย.ปีหน้า แต่ยังคงต้องการให้ Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่าทีของทรัมป์เปลี่ยนไปหลังจากประนาม Fed ว่าเป็น“ผู้แพ้ตัวใหญ่” ตลอดจนขู่จะหาทุกช่องทางในการปลด Fed จากเมื่อวันที่ 21 เม.ย. ซึ่งตรงกับที่ คริสติน ลาการ์ด (ประธาน ECB) ระบุว่า การปลด เจอโรม จะไม่เกิดขึ้นแน่นอน แต่หาก เจอโรม ปรับลดดอกเบี้ยตามคำขู่ทรัมป์ จะเท่ากับมีความผิดในการปฎิบัติหน้าทีโดยไม่ชอบ เนื่องจาก ประธานธนาคารกลางต้องทำหน้าที่ในการกำหนดนโยบายการเงินที่ควบคุมเงินเฟ้อตามเป้าหมาย
- การเจรจา สหรัฐ-อินเดีย : สหรัฐคาดสามารถส่งอาวุธและพลังงานให้อินเดีย ,ทรัมป์ แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตอินเดีย เหตุผู้ก่อการร้าย TRF (The Resistance Front) โจมตีนักท่องเที่ยว รัฐชัมมู และ แคชเมียร์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 28 คน บาดเจ็บมากกว่า 20 คน (โดยอ้างความโกรธแค้นที่รัฐบาลอินเดียให้ชาวอินเดียจากที่อื่นมาตั้งถิ่นฐานในพื้นที่)
สหรัฐ เพิ่มมาตราการคว่ำบาตรอิหร่านต่อเนื่อง กดดันการประชุม
- แม้ว่าการเจรจา อิหร่าน-สหรัฐ “ยุติการเสริมสมรรคนะยูเรเนียม” จะมีขึ้นในวันนี้ (ประชุมระดับผู้เชี่ยวชาญ) และ 26 เม.ย.(ประชุมระดับผู้นำ) สหรัฐยังคงประกาศมาตรการคว่ำบาตเพิมเติม โดยเน้นที่ LPG ( ก๊าซปิโตรเลียมเหลว) โดยพุ่งเป้าที่นักธุรกิจอิหร่าน”อีมามโจเมห์”
- ทั้งนี้ทั้งสหรัฐและอิหร่าน ยังคงเตรียมความพร้อมด้านกลาโหม ทรัมป์สั่งการให้สหรัฐเตรียมความพร้อม ลำเลียงอาวุธหนัก ยุโธปกรณ์ ประจำเกาะ Diego Garcia มุ่งโจมตีทางอากาศเข้าใส่เป้าหมายโครงการนิวเคลียร์ใต้ดินในอิหร่าน หากการเจรจาไม่บรรลุผลตามทรัมป์ต้องการ
สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ ลดลง
- API สถาบันปิโตเลียมสหรัฐ ประกาส สต็อกน้ำมันดิบลดลง 4.565 ล้านบาร์เรลในสุดสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้อาจะเกิดกิจกรรมการกลั่นที่เพิ่มขึ้นหรือระดับการส่งออกที่สูงขึ้น ทั้งนี้ติดตามข้อมูล จาก EIA (สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ) ซึ่งจะให้ข้อมูลเป็นทางการที่ชัดเจนกว่า
- OPEC+ (รวมรัสเซีย) ประกาศเร่งการผลิตน้ำมัน ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ..กัดดันราคาน้ำมัน ภาวะน้ำมันล้นตลาด
ปัจจัยสนับสนุนราคาน้ำมัน จากความไม่สงบในตะวันออกกลาง
- สาธารณะสุขกาซ่า รายงายผู้เสียชีวิต 50 คน จาก IDF กองทัพอิสลาเอลโจมตีเป้าหายของฮามาสใน เมอง คานยูนิส และกลางเมืองกาซ่าคืนวานนี้ อีกทั้งยังมีการสู้รบภาคพื้นดินบริเวณของค่าผู้ลี้ภัย AI-Nuseirat โดยอิสลาเอลอ้างเป็นกลุ่มเป้าหมาย ฮามาสกบดานอยู่
- ในขณะที่ UN ยังไม่สามารถ ส่งความช่วยเหลือเข้าไปได้ อาหารและยาเริ่มขาดแคลนอย่างหนักในพื้นที่ตอนเหนือกาซ่า ,อีหยิปต์ เตียมพื้นที่รับผู้บาดเจ็บจากกาซ่า รักษาตัวในโรงพยาบาล Sinai
- สหรัฐยังคงเพิ่มการสนับสนุนการทหาร และเรียกร้องให้อิสลาเอล เพิ่มมาตรากรปกป้องพลเรือน หลังฮามาสยิงจรวดเข้าใส่อิสลาเอลวานนี้ แต่สามารถูกระบบป้องกัน Iron Dome ของอิสลาเอลสกัดไว้ได้
- การกระทำดังกล่าวของอิสลาเอล โดยพุ่งเป้าไปที่ผู้บริสุทธิส่งผลให้ อิหร่าน และ กลุ่ม ฮิซบุลเลาะห์ ประกาสสนับสนุนกลุ่ม ฮามาส แต่ยังคงไม่ได้รับรายงานด้านปฎิบัติการทหารโดยตรง
- ในขณะที่ สหรัฐและพันธมิตร ยังคงตอบโต้ทางทหารแก่กลุ่มฮูติ โดยปฎิบัติการ Prosperity Guardian มีการลาดตะเวนทะเลแดง เครื่องบินรบ F/A-18 และเรือพิฆาต USS Carney และ USS Dwight D. Eisenhower ยังประจำการในพื้นที่ ทั้งนี้ยังคงมีการกองกำลังร่วม ซาอุ-สหรัฐ โจมตีทางอากาศเป้าหมายฮูติในเขต ตาอิซ และ มาริบ ในเยเมน
H4 /H1 ราคาน้ามันกลับตัวขึ้น ตาม Price Pattern : Inverse Head and Shoulder มีโอกาสขึ้นสู่เป้า 68.442-69.042 ซึ่งระดับสูงสุดของกรอบ Channel ขาลงของ TF Day / TF H1 – H4 ยังคงเป็นเทรนด์ขาขึ้น ราคาปรับตัวขึ้น(ตามคาด) สามารถทะลุผ่าน Supply H4 ที่กรอบ 63.447-64.164 ได้สำเร็จ ปรากฎสัญญาณ ฺBearish Divergence H1 แต่ฝั่ง Buy ยังคงได้เปรียบ (หากท่าทีทรัมป์ ผ่อนคลายเรื่องภาษีการค้า) รอให้ราคากลับกรอบจึงพิจารณาะซื้อ
แนะนำ
- เปิดสถานะซือ (รอสัญญาณซื้อ) 63.447-64.164 /SL 63.000 เพื่อทำกำไร 63.707/64.405/64.969/65.500
- เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย) ที่กรอบ 66.781-65.765 / SL 67.000 เพื่อทำกำไร 65.296/64.969/64.405/64.007/63.441/62.719
แนวรับ 63.532/62.552/61.653
แนวต้าน 65.780/66.725/67.993

ปฎฺิทินข่าว 23 เม.ย.2568

บทวิเคราะห์ข่าว
- ติดตามประกาศตัวเลข Manufacturing PMI ดัชนีผู้จัดการจัดซื้อ ภาคการผลิต หากตัวเลขต่ำกว่า 50.00 จะสะท้อนภาพเศรษฐกิจหดตัว (ซึ่งคาดการณ์อยู่ที่ 49.00) ทั้งนี้ถ้าตัวเลขต่ำกว่า 50 => USD ปรับตัวร่วง พร้อม WTI / หากตัวเลขออกมาสูงกว่าเดือนทีแล้ว => USD และ WTI มีแรงดีด (เกินตลาดคาด)
- ติดตามตัวเลข Service PMI ดัชนีผู้จัดการจัดซื้อ ภาคบริการ ซึ่งจะรวมไปถึง Logistic หากตัวเลขออกมาต่ำกว่า 50.00 คาดบริการหดตัว ซึ่งส่งผลต่อการนำเข้า-ส่งออก
- ติดตามตัวเลขประกาศ EIA ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง หากปรับตัวลดลง จะเป็นบวกต่อ WTI เนื่องจากมีการกระบวนการกลั่น และส่งออกน้ำมันดิบมากขึ้นแต่จะไม่ส่งผลต่อ USD โดยตรง
Leave a Reply