MORNING BRIEF : Gold Oil Stock Dollar

ราคา Gold ทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 10.79 ดอลลาร์ สู่ 2,035.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ในขณะที่เทรดเดอร์รอฟังถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ หลายคนในสัปดาห์นี้ เพื่อใช้ในการประเมินแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีร่วงลงจาก 4.164% ในช่วงท้ายวันจันทร์ สู่ 4.092% ในช่วงท้ายวันอังคาร และปัจจัยดังกล่าวส่งผลบวกต่อราคาทอง เพราะทองเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ดอกเบี้ย

ราคา Oil น้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันอังคาร หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยรายงานแนวโน้มพลังงานระยะสั้น และรายงานดังกล่าวระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐอาจเพิ่มขึ้นเพียง 170,000 บาร์เรลต่อวันในปีนี้ โดยปรับลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อนที่ +290,000 บาร์เรลต่อวัน โดยรายงานดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นสูงมากในช่วงแรก อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงบวกลงมาบ้างในเวลาต่อมา ในขณะที่นักลงทุนคาดการณ์กันว่า มีความเป็นไปได้ที่อิสราเอลกับกลุ่มฮามาสอาจจะหยุดยิงกันเป็นเวลานานในสงครามกาซา โดยนายแอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า ขณะนี้กำลังมีการพิจารณาคำตอบของกลุ่มฮามาสที่มีต่อข้อเสนอหยุดยิง ทั้งนี้ หลังจากตลาด NYMEX ปิดทำการในวันอังคาร การปิโตรเลียมสหรัฐ ซึ่งเป็นหน่วยงานของเอกชน ได้เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 ก.พ. โดยระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบในคลังสหรัฐปรับขึ้น 670,000 บาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินในคลังสหรัฐพุ่งขึ้น 3.65 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมัน distillate ในคลังสหรัฐดิ่งลง 3.7 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับขึ้น 53 เซนต์ หรือ 0.73% มาปิดตลาดที่ 73.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนปรับขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.77% มาปิดตลาดที่ 78.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกขึ้นเล็กน้อยในวันอังคาร ในขณะที่นักลงทุนพิจารณาตัวเลขผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐที่อยู่ในภาวะไร้ทิศทางชัดเจน และนักลงทุนปรับตัวรับถ้อยแถลงของผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ เพื่อใช้ในการประเมินว่า เฟดจะเริ่มต้นปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเมื่อใด โดยนายนีล แคชคารี ประธานเฟดสาขามินนิอาโปลิสกล่าวว่า เฟดยังคงทำงานไม่เสร็จในส่วนของภาวะเงินเฟ้อ แต่เขาตั้งข้อสังเกตว่า อัตราเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา และอัตราเงินเฟ้อระยะ 3 เดือนและระยะ 6 เดือนอยู่ที่ 2% ซึ่งตรงกับระดับเป้าหมายของเฟด ทั้งนี้ ดัชนี Nasdaq ขยับขึ้นน้อยมากในวันอังคาร เนื่องจากดัชนีได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงอย่างรุนแรงของหุ้นกลุ่มชิป โดยดัชนีฟิลาเดลเฟียสำหรับหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐปิดดิ่งลง 1% ในวันอังคาร โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นบริษัทแรมบัส อิงค์ที่รูดลง 19.2% หลังจากแรมบัสเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาส อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นกลุ่มการขนส่งของสหรัฐพุ่งขึ้น 2.1% โดยได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มสายการบิน เนื่องจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าอุปสงค์ในการเดินทางทางอากาศอยู่ในระดับแข็งแกร่ง โดยหุ้นบริษัทฟรอนเทียร์ กรุ๊ป โฮลดิงส์ ซึ่งทำธุรกิจสายการบิน พุ่งขึ้น 20.8% ในวันอังคาร หลังจากทางบริษัทเปิดเผยรายงานทางการเงินที่ดีเกินคาด ทางด้านดัชนีหุ้นกลุ่มวัสดุของสหรัฐพุ่งขึ้น 1.7% ในวันอังคาร และถือเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มใหญ่ที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในบรรดาดัชนีหุ้น 11 กลุ่มใหญ่ของสหรัฐ โดยดัชนีหุ้นกลุ่มวัสดุได้รับแรงหนุนจากหุ้นบริษัทดูปองท์ เดอ เนมัวร์ส ซึ่งเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ที่พุ่งขึ้น 7.4% หลังจากดูปองท์เปิดเผยผลกำไรไตรมาสสี่ที่ดีเกินคาด, ประกาศแผนซื้อคืนหุ้นขนาด 1 พันล้านดอลลาร์ และประกาศปรับเพิ่มเงินปันผล 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวกขึ้น 0.37% สู่ 38,521.36

ดัชนี S&P 500 ปิดปรับขึ้น 0.23 % สู่ 4,954.23

ดัชนี Nasdaq ปิดขยับขึ้น 0.07 % สู่ 15,609.00

  • ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอ่อนค่าลงในวันอังคาร หลังจากที่เพิ่งพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือนในวันจันทร์ โดยดอลลาร์ได้รับแรงหนุนในวันจันทร์จากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และจากการที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ ส่งสัญญาณแบบสายเหยี่ยว ทั้งนี้ ลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์กล่าวในวันอังคารว่า ถ้าหากเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวต่อไปตามแบบที่เธอคาดไว้ สิ่งนี้ก็จะเปิดโอกาสให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง แต่เธอยังไม่พร้อมที่จะระบุว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเมื่อใด ในขณะที่ยังคงมีความไม่แน่นอนในเรื่องของภาวะเงินเฟ้อ
    ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 104.14 ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร โดยอ่อนค่าลงจาก 104.46 ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 104.60 ในวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 2023ดอลลาร์/เยนอยู่ที่ 147.94 เยนในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร โดยร่วงลงจากระดับปิดตลาดวันจันทร์ที่ 148.67 เยน หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 148.89 เยนในวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. 2023 หรือจุดสูงสุดรอบ 2 เดือนยูโร/ดอลลาร์อยู่ที่ 1.0754 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันอังคาร โดยแข็งค่าขึ้นจาก 1.0741 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันจันทร์ หลังจากดิ่งลงแตะ 1.0721 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 2023

https://www.reuters.com/


Posted

in

by

Tags:

Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *