กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 22 พ.ย.2567

Day เทรนด์ขาลง ราคาปิดจบเป็นแท่งเขียว ราคาพยายามทรงตัวขึ้นแต่ไม่สามารถทะลุผ่านเส้นเทรนด์ไลน์ขาลงได้ แต่ได้รับแรงหนุนในเรื่องข่าวความขัดแย้ง รัสเซีย – ยูเครน ส่งผลทำให้ราคากลับขึ้นมาทดสอบ Supply H4 ในช่วงท้ายตลาดและช่วงตลาดเอเซียเช้านี้ กลับขึ้นไปทดสอบ Supply H4 ซึงยังไม่สามารถยืนได้ ส่งผลทำให้ราคา ยก High ที่ระดับ 70.465

H4/H1 โครงสร้างเป็น Sideway Up มีการยก High ที่จำกัด มีการสร้างสัญญาณการกลับตัว Bearish Divergence (RSI + MACD) ในทุกๆครั้งที่ราคายกสูงขึ้น

แนะนำ

• เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย เน้นกำไรฝั่งขา Sell สั้น) ที่กรอบราคา 70.778 -70.024 / SL 71.200 เพื่อทำกำไร ที่ 69.740 / 68.736

• ติดตามสถานะการณ์ รัสเซีย – ยูเครน ตลอดทั้งวัน

แนวรับ 69.740 / 68.736 / 67.662

แนวต้าน 70.446 /71.150 /71.903

บทวิเคราะห์ข่าว

• สถานการณ์การสู้รบ ระหว่าง รัสเซีย- ยูเครน ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติ ปูติน (รัสเซีย) เมื่อคืน 21 พ.ย. มีการโจมตี ยูเครน ที่เมือง Dnipro โดยใช้ขีปนาวุธที่มีหัวรบความเร็วเหนือเสียงที่ไม่ใช่นิวเคลียร์ (ขีปนาวุธ พิสัยกลาง) ตลอดจนปรับลดเกณฑ์ในการใช้ อาวุธนิวเคลียร์ ในขณะที่ยูเครน ก็มีแผนที่จะใช้อาวุธจากเกาหลีเหนือ หลังจากที่มีการยิงขีปนาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจาก อังกฤษ และ อเมริกาไปแล้ว หากข่าวสงครามยังคงยืดเยื้อจะส่งผลทำให้ราคา USD รับอานิสง ปรับตัวสูงขึ้น (Save haven) ซึ่งจะส่งผลทำให้ราคาน้ำมันไม่สามารถดีดตัวได้ไกล ตลอดจน ปัญหาเรื่อง ปริมาณสต็อกน้ำมัน ที่กดราคาน้ำมันเอาไว้
• ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย(เช้าวันนี้) และมีแนวโน้มจะปิดสัปดาห์ในแดนบวก เนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้นักลงทุนปรับเพิ่มค่าพรีเมี่ยมความเสี่ยงในตลาดน้ำมัน (+ ต่อน้ำมัน)
• การหยุดชะงักของอุปทานในนอร์เวย์และการอ่อนตัวลงของค่าเงินดอลลาร์ยังช่วยสนับสนุนราคาน้ำมันในช่วงต้นสัปดาห์ เช่นเดียวกับรายงานที่ระบุว่าองค์กรประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) อาจเลื่อนแผนการเพิ่มกำลังการผลิตออกไป (- ต่อน้ำมัน)
• นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากการซื้อเก็งกำไร หลังจากราคาลดลงอย่างมากในเดือนตุลาคมจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัว โดยเฉพาะในประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่อย่างจีน (+ ต่อน้ำมัน)
• OPEC+ กำลังพิจารณาเลื่อนแผนการเพิ่มกำลังการผลิตออกไปจนถึงปีหน้า ตามรายงานของรอยเตอร์สในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัวและราคาที่ลดลง