กลยุทธ์การลงทุน GBPUSD ประจำวันที่14 เม.ย. 2568

Week โครงสร้างเทรนด์ขาขึ้นสิ้นสุดลง ทันทีที่ปิด Week ต่ำกว่า 1.20999 ซึ่งถือเป็น Lowใหม่ที่ต่ำจากเดิม สัปดาห์ที่แล้ว ราคายังคงปิดอยู่ในระดับ QM Zone (1.29328-1.31593) ” Golden Pocket” หากราคาทะลุกรอบโซนดังกล่าว มีโอกาสกลับขึ้นไป High เดิม ที่ 1.34477 ปิดแท่งรายสัปดาห์ Bullish with both short shadow (ยังคงมีแรงซือในตลาดตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา

Day โครงสร้างเทรนด์ขาขึ้น ราคาดีดขึ้นตลอดทั้งวันปัจจัยมาจาการอ่อนค่าของ USD (DXY) ระดับ 99.069 ซึ่งต่ำที่สุดตั้งแต่ เดือน เม.ย. 2022

USD อ่อนค่าลงจากการโยกเงินไปยังตลาดหุ้น หลังจากทรัมป์ กลับลำยกเลิกเก็บภาษีตอบโต้สำหรับสินค้านำเข้า IT

• 12 เม.ย. ทรัมป์ สั่งยกเว้นเก็บภาษีต่างตอบแทน(Reciprocal tariff)เฉพาะ สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ ชิป แผงโซลาร์เซลล์ การ์ดความจำ หลังจากหลายบริษัทไอทีในอเมริกา (โดยเฉพาะ แอปเปิล อิงค์) ซึ่งมีการผลิตในจีน 80% และอินเดีย 20% (หากนโยบายของ ทรัมป์ ในการเพิ่ม ภาษีนำเข้าสินค้า IT จากจีน ถูกนำมาใช้จริง และส่งผลให้ โทรศัพท์มือถือบางรุ่นมีราคาสูงถึง 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 110,000 บาท))
• จีน แถลง “การยกเลิกภาษีนำเข้า IT เป็นเพียงก้าวเล็กๆ ในการแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด” พร้อมเรียกร้องให้ยกเลิกโดยสิ้นเชิงกับสินค้าทุกรายการ ในขณะที่ทรัมป์ออกมาโพสตอบโต้ จะไม่ยอมถอยเรื่องภาษี พร้อมย้ำการยกเลิกภาษีนำเข้า IT เป็นเพียงช่วงแรก ในขณะที่สหรัฐต้องพัฒนาสินค้า IT และ ยา ให้ผลิตในอเมริกาให้ได้โดยเร็ว แล้วจะกลับมาคิดภาษีเหล่านี้อีกภายหลัง “ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อยู่ภายใต้กฎหมายภาษีศุลกากรเฟนทานิล 20% ที่มีอยู่แล้ว และกำลังจะย้ายไปอยู่ในภายใต้ภาษีศุลกากรชุดใหม่ (ภาษีศุลกากร แบบเจาะจงพิเศษ) ” อีกทั้งยังจะดำเนินการตรวจสอบความมั่นคง ภาค เซมิคอนดักเตอร์และ Supply Chain ของ IT ทั้งหมด
• จีนเพิ่มการมาตราการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ 125% มีผลบังคับใช้ 12 เม.ย. อีกทั้งยัง เพิ่มรายชื่อบัญชีควบคุมการส่งออกสินค้า บริษัทสหรัฐอีก 12 แห่ง ตอบโต้การเรียกเก็บภาษีนำเข้าจีน 145%(125+20) ซึ่ง 20% โดยกล่าวหาว่า จีนเป็นผู้เกี่ยวข้องและทำให้ เฟนทานิลเขามายังอเมริกา นอกจากนี้จีนยังได้ดำเนินการ ฟ้องต่อ องค์การการค้าโลก (WTO) ถึงการละเมิดกฎเกฎฑ์ ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อ การค้า พหุภาคี การค้าระหว่างประเทศ
• จีนยังคงมาตราการควบคุมการส่งออกแร่หายาก 7 ชนิด ซึ่งกระทบ โครงการณ์ผลิต F35 ของสหรัฐ (มาตราการควบคุมการส่งออกของจีน จะกำหนด โควต้าการส่งออกในแต่ละปีไปสหรัฐ และเพิ่มข้อบังคับ ใบอนุญาติสำหรับการส่งออกแร่หายาก รวมทั้งจะเพิ่มภาษีการส่งออก (ค่าธรรมเนียมพิเศษ)ที่สูงขึ้น เพื่อเพิ่มต้นทุนการส่งออกไปยังสหรัฐ
• จีนยังคงมาตราการควบคุมการส่งออกแร่หายาก 17 ชนิด ซึ่งกระทบ โครงการณ์ผลิต F35 ,ขีปนาวุธ และ เรดาห์ ของสหรัฐ (มาตราการควบคุมการส่งออกของจีน จะกำหนด โควต้าการส่งออกในแต่ละปีไปสหรัฐ และเพิ่มข้อบังคับ ใบอนุญาติสำหรับการส่งออกแร่หายาก รวมทั้งจะเพิ่มภาษีการส่งออก (ค่าธรรมเนียมพิเศษ)ที่สูงขึ้น เพื่อเพิ่มต้นทุนการส่งออกไปยังสหรัฐ
• สี จิ้นผิง เตรียมเยือน 3 ประเทศ (เวียดนาม มาเลเซีย กัมพูชา) ในสัปดาห์นี้เพื่อกระชับความสัมพันธ์ ต่อแรงกดดันจากนโยบายภาษีทรัมป์ (เวียดนาม มีข้อขัดแย้งกับ จีน ในทะเลจีนใต้ + ผู้ผลิตจีนในเวียดนาม ไม่สามารถส่งออกไปอเมริกาได้) (กัมพูชามีการซ้อมรบ ร่วมกับกองทัพสหรัฐในช่วงปีที่ผ่านมา) (มาเลยเซีย ผู้ผลิตชิป Nvidia บริษัทไอที ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา ซึ่งมีข้อจำกัดห้ามส่งชิปไปประเทศอื่นโดยเฉพาะจีน เพื่อป้องกันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา)

ทรัมป์ ประกาศชะลอเก็บภาษีแบบ ตอบโต้ (reciprocal tariff) ออกไป 90 วัน แต่ยังเรียกเก็บ 10% Baseline Tariff สำหรับทุกชาติ (เพิ่มเติมจากสินค้าบางประเภทที่เรียกเก็บไปแล้ว)…. USD อ่อนค่าลง

• การขยายเวลาการเก็บภาษีแบบตอบโต้(Reciprocal Tariff) เนื่องจาก สหรัฐกำลังเผชิญกับ การเทขายพันธบัตรรัฐบาล (มูลค่าพันธบัตร+ดอกเบี้ย)อย่างหนัก ซึ่งส่งผลทำให้ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปีและ 30 ปี พุ่งสูงถึง 4.5-5.0% การเทขายพันธบัตรออกมาในครั้งนี้มาจากการประกาศนโยบายทางภาษี วันที 3 เม.ย. (ประเทศที่ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมากที่สุด ญี่ปุ่น จีน และสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบทางภาษีทั้งสิ้น) ซึ่งเป็นสัญญาณ ในการเกิดภาวะ เศรษฐกิจตกต่ำรุนแรง (Depression)
• สงครามการค้าที่รุนแรงระหว่างเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลกคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกและการเติบโตทางเศรษฐกิจ นักวิเคราะห์เพิ่มการคาดการ ว่ามีโอกาสอย่างน้อย 50% ที่สหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ ในขณะที่จีน คาดการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนปี 2025 จะชะลอตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
• ด้านสหประชาชาติ (UN) เตือนว่า ผลกระทบของภาษีอาจรุนแรงถึงขั้นหายนะสำหรับประเทศกำลังพัฒนา

สัปดาห์ที่แล้ว ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐลดลง คาด Fed ปรับลดดอกเบี้ย …. USD อ่อนค่าลง

• 10 เม.ย. ประกาศตัวเลข CPI y/y เงินเฟ้อฝั่งสหรัฐลดลงกว่าคาด 2.4% (ต่ำกว่าเดือนที่แล้ว 2.8% ในเดือน ก.พ.) ซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำสุดตั้งแต่เดือนมี.ค.2021 ขณะที่ Core CPI(ไม่รวมอาหารและพลังงาน) ลดลงเหลือ 0.1% คาด Fed จะปรับลดดอกเบี้ย 5 ครั้งในปีนี้ Fed Watch Tool เพิ่มโอกาศปรับลดดอกเบี้ยในวันที่ 7 พ.ค. 0.25% เป็น 35.5% (เพิ่มขึ้นจากก่อนข่าวประกาศ 20.4%) แม้ว่าประธาน Fed แต่ละสาขา ยังคงยืนยันคงดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า ราคาน้ำมันปรับตัวลงทันทีที่เงินเฟ้อลดลง(เป็นไปตามวิเคราะห์)
• นักลงทุนไม่วางใจ ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ วานนี้ แต่กังวลสงครามการค้า จีน-สหรัฐ ที่คาดว่าจะขยายเวลาออกไป Nasdaq – 4.19% /S&P -3.46%/Down Jone -8.61%
• ขณะที่หุ้นยุโรป ปรับตัวติดบวกทุกตัว ดัชนี DAX + 1%, ดัชนี CAC 40 ฝรั่งเศส + 1% และดัชนี FTSE 100 อังกฤษ + 0.6% ดัชนี Stoxx 600 ทั่วยุโรปเพิ่มขึ้น 0.7%
• ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ GDP อังกฤษเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนกุมภาพันธ์

…. USD อ่อนค่าลง จากการประชุมหารือ สหรัฐ- อิหร่าน รอบที่ 1 … ผ่อนคลายมาตราการคว่าบาตรอีหร่านแลกกับการหยุดพัฒนานิวเคลียร์ในประเทศ

• 12 เม.ย. ผู้แทนจากสหรัฐกับอิหร่าน สิ้นสุดการเจรจาครั้งแรกที่ประเทศโอมาน โดยมีโอมานเป็นตัวกลาง อิหร่านเรียกร้องต้องการทำข้อตกลง เพื่อจำกัดโครงการนิวเคลียร์(ไมใช่ยกเลิกทั้งหมด) เพื่อแลกกับการผ่อนคลายการคว่ำบาตรอีหร่านที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจของอิหร่านอย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งข้อตกลงยังไม่ยุตติ รอการกลับมาพูดคุยกันอีกในสัปดาห์หน้า
• ทรัมป์ ออกแถลงการ การเจรจาหารือเป็นไปด้วยดี ในขณะที่ยังคงมีการเตรียมความพร้อมทั้งในฐานทับ Diego Garcia ในมหาสมุทรอินเดีย (ซึ่งห่างจากอิหร่าน 5,245 กม ซึ่งอยู่ในรัศมีของการปฎิบัติการ เครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกล) ด้านอิหร่าน ยังคงเตรียมพร้อม ระวังขึ้นสุดรวมทั้งนำระบบสงครามอิเล็กทรอนิก์เข้ามาใช้ทั่วอ่าวเปอร์เซียและช่องแคบฮอร์มุส เพื่อสกัดกั้นโดรนสอดแนมของสหรัฐ

H4/H1  สิ้นสุดโครงสร้างเทรนด์ขาขึ้นใน Time frame H4 และการจะกลับขึ้นมาเป็นเทรนด์ขาขึั้นในระยะสั้นได้อีกครั้ง ราคาดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถทะลุ QM Zone ขึ้นไปได้ เริ่มปรากฎสัญญาณ Bearish Divergence H1 มีโอกาสที่ราคาย่อตัว

คำแนะนำ

• เปิดสถานะซื้อที่ 1.30518-1.30937/ SL 1.29100 เพื่อทำกำไรที่ 1.31098/1.31453/1.31952/1.32261/1.32759
• เปิดสถานะซื้อที่ 1.29844-1.30268/ SL 1.29100 เพื่อทำกำไรที่ 1.30646/1.30887/1.31098/1.31453/1.31952 /1.32261/1.32759
• เปิดสถานะขาย ที่ราคา 1.34402-1.33094 / SL 1.3500 เพื่อทำกำไรระยะสั้น 1.32882/1.32765/1.3269/1.32431/1.32122

แนวรับ 1.30919/1.30445/1.29816

แนวต้าน 1.32370/1.33086/1.34386